ประสบการณ์ปรับการกินอยู่ สู้โรคแพ้ภูมิตนเอง (เอสแอลอี)
ถาม
อยากให้ช่วยแนะนำหน่อยค่ะว่า ผู้ป่วยโรคแพ้ภูมิตนเอง ต้องดูแลสุขภาพอย่างไรบ้าง
ตอบ
ที่จริงเรานำเสนอเรื่องโรคแพ้ภูมิตนเอง เอสแอลอี และภูมิแพ้ต่างๆ ไปเมื่อฉบับวันที่ 16 มิถุนายน 2560 ซึ่งไม่กี่เดือนมานี้เอง โดยเรามีทั้งสูตรอาหาร สูตรยาไทยช่วยตับขับพิษสเตียรอยด์ การบริหารลดอาการปวดข้อ รวมไปถึงน้ำอาร์ซีแก้ไซนัสอักเสบ รวมแล้ว 45 วิธี (สั่งซื้อนิตยสารย้อนหลังได้ที่ https://www.naiin.com/category?magazineHeadCode=CH&product_type_id=2 )
ถามว่า วิธีการที่ชีวจิตแนะนำ จะช่วยได้จริงหรือ หากทำวิธีการต่างๆ ที่เราบอกไปแล้ว จะช่วยลดอาการ ทำให้สามารถลดยาสเตียรอยด์ลงได้จริงหรือ
เอางี้ดีกว่า เรามีเคสตัวอย่างมาเล่าให้ฟังว่า เมื่อปรับวิถีชีวิตตามวิถีชีวจิตแล้ว พวกเขาเป็นอย่างไรกันบ้าง
คุณวิไลลักษณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี
อาการ
ง่วงตลอดเวลา เหนื่อยมาก จนเดินไม่ได้ กินไม่ได้ น้ำหนักลด ที่ผิวหนังมีรอยจ้ำสีเขียวๆ
การรักษา
กินยากว่า 10 เม็ดต่อวัน ซึ่งทำให้เกิดผลข้างเคียงคือ ใจไม่สงบ กระวนกระวาย นอนไม่หลับ หน้าบวม ตัวบวม และเมื่อค่าเกล็ดเลือดสูงขึ้น หมอก็สั่งลดยา ซึ่งก็ทำให้ค่าเกล็ดเลือดต่ำลงอีก จึงต้องเพิ่มยา เป็นวัฏจักรแบบนี้ จนเจ้าตัวรู้สึกเบื่อ
ปฏิวัติตัวเอง
สุดท้ายจึงหักดิบ เธอหันหลังให้ยา แล้วดูแลตนเองด้วยวิธีเหล่านี้
- หักดิบอาหารที่กิน (หมู-เนื้อย่างเกรียมๆ ของทอดเยิ้มๆ น้ำอัดลม เค้ก ช็อกโกแลต ก๋วยเตี๋ยวที่ปรุงรสจัดด้วยน้ำตาล น้ำส้ม พริกป่น อย่างละ 3 ช้อนโต๊ะ) มากินอาหารชีวจิตอย่างเข้มข้น คือข้าวกล้อง ผัก ปลา และน้ำซุปที่ต้องทำเอง แต่ด้วยชีวิตสาวออฟฟิศที่ยุ่งวุ่นวายตลอดเวลา จึงทำอาหารชีวจิตทั้ง 21 มื้อตลอดสัปดาห์แช่ตู้เย็นไว้ เมื่อถึงเวลากิน ก็แค่นำมาอุ่น)
- เมื่อรู้สึกเหนื่อยหรือเพลีย จะคั้นน้ำเอนไซม์ ด้วยเครื่องคั้นน้ำแยกกาก โดยดื่มวันละ 2 แก้ว เช้า-เย็น โดยใช้ผักผลไม้หลากหลาย ไม่ซ้ำกัน
- ต้มน้ำอาร์ซีดื่มเองทุกวัน
- ทำดีท็อกซ์สองเดือนครั้ง (ครั้งละ 3 วันติดต่อกัน)
- ออกกำลังก่ยด้วยการรำกระบอง 1 ชั่วโมงก่อนมาทำงาน
- ฝึกวิปัสสนา และทำต่อเนื่องสม่ำเสมอ
- เลี่ยงปัจจัยกระตุ้นอาการของโรค เช่น แสงแดด หรือที่ที่มีผู้คนแออัด
วันที่สัมภาษณ์คุณวิไลลักษณ์ เธอเล่าว่า หยุดยามาหลายปีแล้ว แม้ค่าเกล็ดเลือดจะไม่ได้สูงมาก (ไม่เคยถึงแสน) แต่ก็ขอหมอว่าจะไม่กินยา หากหันมาเข้มงวดกับการกินอาหาร ซึ่งเมื่อปรับพฤติกรรมการกิน นอน พักผ่อน ออกกำลังกาย ค่าเกล็ดเลือดก็สูงขึ้น
คุณอรกัญญา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี
อาการ
มีผื่นเล็กๆ ขึ้นบนใบหน้า และต่อมาก็กลายเป็นผื่นรูปปีกผีเสื้อ
การรักษา
กินยา แต่อาการไม่ดีขึ้น แถมผื่นบนใบหน้าก็ลุกลามขึ้น มิหนำซ้ำ เมื่อโดนแดดแรง ยังเหนื่อยเพลียและมีไข้ต่ำๆ ทั้งๆ ที่พยายามปกป้องตนเองจากแสงแดด ด้วยการสวมหมวก สมวเสื้อแขนยาว แม้จะย้ายโรงพยาบาล แต่การรักษายังเป็นการกินยาสเตียรอยด์เหมือนเดิม นอกจากอาการไม่หายไป หน้ายังบวม กลมเหมือนพระจันทร์ จึงหยุดยาเอง
ปฏิวัติตนเอง
- กินข้าวกล้อง หรือข้าวได้จากการต้มน้ำอาร์ซีแทนข้าวขาว
- งดเนื้อสัตว์ทุกประเภท กินแต่ธัญพืช ถั่ว และผัก เพื่อให้ได้โปรตีน
- งดกะทิ ของหวานของโปรด
- ดื่มน้ำเปล่าแทนกาแฟ ถ้าดื่มชา ก็เป็นชาสมุนไพร ไม่ใส่น้ำตาล
- ออกกำลังกายด้วยการรำกระบอง อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง
- ทำดีท็อกซ์เดือนละ 1-2 ครั้ง
- ทำรีแล็กเซชั่น ด้วยการคลายเกร็งก่อนนอนทุกคืน ถ้าตื่นกลางดึก ก็ทำอีก
- ปล่อยวางเรื่องงาน ไม่นำมาขบคิดเมื่อถึงบ้านแล้ว ถ้าคิดอะไรได้ ก็จดเอาไว้
- ตั้งใจเลี่ยงฝุ่น และแสงแดด สาเหตุที่ทำให้เธอรู้สึกเหนื่อยเพลีย มีไข้ต่ำๆ และผื่นที่เป็นอยู่เห่อขึ้น
หลังจากปรับเปลี่ยนตัวเองได้ราว 3 เดือน คุณอรกัญญาก็เห็นความเปลี่ยนแปลงของสุขภาพตนเอง จากที่ไม่เคยมีเหงื่อเลย ก็เริ่มมีเหงื่อ หลังการออกกำลังกาย กระฉับกระเฉง ไม่ง่วงเหงาหาวนอน ไม่เหนื่อยเพลีย แม้ต้องเดินขึ้นบันไดตึก ไม่มีอาการมึนหัว เป็นไข้ ต้องกินยาทุกๆ 4 ชั่วโมง
คุณอรกัญญาทิ้งท้ายว่า “คุณหมอบอกว่า รักษาโรคนี้ไม่หาย แต่เราควบคุมมันได้”
บทความน่าสนใจอื่นๆ
บ.ก.ขอตอบ : 3 วิธีออกกำลังกาย แทนนั่งสมาธิ แก้จิตตก ลดภาวะซึมเศร้า
บ.ก.ขอตอบ : รีวิว 7 ธาราบำบัด กทม. เพื่อเยียวยาปัญหาข้อต่อ
บ.ก.ขอตอบ : วิธีกินถั่วดาวอินคายอดฮิต เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด