คนที่ไม่สมควรทำความรู้จัก
โลกใบนี้ เต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่ต่างก็มีทั้งดี และร้ายปะปนกันไป ซึ่งสามารถพบเจอได้ทั้งคนที่อยากจะเข้าไปทำความรู้จัก และ คนที่ไม่สมควรทำความรู้จัก !
-
คนที่มองเห็นความสำคัญของเรา เมื่อเขาหมดตัวเลือก
จงจำไว้ว่า ชีวิตของเราไม่ใช่ตัวเลือกสุดท้ายของใคร เพราะเราทุกคนย่อมมีคุณค่าที่มากมายซ่อนอยู่ในตัวเองเสมอ
สำหรับบุคคลประเภทนี้ ถ้าหากเลิกคบได้ ก็ควรเลิกคบไปเลยจะดีกว่า นอกจากจะไม่ได้รับความจริงใจ หรือความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนยาวนานแล้ว ยังถือเป็นการบั่นทอนจิตใจของเราเอง ให้คอยแต่จะเสียความรู้สึกไปกับการที่เขาจะมองเห็นค่าของเรา แค่ในวันที่เขาหมดตัวเลือกเท่านั้น
-
คนที่ติดขี้เกียจ และรักในความสบาย
จริงอยู่ที่ไม่มีใครบนโลกนี้ไม่รักความสบาย แต่การรักสบาย โดยการเอาเปรียบคนอื่นอยู่บ่อยๆ หรือชอบผลักภาระของตัวเองมาให้คนอื่น คงไม่ใช่เรื่องที่ดี และสมควรทำแน่ ซึ่งเชื่อว่าในชีวิตจริงของใครหลายคน อาจต้องเคยพบเจอกับคนประเภทนี้กันมาแล้ว
และในบางครั้งก็กลายเป็นเรื่องยากที่จะปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ เพราะคนพวกนี้มักจะมีวิธีการพูดให้ตัวเองเอาตัวรอดได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการพูดจาหว่านล้อมให้ทำบางสิ่งบางอย่างให้ แต่ตัวเองกลับไม่ต้องเสียแรงทำอะไรเลย
-
คนที่คอยแต่จะวีนเหวี่ยง เมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามใจ
บุคคลที่ไม่รู้จักการแยกแยะ หรือเก็บกดอารมณ์ด้านลบไว้ ในขณะที่ตัวเองมีระดับวุฒิภาวะที่มากพอ ก็คล้ายกับพวกเด็กไม่รู้จักโต ไม่สามารถแบกรับความกดดันจากสิ่งที่เจอได้ และต้องคอยให้ผู้อื่นเอาอกเอาใจอยู่ตลอดเวลา จนกลายเป็นคนเสียนิสัย เมื่อไม่ได้ดั่งใจก็มักจะโกรธหรือพาลคนรอบข้างไปทั่ว
ทางที่ดีควรอยู่ให้ห่างจากคนแบบนี้ไว้ หลีกเลี่ยงการเอาอกเอาใจ หรือการสนใจในความต้องการของเขา เพราะเมื่อคุณตามใจเขาแค่เพียงครั้งเดียว อาจกลายเป็นว่าคุณต้องเดินตามเขาต่อไปอีกหลายๆ ครั้ง ซึ่งก็จะเป็นการสร้างความเหนื่อยหน่าย และความลำบากใจให้กับตัวเองเสียเปล่า
-
คนที่หวังจะได้ แต่ไม่เคยหยิบยื่นอะไรให้ใคร
คนประเภทนี้ อาจเรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่า เป็น “ คนเห็นแก่ตัว ” ซึ่งหวังแต่จะได้รับสิ่งดีๆ จากผู้อื่น แต่ในขณะที่ตัวเองมีบ้าง กลับไม่เคยหยิบยื่นอะไรให้ใคร
ทางที่ดี ควรตัดความสัมพันธ์ให้ขาดไปเลยดีกว่า เพราะต่อให้คบไปก็คงไม่ได้อะไรคืนมา แถมยังมีแต่จะเสียดายเวลา และเสียความรู้สึกดีๆ ที่มีอยู่ไปอีกด้วย
-
คนที่รู้ตัวเองว่าไม่ดีพอ แต่ก็ไม่เคยปรับปรุงแก้ไข
การที่คนเราสามารถรับรู้ตัวเองได้ว่า “ ยังคงทำอะไรออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร “ นั้น ถือเป็นสิ่งที่น่ายินดีมากๆ เพราะน้อยคนนักที่จะเข้าใจ หรือรับรู้ได้ว่า ตัวเองยืนอยู่ในระดับไหน ซึ่งเมื่อรู้แล้วก็หาหนทางรับมือแก้ไข และพัฒนาให้ตัวเองก้าวไปยืนอยู่ในจุดที่ดีกว่านี้ได้
แตกต่างจากคนที่รู้ตัวเองแล้วว่ายังดีไม่พอ แต่ก็ไม่เคยทำอะไรออกมาให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ กลับย่ำ และเลือกที่จะทำแบบเดิมอยู่ซ้ำๆ ซึ่งคนพวกนี้คบไปก็มีแต่จะพาเราให้เดินวนอยู่กับที่ ในขณะที่คนอื่นวิ่งออกไปไกลแล้ว
-
คนที่เอาแต่โทษคนอื่น จนลืมมองตัวเอง
คนที่เอาแต่โยนความผิดให้คนอื่น แต่ลืมมองดูในสิ่งที่ตัวเองทำ ก็เหมือนกับเป็นพวกขี้ขลาด ที่รับไม่ได้กับความจริงที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งจะไม่ค่อยยอมรับในสิ่งที่ใครๆ บอกกล่าว และคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันดีอยู่แล้ว จึงมักจะสร้างอคติ และโทษแต่ผู้อื่นอยู่เสมอ
ซึ่งถ้าหากมัวแต่เอาตัวเองไปพัวพันอยู่กับคนเหล่านี้ ก็อาจพลอยทำให้เรามีอคติต่อคนรอบข้างไปด้วย
-
คนที่คิดว่าความคิดของตัวเองจะต้องดีกว่าเสมอ
บุคคลประเภทนี้ ที่เรียกอีกอย่างหนึ่งได้ว่า “ พวกคนใจแคบ ” มักจะไม่ค่อยยอมเปิดรับความคิดเห็น หรือความคิดใหม่ๆ จากคนอื่นเลย และจะต้องคอยขัดคอ หรือทำให้เห็นว่า ความคิดของผู้อื่นจะต้องมีจุดที่แย่กว่าเสมอ
ซึ่งถ้าหากอยู่ใกล้ หรือต้องรู้จักต่อไป อาจมีส่วนทำให้ตัวเราเองไม่ได้รับการพัฒนา เนื่องจาก ไม่อยากที่จะคิด หรือค้นหาอะไรใหม่ๆ เพราะการถูกดัก หรือขัดทางความคิดนั่นเอง
-
คนที่ชอบมองโลกในแง่ร้ายมากจนเกินไป
การมองอะไรให้ร้ายกว่าความเป็นจริงมากเกินไป ไม่เคยช่วยทำให้ชีวิตใครดีขึ้นมาได้เลย นอกเสียจากว่า มีแต่จะทำให้แย่ลงอยู่เรื่อยๆ เพราะคล้ายกับเป็นการสร้างความหดหู่ใจให้กับตัวเอง รวมไปถึงคนรอบข้างที่อยู่ใกล้เคียง โดยการพูดคุยแต่เรื่องราวที่เป็นเชิงลบ ซึ่งอาจส่งผลให้ชีวิตมืดมน และไม่ได้พบปะกับความสุข
-
คนที่พูด “ ขอบคุณ ” ไม่เป็น
คนที่แค่พูดคำว่า “ ขอบคุณ ” ยังทำไม่ได้ ในทุกๆ ครั้งที่ได้รับความช่วยเหลือ ก็ไม่สมควรที่จะได้รับน้ำใจดีๆ หรือทำความรู้จักด้วยอีกต่อไป เพราะคนประเภทนี้มักจะไม่ค่อยสำนึกในบุญคุณของใครอยู่แล้ว คิดแต่เอาตัวเองให้รอดแค่เพียงอย่างเดียว
โดย : sineenow
10 วิธี “รักษาความสัมพันธ์” ที่มีอยู่ให้นานกว่าเดิม
9 สาเหตุ ที่ทำให้ยังไม่เจอกับความรักสักที