ผ่อนคลายกายใจในแบบโฮมสปา

1. ฟังเสียงใจ : ก่อนที่จะลงมือปรับโฉมบ้านให้เป็นโฮมสปา สิ่งแรกที่จะลืมไม่ได้คือ การฟังเสียงใจ เพื่อให้รู้ว่าขณะนี้ร่างกายต้องการอะไร หลายคนอาจเข้าใจผิดคิดว่าการทําสปาคือเรื่องความสวยงาม แต่ที่จริงแล้วสปาคือการนําธรรมชาติมาบําบัด

ดังนั้นก่อนที่เราจะลุกขึ้นมาจัดบ้านให้เป็นสปา เราต้องรู้ก่อนว่าร่างกายต้องการอะไร ต้องการการพักผ่อน ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เป็นภูมิแพ้ ฯลฯ เมื่อรู้แล้วว่าร่างกายเจ็บป่วยอย่างไร คราวนี้ก็ถึงเวลาที่จะลุกขึ้นมาจัดบ้านเสียใหม่เพื่อรับมือกับอาการต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง

2. ปรับห้องนอนเสียใหม่ : สําหรับคนที่มีอาการอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ หรือนอนไม่หลับ แนะนําให้หันกลับมาดูสาเหตุในห้องนอนว่า มีปัจจัยอะไรบ้างที่ทําให้เกิดอาการเหล่านี้ เช่น ห้องนอนอาจสว่างเกินไป สีผนังฉูดฉาด แอร์ที่ใช้เย็นไป หรืออย่างคนที่เป็นภูมิแพ้ขอแนะนําให้สํารวจเครื่องนอนของคุณเป็นลําดับแรกว่าทํามาจากวัสดุอะไร พรมในห้องสะสมฝุ่นหรือเปล่า

ส่วนคนที่ปวดศีรษะบ่อย ๆ ควรรีบมองหาตําแหน่งที่ตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าว่าอยู่ใกล้เตียงนอนขนาดไหน เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้า (โดยเฉพาะโคมไฟที่มักตั้งติดกับหัวนอน) จะส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือที่ทางสปาเราเรียกว่า พลังปราณ ออกมารบกวนการทํางานของคลื่นสมองขณะนอนหลับ ซึ่งนี่เองที่เป็นสาเหตุหลักของอาการนอนไม่หลับและปวดศีรษะที่จะติดตามมา

• สําหรับคนที่เป็นภูมิแพ้และต้องนอนห้องแอร์ แนะนําให้ใช้หม้อตุ๋นไฟฟ้าใส่น้ำและสมุนไพร อย่างเช่นตะไคร้ ใบมะกรูดฉีก ขมิ้นชันทุบ หรือจะเลือกซื้อสมุนไพรที่ใช้อบตัวใส่ลงไปก็ได้ แต่ใครที่ไม่ชอบกลิ่นสมุนไพรสามารถเปลี่ยนมาใช้น้ํามันหอมระเหยแท้ (Essential Oil) หยดลงไปแทน ในอัตราส่วนน้ําหนึ่งหม้อต่อน้ํามันหอมระเหยสัก 3 – 4 หยด จากนั้นเสียบปลั๊กไว้บริเวณมุมห้อง ทิ้งไว้สักพักก่อนนอน จะช่วยให้ระบบการหายใจดีขึ้น แถมผิวพรรณยังชุ่มชื้น เพราะไอน้ำ จากหม้อจะช่วยให้อากาศในห้องไม่แห้งจนเกินไป

•ระวัง! การใช้หม้อตุ๋นไฟฟ้าไม่เหมาะสําหรับคนที่เป็นโรคหัวใจ หรือคนที่เป็นโรคความดันโลหิต

3. ห้องนั่งเล่นบําบัด : สําหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ ความเครียด หรือความดันโลหิตสูง ควรใช้เวลาพักผ่อนในห้องนั่งเล่นเพื่อลดความตึงเครียดให้มากขึ้น โดยเน้นไปที่การจัดห้องแบบธรรมชาติบําบัด เช่น เปลี่ยนผ้าม่านหนาเตอะมาเป็นผ้าลูกไม้บางเบาให้แสงแดดสามารถส่องลอดผ่านได้ ส่วนผนังห้องควรปรับให้เป็นกระจกใส หรือเพิ่มช่องหน้าต่างและช่องแสงให้อากาศถ่ายเท ถ้าจะให้ดี อย่าลืมใช้ดอกไม้จริงมาจัดแจกันวางไว้ตามมุมต่าง ๆ เพื่อให้จิตใจแจ่มใสทุกครั้งที่ได้มอง

• หากมีเวลาว่างมากพอ คุณอาจแปลงห้องนั่งเล่นเป็นห้องขัดตัวได้เช่นกัน โดยสิ่งที่คุณจะต้องเตรียมคือแปรงขัดตัวจากขนสัตว์แท้ จากนั้นให้หาที่นั่งผ่อนคลายสบายๆ และเริ่มใช้แปรงขัดตัว ขัดตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมาถึงลําตัวเป็นวงกลมประมาณ 20 – 25 นาที วิธีนี้จะสามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและระบบน้ําเหลืองได้เป็นอย่างดี

4. ผ่อนคลายในอ่างน้ำ : หากคุณมีอ่างอาบน้ำ ห้องน้ำธรรมดาจะสามารถกลายเป็นสปาย่อม ๆ ที่ช่วยให้คุณคลายความกังวลได้ไม่แพ้สปาระดับ 5 ดาว แต่ก่อนที่คุณจะลุกขึ้นมาจัดห้องน้ำให้เป็นสปานั้น

สิ่งที่จะมองข้ามไม่ได้เลยคือ การทําความสะอาดคราบเชื้อราที่สะสมเป็นเวลานานให้หลุดไป ถ้าเป็นไปได้อย่าลืมเปิดประตู หน้าต่างให้อากาศถ่ายเท ที่สําคัญ หลังจากทําความสะอาดแล้วต้องดูแลให้ห้องน้ำแห้งสนิทจริงๆ เพื่อไม่ให้ความชื้นนําพาเชื้อรามาให้อีก

จากนั้นก็ถึงเวลาสครับผิว ตามด้วยการอาบน้ำแร่แช่น้ำนม และถ้าจะให้ดีอย่าลืมเปิดดนตรีเบาๆ คลอไประหว่างเวลาแห่งการผ่อนคลายก็แล้วกัน

• การแช่น้ำอาจใช้น้ำมันหอมระเหยแท้กลิ่น Tea Tree Oil หยดลงไป 6 – 8 หยด บีบมะนาวลงไป 1 ลูก จะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและกําจัด เชื้อราประเภทกลากเกลื้อนได้

• หลายคนชอบนําเทียนหอมมาจุดขณะแช่น้ํา แต่รู้ไหมว่า ถ้าเลือกไม่ดีควันเทียนเหล่านั้นจะก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ โดยที่คุณไม่รู้ตัว ดังนั้นก่อนซื้อเทียน แนะนําให้เลือกเนื้อเทียนที่ผลิตจาก Soya Wax หรือถั่วเหลือง ส่วนไส้เทียนหากทําจากผ้าฝ้ายแท้จะไม่ก่อให้เกิดควัน และที่สําคัญ ถ้าเป็นเทียนหอม อย่าลืมถามคนขายว่าใส่น้ำหอมหรือน้ำมันหอมระเหยแท้ เพราะถ้าเป็นน้ำมันหอมระเหยแท้ แน่นอนว่าร่างกายจะได้รับการบําบัด แต่ถ้าเป็นน้ําหอม ร่างกายจะสูดสารเคมีเข้าไป และตกค้างอยู่ในร่างกายไม่ต่ำกว่าหนึ่งเดือน

การจัดบ้านแบบโฮมสปานั้นไม่จําเป็นจะต้องใช้วัสดุราคาแพง หรือปรับทุกส่วนของบ้านใหม่ตามหนังสือแต่งบ้าน เพราะแท้จริงแล้ว “ใจ” ของผู้อยู่อาศัยต่างหากที่เป็นหัวใจของโฮมสปา เมื่อใจสบาย…กล้ามเนื้อทุกมัดที่เครียดตึงก็ย่อมจะผ่อนคลายตามไปด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย

สครับงาดําแบบโฮมเมด

ส่วนผสม

งาดํา  1 – 2ถ้วยตวง

น้ำผึ้ง 1 – 2 ถ้วยตวง

น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันหอมระเหยแท้ 2 – 3 หยด (เลือกกลิ่นที่ชอบ)

บดงาดําให้ละเอียด จากนั้นผสมทุกอย่างรวมกัน ถ้าเป็นคนผิวแห้งมากให้เติมโยเกิร์ตรสธรรมชาติประมาณ 2 ช้อนโต๊ะลงไป นําไปสครับผิว แล้วล้างออกโดยไม่ต้องใช้สบู่

Tips

• สําหรับคนที่ผิวแพ้ง่าย ให้นําน้ําผึ้งไปนึ่งในลังถึงประมาณ 20 นาทีเพื่อฆ่าเชื้อ

• สครับที่ผสมแล้วสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ 2 – 3 สัปดาห์