ลิ้มรสอาหารอินเดีย อร่อยระดับมหาราชา ที่ “รางมาฮาล”

สวัสดีคะพบกันอีกครั้งกับรีวิวนี้ ครั้งนี้กิมจิจะพาเพื่อนๆ ไปลองชิมอาหารอินเดียกันที่ห้องอาหาร “รางมาฮาล” (Rang Mahal) คะ แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าอาหารอินเดียที่นี่เค้าอร่อยเกิดคาด และเชื่อว่าคนไทยทานได้แน่นอนคะ

เมื่อไม่นานมานี้ได้มีโอกาสได้ไปลิ้มรสอาหารอินเดีย ที่ห้องอาหาร “ รางมาฮาล “ (Rang Mahal) ซึ่งตั้งอยู่บนชั้นที่ 26 ของโรงแรมแบรนดท์ กรุงเทพฯ ตอนแรกก็นึกในใจว่ารสชาติอาหารจะถูกปากหรือเปล่านะ กลิ่นเครื่องเทศจะแรงไปมั๊ยนะ เกิดความกังวลและหวั่นๆ อยู่ไม่น้อย เชื่อว่าเพื่อนๆ ทุกคนคงจะคิดไม่ต่างกับกิมจิแน่ๆ กิมจิเลยขอลองทานอาหารอินเดียดูบ้าง เพราะไม่ค่อยได้มีโอกาสที่จะเข้าไปสัมผัสกับรสชาติอาหารอินเดียแบบเต็มๆ สักที เอาละวันนี้เลยขอถือโอกาสมาชิมรสชาติอาหารอินเดียแบบต้นตำรับแท้ๆ กันบ้างรสจะชาติจะเป็นอย่างไรไปต่อกันเลย

รางมาฮาล มีความหมายว่าเป็นสถานที่ที่ใช้ในการจัดเลี้ยงของราชวงศ์อินเดีย ที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามโดยใช้การตกแต่งด้วยวัสดุกระจก สลับกับหินที่เรียกว่า ” Zharonkas ” ทำให้ดูหรูหราสวยงามราวกับอยู่ในพระราชวัง จากความหรูหราสวยงามนั้นเอง จึงนำคำว่า “รางมาฮาล” มาตั้งเป็นชื่อห้องอาหารอินเดียแห่งนี้ และเมนูอาหารที่เสิร์ฟภายในห้องอาหารนั้นถูกรังสรรค์ขึ้นจากฝีมือของเชฟ ราจาน มิสรา เชฟชาวอินเดีย ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการผสมผสานเครื่องเทศ และปรุงรสชาติอาหารอินเดียได้อย่างลงตัว มานานกว่า 20 ปี พร้อมการให้บริการแก่ผู้ที่มาทานอาหารที่นี่เหมือนกับราชาจนทำให้ รางมาฮาล ได้รับรางวัลมากมายจากหลายสถาบันเป็นห้องอาหารที่ดีที่สุดในประเทศไทยทีเดียว

เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศการพักผ่อนทานอาหารกันแบบราชาแล้วยังมีดนตรีอินเดียบรรเลงขับกล่อมให้เพลิดเพลินกับการทานอาหารอีกด้วย

เมนูอินเดียเรียกน้ำย่อย

รางมาฮาล — SALAD STATION Papri Chaat Semolina Pancakes with Yogurt Tamarind Sauce and Mint Sauce แพนเค้กทอด ปรุงรสด้วยซอสสะระแหน่ ซอสมะขาม และโยเกิร์ต

เริ่มหิวกันแล้วเราไปเริ่มที่เมนูเรียกน้ำย่อยกันก่อน มาแบบจัดเต็มอลังการงานสร้างมากคะ ประมาณ 3 อย่างได้ นี่แค่เมนูเรียกน้ำย่อยนะ อาทิ เมนูกุ้งลายเสือ ชีสอินเดียหมักเครื่องเทศ และ ขาแกะหมักเครื่องเทศ แต่ละเมนูน่าลองกันทั้งนั้น เสิร์ฟมาพร้อมเครื่องเคียงเพื่อดับเลี่ยน อาทิ หอมแดงแช่ในน้ำบีทรูท มะละกอเชื่อมใส่ลูกเกดและผลไม้ และแป้งปาปาดัม กรุบกรอบ รสชาติจะออกรสเผ็ดนิดๆ จะจิ้มกับซอสหรือทานกับเครื่องเคียงก็อร่อยดีนะ

PANEER TIKKA BADSHAHI Fresh Cottage Cheese Mildly Spiced and Barbecued in Tandoor ชีสอินเดียหมักเครื่องเทศสูตรพิเศษ ย่างในเตาทันดูร์ เนื้อสัมผัสคล้ายกับเต้าหู้ออกรสเปรี้ยวนิดๆ มันๆ รสชาติกลมกล่อมเข้ากับเครื่องเทศได้อย่างลงตัว (425 บาท)

TANDOORI PRAWNS Jumbo Prawn Marinated in Exotic Indian Spices, Finished in the Clay Oven เป็นเมนูกุ้งลายเสือเนื้อแน่นปรุงรสด้วยเครื่องเทศสูตรพิเศษ รสชาติอร่อยกลมกล่อม ย่างในเตาทันดูร์ เป็นเมนูยอดฮิตมาก จานนี้ต้องยกนิ้วให้เพราะมันอร่อยจริงๆ (860 บาท)

RAAN-E-KHYBER – Tender Lamb Leg, Marinated in Rum, Exotic Herbs and Spices, Barbecued on Charcoal ขาแกะหมักเครื่องเทศพิเศษและเหล้ารัมสูตรพิเศษ เนื้อแกะมีความนุ่ม ชุ่มฉ่ำ ไม่มีกลิ่นคาวอย่างที่คิดเลยนะ ปกติเนื้อแกะจะค่อนข้างกลิ่นแรงแต่เชฟที่นี่เค้าปรุงได้ดีมากกลิ่นไม่มีเลย รสชาติก็ครบรสกลมกล่อมเข้ากับเครื่องเทศเมนูนี้ก็เลิศนะ (ปกติ 950 บาท / ไซส์ใหญ่ 1,595 บาท)

มาถึงเมนูจานหลักกันบ้างที่อลังการไม่แพ้กันกับเมนูเรียกน้ำย่อยมีแกงหลากหลายรสชาติให้เลือกทานกันเยอะมาก ถึงหน้าตาจะคล้ายๆ กันไปหมดและเครื่องเทศที่ผสมอยู่ในซอสแต่ละเมนูล้วนแล้วเป็นสมุนไพรแบบอินเดียที่เพิ่มความพิเศษให้กับเมนูแต่ละจานได้อย่างลงตัวและอร่อยด้วย แต่ความพิเศษไม่ได้อยู่ที่เครื่องเทศอย่างเดียวนะรสชาติแต่ละเมนูก็โดดเด่นแตกต่างกันด้วย อาทิ แกงกุ้ง แกงไก่ และแกงแพะ ทานคู่กับแป้งนานอร่อยเข้ากันเลยทีเดียว ซึ่งแป้งนานก็มีให้เลือกด้วยนะว่าอยากทานแบบไหน จะแบบโฮลวีท หรือแบบธรรมดา เลือกได้ตามความชอบเลย นอกจากจะมีแกงแล้วยังมีเมนูกระเจี๊ยบสดผัดเครื่องเทศ ที่รสชาติจัดจ้านใครที่ชอบทานเมนูผัดๆ จานนี้แนะนำคะ

JHEENGA KADHAI – Fresh Prawn Cooked in an Indian Wok with Oriental Spices แกงกุ้งกับมะเขือเทศสับและเครื่องเทศรสจัดเข้มข้น อมเปรี้ยวนิดๆ ทานคู่กับแป้งนานอร่อยเข้ากัน กุ้งก็เนื้อแน่นเต็มคำจริงๆ (550 บาท)

ROGANJOSH KASHMIRI Pot-Roasted Mutton Cooked in Thick Onion Gravy with Selected Indian Spices แกงแพะย่าง ปรุงรสด้วยซอสหัวหอมกับเครื่องเทศอินเดียรสเข้มข้น เนื้อแพะชุ่มฉ่ำเข้ากับซอสที่ปรุงรสพิเศษจากเชฟ ไม่มีกลิ่นคาวด้วยทานกับข้าวร้อนๆ ก็อร่อยนะ (550 บาท)

MURGH TIKKA MASALA Diced Tandoori Chicken Cooked in Wok with Onions, Tomatoes and Whole Spices แกงไก่ไม่มีกระดูก ผสมกับครีมเครื่องเทศและน้ำซอสมะเขือเทศรสจัด เมนูนี้จะมีน้ำซุปเยอะหน่อยแต่รสชาติเข้มข้นไม่แพ้กัน (450 บาท)

PALAK PANEER Spinach and Cottage Cheese Cooked Together, Flavoured with Garlic ผักโขมปรุงพิเศษกับคอตเทจชีส ปรุงรสด้วยกระเทียม เมนูนี้ชอบสุดๆ กินเพลินดี ไม่ต้องจิ้มกับอะไรก็อร่อย หรือจะจิ้มกับแกงกุ้ง แกงไก่ แกงแพะ ก็เข้ากันสุดๆ (400 บาท)

BHINDI DO PYAZA – Okra, Fried and Cooked with Sliced Onions and Spices เมนูนี้เรียกว่า กระเจี๊ยบสดผัดหัวหอมและเครื่องเทศรสจัด เชฟนำเอากระเจี๊ยบสดไปผัดกับเครื่องเทศอินเดียรสจัด ทานกับข้าวร้อนๆ ก็อร่อยดีเวลาเคี้ยวจะสัมผัสถึงความกรุบกรอบของกระเจี๊ยบและหอมเครื่องเทศตลอดทุกคำที่ทาน (350 บาท)

SAFFRON PULAO Steamed Basmati Rice, Flavoured with Saffron ข้าวหมกเครื่องเทศ เราน่าจะคุ้นเคยกับข้าวที่ลักษณะเรียวยาวแบบนี้ นำมาหมกกับเครื่องเทศให้มีกลิ่นหอม ทานกับเมนูแกงอินเดียอร่อยเข้ากันทีเดียว (225 บาท)

เมื่อของคาวได้จัดเต็มกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเรามาลิ้มรสของหวานกันบ้าง ของหวานแบบอินเดียหน้าตาจะเป็นอย่างไรนั้นดูกันต่อเลย

GULAB JAMUN Cream Cheese Dumplings Flavoured with Cardamom Saffron and Topped with Roasted Almonds ครีมชีสแช่น้ำเชื่อมรสหวาน รสชาติค่อนข้างหวานมากๆ ราวกับทานทองหยิบทองหยอดของไทยเลยก็ว่าได้ เนื้อนุ่ม แต่พอทานไปเรื่อยๆ ก็อร่อยดีนะ (195 บาท)

แต่เมนูที่ถูกใจกิมจิเห็นจะเป็นเมนูผลไม้เคลือบช็อกโกแลต รสเข้มข้นของช็อกโกแลตเข้ากับผลไม้ดีเลยทีเดียว เสิร์ฟมาพร้อมกับความเก๋ไก๋

ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มสดชื่นแก้วนี้ NDIAN DRINKS AND FRESH JUICES Sweet Lassi Sweet Churned Milk with a Touch of Saffron and Pistachio เครื่องดื่มอินเดียทำจากโยเกิร์ต ปรุงด้วยแซฟฟรอนและถั่วพิสตาชิโอรสหวาน

หวังว่ารีวิวนี้จะชวนให้เพื่อนๆ อยากลิ้มลองอาหารอินเดียกันบ้าง แต่ถ้าใครเคยทานแล้วแต่ยังไม่ถูกปากลองมาทานที่ห้องอาหาร รางมาฮาล นี้ดูสิ อาหารอร่อยและบริการอย่างดีราวกับเราเป็นราชาเลยละ

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่อยู่ : ชั้น 26 โรงแรมแรมแบรนดท์ กรุงเทพ เลขที่ 19 สุขุมวิท ซอย18 คลองเตย กรุงเทพ 10110
โทร : 02 261 7100 ต่อ 7532
การแต่งกาย : Smart casual