ไม่ว่าสาวๆ หรือหนุ่มๆ ไม่ว่าใครก็อยากมีความรักที่สวยงาม ได้อยู่กับคนที่เรารักและรักเรา ที่สำคัญต้องเข้ากันได้ดี เพราะสมัยนี้ความรักอย่างเดียว ไม่ได้ทำให้ความรักยั่งยืนได้ ต้องอยู่ด้วยกันอย่างเข้าอกเข้าใจกันด้วย
คนโสดหลายคนก็อยากเริ่มต้นมีความรักด้วยความเพอร์เฟค แต่พอออกเดต พอคุยไปคุยมา สุดท้ายได้กลายเป็นน้องสาวบ้าง กลายเป็นพี่ชายบ้าง ไม่รู้ทำไมทั้งๆ ที่ก็ดูเหมือนเข้ากันดี มีความสุขที่ได้เจอกันทุกครั้ง นั่นอาจเป็นเพราะว่าคุณอาจละเลยเวทมนตร์แห่งคำพูดทั้ง 4 ข้อนี้เมื่อไปออกเดต
เรามาดูกันว่า มีอะไรบ้างที่เป็นเคล็ดลับในการสร้างความประทับใจฝ่ายตรงข้ามเมื่อต้องออกเดต
สาวโสด หนุ่มโสด ที่อยากเจอรักแท้ห้ามพลาดค่ะ!
ไม่กดดันอีกฝ่ายด้วยคำว่า ‘ออกเดต’
ไม่ว่าจะเป็นคนที่คุยเก่งหรือคนที่ขี้อาย เวลาที่ต้องเอ่ยปากชวนคนที่แอบชอบไปออกเดตด้วย ก็ต้องมีความรู้สึกว่า มันช่างยากทุกครั้งเวลาที่เราจะชวนคนที่แอบชอบไปเดต เพราะไม่รู้จะเริ่มพูดยังไง ทั้งเขินทั้งอาย จะพูดชวนยังไงดี สุดท้ายก็นั่งคิดนอนคิด คิดมากจนโดนคนอื่นตัดหน้าไปก่อน หรือบางทีพอเอ่ยปากชวนแล้ว อีกฝ่ายทำสีหน้าลำบากใจไม่อยากไปด้วย จนเรารู้สึกได้
นี่ขนาดยังไม่ได้เริ่มเดต ก็ดูเหมือนจะหมดหวังแล้ว แบบนี้ต้องเปลี่ยนความคิดและคำพูดเสียใหม่ จากที่คิดว่า “อยากชวนเธอไปเดตด้วย” ให้ลองเลิกกดดันตัวเองด้วยคำว่า ‘เดต’ โดยอาจจะลองเปลี่ยนคำพูดชวนแบบอื่น เช่น
“ถ้าไม่รบกวน หากคุณสะดวกช่วงนี้ พอดีมีปัญหานิดหน่อย มีเรื่องอยากปรึกษาค่ะ เราไปนั่งคุยกันที่ร้านคาเฟ่แถวนี้ได้ไหม”
“คราวก่อนที่ช่วยเรื่องนั้น อยากขอบคุณด้วยการเลี้ยงข้าวกลางวันค่ะ แถวนี้มีร้านอร่อยๆ อยู่ด้วย ไปด้วยกันนะคะ”
แบบนี้อีกฝ่ายก็จะไม่รู้สึกกดดันว่าเป็นการเดต และตอบตกลงได้ง่ายๆ กว่า หากเขาสะดวกนะ
การไปเดตก็คือการได้อยู่กับคนที่ชอบสองต่อสอง ดังนั้น ไม่ว่าจะใช้คำพูดแบบไหน ขอแค่ได้อยู่กับเธอก็พอแล้วเนอะ
ต้องเรียกชื่อทุกครั้ง
การเรียกชื่อคือวิธีง่ายๆ ที่ทำให้คนเราใกล้ชิดกัน เพราะจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกสนิทสนมกับเรามากขึ้น
ถ้ามัวแต่พูดว่า “คุณคะ…” “เธอ…” “นาย…” อีกฝ่ายก็จะไม่รู้สึกถึงความพิเศษที่เรามี
แต่ถ้าเราเรียกชื่อเล่น(หรือชื่อจริง) ในการพบเจอกันหลังจากที่อีกฝ่ายแนะนำตัว ก็จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกประทับใจ คิดว่า ‘เขาจำเราได้แล้วหรอ ดีจัง’ แล้วเขาก็จะเรียกชื่อเรากลับด้วยความสนิทใจ เรียกกันไปเรียกกันมา ต่อไปในอนาคตอาจจะเปลี่ยนจากเรียกชื่อ มาเรียกคำว่า “ที่รัก” ก็ได้
อย่ารีบเปลี่ยนเรื่อง
บรรยากาศที่ดีในการออกเดต คือ การที่ได้นั่งมองตา พูดคุยกันกระหนุงกระหนิง แต่ถ้าเป็นคนพูดไม่เก่ง เราก็มีเคล็ดลับมาบอกค่ะ
ก่อนอื่นเลย เวลาที่อีกฝ่ายกำลังเล่าเรื่องของตัวเองอยู่นั้น ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน งานอดิเรก เพลงโปรด หรือของที่ชอบกิน
เราต้องตั้งใจฟังอย่างจริงใจ อย่าก้มไปเล่นมือถือ หรือเหม่อลอยเด็ดขาดเลย
ช่วงเวลาที่ฟังก็จะต้อง ยิ้มและพยักหน้าตาม หรือพูดว่า ‘นั่นสิ’ ‘จริงด้วย’ ‘ใช่ๆ’ ‘อ๋อ’
หลังจากที่อีกฝ่ายเล่าจบ แม้จะเป็นเรื่องที่เราไม่สนใจหรือไม่รู้จัก แทนที่จะเปลี่ยนเรื่องไปเลย ให้เราชวนคุยต่ออีกนิด เพื่อแสดงออกให้อีกฝ่ายเห็นว่า เราตั้งใจฟังในเรื่องที่เขาพูดจริงๆ
เช่น
“ไม่เคยฟังเพลงวงนี้เลยค่ะแนะนำเพลงให้ฟังหน่อยสิ”
“ชอบกินขนมร้านนี้หรอคะ ชั้นยังไม่เคยกินเลย มีอะไรอร่อยบ้างคะ”
“แล้วเคยกินร้านนั้นไหมคะ อร่อยไม่แพ้กัน ครั้งหน้าจะพาไปกินนะ”
การชวนคุยต่อยอดไปในสิ่งที่อีกฝ่ายชอบหรือสนใจ ทำให้อีกฝ่ายมีความรู้สึกว่าได้รับการยอมรับและรู้สึกดีกับเรา จนอยากให้การเดตครั้งหน้ามาถึงไวๆ เลยล่ะ
ไม่ต้องพูดคำว่าชอบก็บอกความในใจได้
ถึงแม้จะชอบเขาอยู่เต็มอก แต่จะให้พูดออกไปในการเจอกันครั้งแรกก็ไม่กล้าหรอกนะ!
แล้วจะทำยังไงให้อีกฝ่ายรู้ความรู้สึกล่ะ จะมอบของให้ก็กลัวจะเกินไป จะให้คนอื่นไปบอกให้ก็ไม่ดี
ถ้าอย่างนั้นต้องลองพลิกแพลงคำพูดดูค่ะ โดยใช้คำว่า ‘เพราะเป็นเธอเท่านั้น’ ‘เพราะเป็นคุณเท่านั้นนะ’
รู้ไหมว่าแค่คำนี้มีความหมายมากกว่าคำว่า ชอบ อีกนะ
ลองคิดดูว่า ถ้าเราชวนเขาไปกินข้าวเย็นด้วยกันเฉยๆ เขาอาจจะไม่รู้สึกว่าเขาคือคนพิเศษ อาจจะคิดว่า สงสัยเราดูว่างๆ หรือเราก็แค่หาเพื่อนไปด้วยเฉยๆ แต่ถ้าเราพูดว่า
“พอเห็นร้านนี้ ก็นึกถึงคุณขึ้นมาทันทีเลย เห็นว่าชอบร้านแบบนี้ เลยอยากให้เธอลองมาร้านนี้ด้วยกัน
“จริงๆ เป็นคนคุยไม่เก่ง แต่พอเป็นเธอมาคุยด้วย ก็คุยได้ไม่เบื่อเลย”
“เพราะเป็นคุณนะเนี่ย ก็เลยเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง คิดว่ามีแต่คุณเท่านั้นที่ช่วยได้”
“ถ้าไม่ใช่เธอล่ะก็ คงไม่อยากไปด้วย”
พูดแค่นี้อีกฝ่ายก็จะรู้สึกได้ทันทีว่าตัวเองคือคนพิเศษของคุณ โดยไม่ต้องพูดคำว่าชอบออกไปสักคำเลยเห็นไหม
ข้อมูลบางส่วนจากหนังสือ พูดเรื่องบวกเรียกโชคดี พูดเรื่องดีเรียกความสุข, Amarin How-To