สูตรน้ำปั่นผักผลไม้ ยอดฮิต เพื่อสุขภาพ
สูตรน้ำปั่นผักผลไม้ จากการเดินสำรวจตามห้างสรรพสินค้า ตลาดนัดสุขภาพพบว่า เครื่องดื่มยอดนิยมของคนรุ่นใหม่ไม่ใช่น้ำรสซ่าอีกต่อไป หากแต่เป็นน้ำปั่นผักและผลไม้สดๆ ที่อุดมไปด้วยสารอาหารเปี่ยมประโยชน์ไม่เพียงรสชาติถูกปาก ดื่มแล้วสดชื่นยังมาพร้อมกับสรรพคุณเพื่อสุขภาพ
ชีวจิต จึงขอยกตัวอย่างสูตรน้ำปั่นผักผลไม้ยอดฮิตที่มีวางขายอยู่ทั่วไป ซึ่งผู้เขียนยกนิ้วให้ว่ามีประโยชน์คุ้มค่า คุ้มราคา
No.1 สูตรล้างพิษ
สูตรนี้ประกอบไปด้วยผักโขม แอ๊ปเปิ้ลเขียว กีวี และแฟลกซ์ซี้ด (Flax Seed) คิดค้นขึ้นมาเอาใจผู้ที่มีปัญหาเรื่องระบบขับถ่ายเป็นพิเศษ เพราะส่วนประกอบมีครบทั้งเส้นใยอาหารละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ แถมยังซ่อนคุณสมบัติช่วยลดน้ำหนักและขจัดไขมันในหลอดเลือดอีกด้วยค่ะ
เริ่มจาก ผักโขม มีใยอาหารไม่ละลายน้ำสูง มีคุณสมบัติช่วยดักจับและเจือจางสารพิษตลอดจนสกัดกั้นสารก่อมะเร็งที่ปนเปื้อนมากับอาหาร ทั้งช่วยเพิ่มปริมาณและน้ำหนักของอุจจาระ และกระตุ้นให้ร่างกายขับถ่ายเป็นปกติ
แอ๊ปเปิ้ลเขียว มีใยอาหารละลายน้ำสูง มีคุณสมบัติช่วยดูดซับน้ำและพองตัวได้ดี ชะลอการดูดซึมของสารพิษและสารก่อมะเร็ง เพิ่มการเคลื่อนไหวของลำไส้ ช่วยในการขับถ่าย
กีวี อุดมไปด้วยใยอาหารละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ โดดเด่นเรื่องมีวิตามินซีสูง ช่วยในการขับถ่ายและเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย โดยเฉพาะโรคระบบทางเดินหายใจ
สุดท้าย แฟลกซ์ซี้ด เมล็ดพืชที่มีกรดไขมันโอเมก้า - 3 สูง กินเพียง 1 ช้อนโต๊ะ (10 กรัม) จะทำให้ร่างกายได้รับกรดไขมันโอเมก้า - 3 เพียงพอต่อความต้องการใน 1 วัน จึงมีคุณสมบัติช่วยล้างพิษ ลดคอเลสเตอรอล ล้างไขมันร้ายในหลอดเลือด
No.2 สูตรบู๊สต์พลังงาน
ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า มีพลัง คือคุณสมบัติของน้ำปั่นผักผลไม้สูตรบู๊สต์สมอง ซึ่งประกอบด้วยข้าวโพด สับปะรด ผักโขม เฮเซลนัท มะกอก
สูตรนี้ให้พลังงานสูงจากข้าวโพด สับปะรด เฮเซลนัทและมะกอก โดยข้าวโพดต้มครึ่งถ้วย ให้พลังงาน 80 กิโลแคลอรี เทียบเท่าข้าวสวย 1 ทัพพี สับปะรด 10 ชิ้น ให้พลังงาน 60 กิโลแคลอรี เฮเซลนัท 10 เม็ด ให้พลังงาน 90 กิโลแคลอรี มะกอกครึ่งถ้วย ให้พลังงาน 106 กิโลแคลอรี
เป็นสูตรเพิ่มพลังงาน โดยไม่ทำให้อ้วน เพราะส่วนประกอบทั้งหมดล้วนมีใยอาหารสูง ทั้งอุดมด้วยไขมันดีจากกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียวในเฮเซลนัทและมะกอก ซึ่งมีคุณสมบัติเพิ่มการเผาผลาญ ลดไขมันในเลือด ป้องกันโรคหัวใจ
นอกจากนี้วิตามินบีและคาร์โบไฮเดรตจากข้าวโพดยังช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทและสมอง ช่วยให้สดชื่น กระปรี้ประเปร่า แถมด้วยคุณสมบัติของผักโขมที่ช่วยชะลอความเสื่อมของสมอง
No.3 สูตรบู๊สต์สมอง
มะม่วงสุก พริกหวาน แครอต ขมิ้นชัน เซเลอรีและใบมินต์ คือสูตรน้ำผักผลไม้ปั่นสีเหลืองส้ม ส่วนผสมส่วนใหญ่อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน ได้แก่ มะม่วงสุก พริกหวาน แครอต ซึ่งข้อมูลล่าสุดจาก วารสาร The Archives of Internal Medicine ระบุว่า การกินอาหารที่มีเบต้าแคโรทีนสูงเป็นประจำสามารถลดความเสี่ยงการเกิดโรคสมองเสื่อมได้
ทั้งมีส่วนผสมของขมิ้นชัน ซึ่งมีสารเคอร์คูมิน (Curcumin) ช่วยลดการอักเสบ ชะลอความเสื่อมของสมองและป้องกันโรคอัลไซเมอร์
เซเลอรี แครอต และใบมินต์ มีสารต้านอนุมูลอิสระลูทีโอลิน (Luteolin) ช่วยลดการอักเสบของเซลล์ประสาท ปกป้องเซลล์สมองไม่ให้เสื่อม หรือสูญเสียความทรงจำก่อนวัยนอก จากนี้น้ำมันหอมระเหยจากใบมินต์ยังช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ อาการหวัด คัดจมูกได้อีกด้วย
No.4 สูตรแอนติออกซิแดนต์ ชะลอวัย
สูตรนี้เป็นสูตรโปรดของใครหลายคน (โดยเฉพาะผู้เขียน) เพราะมีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน ถูกใจ แถมรวมผลไม้ตระกลูเบอร์รี่ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงไว้คับแก้ว
น้ำปั่นสูตรนี้ประกอบด้วยบลูเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่ แบล็กเคอร์แรนต์ ราสป์เบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่
ไม่เพียงโดดเด่นเรื่องชะลอวัย แต่ยังต้านการอักเสบทั่วร่างกาย ป้องกันสารพัดโรคเรื้อรัง รวมถึงโรคมะเร็งและโรคสมองเสื่อมอีกด้วย แต่มีข้อแม้ว่า ควรดื่มน้ำปั่นจากผลไม้สด หรือกินผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เป็นประจำทุกวัน
มีงานวิจัยระบุว่า การดื่มน้ำบลูเบอร์รี่ทุกวัน วันละ 500 มิลลิลิตร เป็นเวลา 12 สัปดาห์ ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ประสาท ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ ชะลอความเสื่อมของสมอง และลดอาการซึมเศร้า
หากกินสตรอว์เบอร์รี่อย่างน้อยสัปดาห์ละ 24 ผลวารสาร Annals of Neurology สนับสนุนว่า สามารถชะลอความเสื่อมของสมองในผู้หญิง โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป
ทั้ง Journal of the American Heart Associationยังพบว่า เพียงกินบลูเบอร์รี่และสตรอว์เบอร์รี่อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ส่วน (หนึ่งส่วนเท่ากับ 1 ถ้วย) สามารถลดความเสี่ยงการเกิดภาวะหัวใจวายได้ถึง 3 เท่า
ดื่มน้ำผักผลไม้ทั้งที ควรเลือกที่สด สะอาด และควรดื่มหมุนเวียนให้หลากหลาย เพื่อให้ทุกระบบในร่างกายได้รับการฟื้นฟูค่ะ
จาก คอลัมน์มื้อสุขภาพ นิตยสารชีวจิตฉบับ 411 (16 พฤศจิกายน 2558)
บทความน่าสนใจอื่นๆ
Blood Builder น้ำปั่นบำรุงเลือด