สวดมนต์ ทำไม และสวดอย่างไรไม่เป็น “มนต์คาถา” ท่านว.วชิรเมธี มีคำตอบ
คนส่วนหนึ่งเชื่อว่า การสวดมนต์ เป็นแค่เพียงกิจกรรมอย่างหนึ่งทางศาสนา…แต่คนอีกส่วนหนึ่งซึ่งสวดมนต์เป็นประจำจนเห็นผลดีกับตัวเอง กลับค้นพบว่า การสวดมนต์มีพลังอำนาจมากกว่าที่คิด ท่านว.วชิรเมธี มีคำตอบ ค่ะ
ท่าน ว.วชิรเมธี ปราชญ์ทางธรรมเล่าว่า การสวดมนต์น่าจะเกิดขึ้นจากประเพณีการเล่าเรียนธรรมะที่สืบเนื่องมาแต่สมัยพุทธกาล ในสมัยที่พระพุทธองค์ทรงมีพระชนม์ชีพอยู่นั้น พระสงฆ์จะฟังธรรมจากพระองค์แล้วจำไว้ จากนั้นจะแบ่งกลุ่มกันจำพระพุทธวจนะเป็นกลุ่มเช่น สายพระอานนท์จำพระสูตร สายพระสารีบุตรจำพระอภิธรรมสายพระอุบาลีจำพระวินัย พระสงฆ์ที่เป็นหัวหน้าสายก็จะมีศิษยานุศิษย์ของตนมากมายช่วยกันจำพระพุทธวจนะ ลักษณะการร่ำเรียนพระพุทธวจนะนั้นดำเนินในแบบปากต่อปาก (มุขปาฐะ) คือครูเป็นผู้บอกพระพุทธวจนะ ศิษย์ก็จำต่อจากครู เมื่อจำได้แล้วครูก็จะมอบพระพุทธพจน์บทใหม่ให้ท่องต่อไป
การสวดมนต์ ถือเป็นกุศลกรรมอย่างหนึ่ง เพราะเป็นการสวดหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นธรรมะทั้งสิ้นนอกจากนี้ ในขณะที่สวดนั้นเป็นการทำความดีทั้งทางกาย (กิริยาที่กำลังสวดมนต์) ทางวาจา (การสวด) และทางใจ (ต้องมีสมาธิต่อบทสวดมนต์) ยิ่งถ้าเป็นการ สวดมนต์ แปลที่ทำให้ได้ปัญญาด้วยก็ยิ่งเป็นมหากุศล เพราะจะส่งผลให้รู้จักนำธรรมะมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
โดยบทสวดมนต์ในพุทธศาสนามีทั้งที่เป็นบทสวดแบบร้อยแก้วคือความเรียงธรรมดา และแบบร้อยกรอง กล่าวเฉพาะบทสวดมนต์ที่ชาวพุทธไทยนิยมสวดกันในปัจจุบันนั้น โดยมากมักเป็นบทสวดประเภทกวีนิพนธ์ เช่น คาถาชินบัญชร คาถาพาหุง คาถาโพชฌงค์ ซึ่งล้วนมีความไพเราะเพราะพริ้ง มีความวิจิตรบรรจงในการเลือกใช้คำและซ่อนความหมายระหว่างบรรทัดให้ขบคิดแพรวพราวแทบทุกบท
ทั้งนี้ ท่าน ว.วชิรเมธีทิ้งท้ายให้คิดว่า “มนต์” เป็นพระพุทธพจน์ที่ปรากฏในพระไตรปิฎก ถ้าสวดมนต์แบบไม่มีปัญญาจะเรียกว่า “มนต์คาถา” ถ้าสวดอย่างมีปัญญาเข้าใจในพุทธธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เราเรียกว่า “พุทธมนต์” ทุกวันนี้เราต้องตรองดูว่ากำลังสวดพุทธมนต์หรือมนต์คาถา ถ้าการสวดมนต์ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น ทำให้เข้าใจโลก เข้าใจชีวิต เปลี่ยนความคิดให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้น ก็เรียกได้ว่าสวดมนต์อย่างถูกต้องถูกทาง
บทสวดมนต์ก่อนนอนที่ Secret อยากแนะนำ!
บทกรวดน้ำ (แปล) พร้อมเกร็ดความรู้เฉลยข้อคาใจเกี่ยวกับการกรวดน้ำ
บทสวดกรณียเมตตสูตร (แปล) สวดแล้วทำให้หลับเป็นสุข ตื่นเป็นสุข ไม่ฝันร้าย ไม่หลงสติในเวลาเสียชีวิต
ชยปริตร (มหากาฯ) แปล กล่าวถึงการสรรเสริญพระพุทธเจ้าว่าเปี่ยมไปด้วยความเป็นเลิศ แล้วขอให้สัจวาจานั้นคุ้มครองผู้สวดให้พบพานสุขสวัสดี
บทสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร (แปล) ปฐมเทศนา เทศนากัณฑ์แรกที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่พระปัญจวัคคีย์
บทมงคลสูตร (แปล) พระสูตรว่าด้วยมงคลแห่งชีวิต หากสวด เข้าใจและปฏิบัติตามแล้ว ชีวิตก็จะมีแต่สิ่งดีๆ เข้ามา
อานิสงส์ของการสวดแต่ละบท
- บทนมัสการพระรัตนตรัย: เป็นการบูชาพระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์
- บทนอบน้อมพระผู้มีพระภาคเจ้า: เป็นการน้อมใจบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
- บทพระไตรสรณคมณ์: เป็นบทปฏิญาณตน เข้าถึงพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆอริยเจ้า ว่าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกสูงสุด
- บทนมการสิทธิคาถา (สัมพุทเธฯ): เป็นการน้อมระลึกถึง และบูชาพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ที่ล่วงมาแล้ว จนถึงปัจจุบัน และที่จะอุบัติในอนาคต และ อธิษฐานให้การน้อมใจสักการะบูชา มีอานุภาพยิ่งนี้ ได้ขจัด ข้อขัดข้องต่างๆ ให้หมดไป และอันตรายทั้งหลาย ทั้งปวง จงพินาศไป
- บทนมการสิทธิคาถา (โย จักขุมาฯ): คาถานมัสการพระรัตนตรัย เพื่อให้สำเร็จในสิ่งปรารถนา สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงนิพนธ์
- บทนโมการอัฏฐกคาถา: บทนอบน้อมพระรัตนตรัย เพื่อให้เกิดเดชานุภาพในการเจริญพระพุทธมนต์พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
- บทธัมมจักกัปปวัตตนสูตร: มีความสำคัญในฐานะพระธรรมเทศนากัณฑ์แรกของพระพุทธเจ้า
- บทมงคลสูตร: พระสูตรว่าด้วยมงคลแห่งชีวิต การนำมงคลสูตรมาสวด ก็เพื่อจะทำให้มงคลต่างๆ ตามที่ปรากฏในพระสูตร เกิดขึ้นกับชีวิต นอกจากนั้น มงคลสูตร ยังมีอานุภาพในการป้องกันภัยอันตรายอันจะเกิดจากความไม่เที่ยงธรรม ของเหล่าคนพาลสันดานหยาบทั้งหลาย
- บทรตนสูตร: พระสูตรว่าด้วยการน้อมระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย
- บทกรณียเมตตสูตร: พระสูตรว่าด้วยอานุภาพแห่งเมตตาจิต เป็นพระสูตรที่พระพุทธองค์ทรงแนะนำพระภิกษุให้แผ่เมตตาจิตไปในมวลสรรพสัตว์ ตลอดจนเทพเทวา ภูตผี ปีศาจทั้งหลาย
- บทขันธสูตร: พระสูตรว่าด้วยการป้องกันอสรพิษและสัตว์ เป็นพระสูตรที่พระพุทธองค์ ทรงสอนให้พระภิกษุแผ่เมตตาไปในบรรดาตระกูลงูที่มีพิษดุร้ายทั้งหลาย เพื่อเป็นการคุ้มครอง ป้องกันตนเองจากสัตว์ร้าย
- บทโมรสูตร: คือพระสูตรที่นกยูงทองโพธิสัตว์สาธยายเป็นประจำ กล่าวถึงคุณของพระพุทธเจ้าแล้วน้อมพระพุทธคุณมาพิทักษ์คุ้มครองให้มีความสวัสดี
- บทชัคคสูตร: ผู้ที่มุ่งร้ายจะไม่สามารถทำอันตรายได้
- บทอนาฏานาฏิยสูตร: พระพุทธมนต์ที่สามารถป้องกันอุปัทวันตรายทั้งปวง บางแห่งกล่าวไว้ว่า สามารถป้องกันภัยจากอมนุษย์ ทำให้มีสุขภาพดีและมีความสุข
- บทอังคุลีมาลสูตร: เป็นบทสวดมนต์สำหรับคนท้องโดยเฉพาะ ทำให้คลอดบุตรง่าย
- บทโพชฌังคสูตร: เป็นบทสวดสำคัญที่พระสงฆ์นิยมนำมาสวดในงานบุญหรือสวดสร้างกำลังใจให้แก่ผู้เจ็บไข้ได้ป่วยให้มีพลังจิตในการสร้างสติ
- บทอภยสูตร: บทสวดเพื่อขจัดสิ่งอัปมงคลทั้งปวง
- บทสักกัตวา: ธรรมโอสถขจัดทุกข์ โรคภัย
- บทนัตถิเมฯ: บทสวดบันดาลให้เกิดชัยมงคล
- บทยังกิญจิฯ: บทน้อมระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย ซึ่งเป็นรัตนะที่มีพลานุภาพสูงสุดกว่ารัตนะทั้งมวลในโลก เพื่อให้เกิดความสวัสดีมงคล
- บทโส อัตถลัทโธ: อวยพรเจ้าภาพให้เจริญรุ่งเรือง
- บทรตนัตตยัปปภาวาภิยาจนคาถา: อานุภาพพระรัตนตรัยคุ้มครองประเทศ
- บทเทวตาอุยโยชนคาถา: คาถาส่งเทวดา ใช้สวดเพื่ออัญเชิญเทวดากลับวิมาน
- บทมงคลจักรวาลใหญ่: นิยมสวดในงานมงคลทั่วไป เพื่อความเป็นสิริมงคล
- บทบรมราชินีนาถาภิถุติปะสิทธิวรทานคาถา: บทสวดถวายพระพรชัย แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
- บทพุทธชัยมงคลคาถา (พาหุงมหากา): ใช้สวดเพื่อป้องกันภัยและเอาชนะอุปัทวันตราย
- บทภวตุ สัพ: เป็นบทสวดที่ขออานุภาพของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ให้อำนวยสิ่งที่เป็นมงคลแก่ตน
- บทนักขัตตยักษ์: พระปริตรที่ป้องกันบาปเคราะห์และภูตผีปีศาจ ด้วยอานุภาพแห่งพระปริตรที่ได้สวดมาตั้งแต่ต้นจนจบ
-photo by brenkee