ทัศนคติเชิงบวก ช่วยให้มองเห็นศักยภาพใหม่ๆ
ใครที่กำลังท้อแท้กับงานหรือมีเหตุให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่คาดฝัน ก็อย่าเพิ่งถอดใจกับบททดสอบชิ้นใหม่ ลองมองในแง่ดีที่ว่าเราจะได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ และเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากมัน และสำหรับใครที่กำลังเกิดคำถามขึ้นในใจว่างานที่เราทำอยู่นั้นมีคุณค่าหรือมีความหมายอะไร ลองมาดูพลังของ ทัศนคติเชิงบวก จากแนวคิดของ โคจิ ทาคากิ ประธานกรรมการบริหารบริษัทให้คำปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคลของญี่ปุ่น กัน
เขาเขียนเอาไว้ในหนังสือ ทำงานอย่างไร ไม่ให้สูญเสียความเป็นตัวเอง ว่า ในชีวิตการทำงานมีประเด็นสำคัญที่ควรใส่ใจอยู่ 3 ข้อ นั่นคือ ทำงานให้เสร็จและต้องตระหนักถึงเป้าหมายอย่างจริงจัง (ไปให้ถึงจุดหมาย) 2.รู้จักมองหาปัญหาอยู่เสมอ และ3.ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้คิดบวกไว้ก่อน
การมีความคิดในเชิงบวกไม่ได้หมายถึงว่าเราต้องเป็นพวกโลกสวย แต่ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหน การมีทัศนคติเชิงบวก จะช่วยทำให้เรามองเห็นศักยภาพใหม่ๆ ในตัวเอง
“ไม่ว่าจะเกิดอะไร ขอให้คิดบวกไว้ก่อน” เมื่อทำงานไปเราย่อมเจอเรื่องที่ไม่ชอบ มีปัญหามารุมเร้าให้ปวดขมับ หรือบางครั้งเราพยายามแล้ว แต่ยังสร้างผลงานดีๆ ไม่ได้ จนพานให้หมดกำลังใจทำงาน
แม้จะเกิดความรู้สึกแบบนี้ก็อย่าได้แสดงออกทางสีหน้า และแทนที่จะถอนหายใจ “เฮ้อ” ขอให้พูดคำที่ช่วยสร้างกำลังใจให้ตัวเองออกมาดีกว่า
ในการทำงานเป็นเรื่องธรรมดาที่เราต้องพบสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันหรือช่วงเวลาที่มองไม่เห็นหนทาง สิ่งที่สำคัญมากในเวลานั้นคือ ความรู้สึกที่ช่วยสร้างกำลังใจให้ตัวเองอย่าง “ไม่เป็นไรนะ” “ต้องมีทางสิ”
โดยเฉพาะเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก ถ้าเราเปลี่ยนความรู้สึกเชิงลบให้เป็นคำพูดเชิงบวก เช่น ยังมีโอกาสเจอหนทางใหม่ หรือประสบการณ์ครั้งนี้ต้องเป็นประโยชน์ในวันข้างหน้าแน่ๆ เมื่อนั้นหนทางจะเปิดให้เราจริงๆ
ใจคิดบวกเป็นพลังอันแข็งแกร่งที่ช่วยให้ผ่านพ้นวิกฤต
ยิ่งเป็นช่วงที่คุณได้รับมอบหมายให้ทำงานสำคัญเพิ่มขึ้นอย่างในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นตัวหลักในทีมหรือเป็นผู้นำเมื่ออยู่หน้างาน สิ่งที่จะเป็นตัวกำหนดพลังและทิศทางของทีมก็คือคำพูดและการกระทำของคุณเอง
แม้สัญญาที่จวนได้เซ็นจะถูกยกเลิก หรือสิ่งที่เหนื่อยยากมาตลอดกลับสูญเปล่า ก่อนที่คุณจะถอดใจคิดว่า “หมดกัน” หรือคร่ำครวญว่า “ทำต่อไม่ไหวแล้ว” ขอให้ลองเอ่ยคำพูดเชิงบวกออกมา เช่น
“เริ่มตอนนี้ก็ยังไม่สาย ลองคิดดูซิว่าจะเสนอแผนโครงการลักษณะนี้ให้บริษัทอื่นได้หรือเปล่า”
“ลองคุยสัญญาที่ยังค้างอยู่กับอีกเจ้าให้จบดีกว่า จะได้มาชดเชยส่วนที่ติดลบไป”
“ประสบการณ์ครั้งนี้มีเรื่องให้เราได้เรียนรู้ ต้องเป็นประโยชน์ต่องานหน้าแน่นอน”
คำพูดเหล่านี้มีพลังมหัศจรรย์ก่อให้เกิดความรู้สึกเชิงบวก รักษาจิตใจให้เข้มแข็ง และยังไม่ปล่อยรังสีเชิงลบออกมาบั่นทอนกำลังใจคนรอบข้างด้วย
ที่สำคัญเหนืออื่นใดคือ ความรู้สึกเชิงบวกจะช่วยดึงศักยภาพใหม่ๆ จากตัวคุณและมอบพลังแข็งแกร่งที่จะช่วยให้คุณผ่านพ้นวิกฤตไปได้
บทความที่น่าสนใจ