ใครใช้ สบู่ฆ่าเชื้อโรค บ้าง ?
อย่างที่รู้ว่า โลกเราทุกวันนี้เต็มไปด้วย มลพิษและเชื้อโรค พอเห็นโฆษณาว่
ามี สบู่ฆ่าเชื้อโรค ช่วยปกป้องผิวจากแบคทีเรียได้นาน เป็นพิเศษ เราก็นึกอยากซื้อมา ใช้แทบจะทันที จริงๆแล้ว… สบู่ฆ่าเชื้อโรค อย่างที่ว่ามันจำเป็นและดีจริงๆ หรือ ?
องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) ออกประกาศ ถึงการแบนสาร Triclosan และ Triclocarban ซึ่งเป็นสารประกอบสำคัญ ในสบู่ฆ่าเชื้อโรค นับเป็นเรื่องที่สั่นสะเทือน วงการสบู่ทั่วโลกอย่างมาก
สาเหตุที่ FDA สั่งแบนสารสองประเภทนี้ เนื่องจาก
- ไม่พบว่าการใช้สบู่ฆ่าเชื้อโรค จะมีประโยชน์ในเรื่องการป้องกันโรค ได้มากกว่าสบู่ทั่วไป
- สารฆ่าเชื้อในตัวสบู่ อาจส่งผลให้คนใช้ เกิดการดื้อยา เรียกได้ว่ากำลังเป็นปัญหาใหญ่ ที่คุกคามวงการแพทย์เป็นอย่างมาก
ธรรมชาติบนผิวหนังของเรา มีแบคทีเรียอาศัยอยู่หลายชนิด ทั้งตัวที่ดีและตัวร้าย แบคทีเรียจะควบคุมกันเอง เมื่อเราฆ่าแบคทีเรีย นั่นหมายถึง แบคทีเรียตัวที่ดีซึ่งคอยปกป้องผิวเรา จะโดนกำจัดไปด้วย จึงทำให้ผิวหนังเสียสมดุลย์ ทำให้เกิดการแพ้ และแห้งผากได้ง่าย
เชื้อโรคสามารถติดต่อถึงกันได้
ง่ายๆ เพียงแค่คนที่เป็นพาหะไปจับต้องวัตถุ แล้วบังเอิญคุณไปจับต่อ แล้วมาหยิบอาหารเข้าปาก ขยี้ตา หรือจมูกด้วยมือที่สกปรกนั่นเอง และจะเกิดขึ้นได้ง่าย ในเด็กๆที่ภูมิต้านทานโรคยังน้อย
วิธีที่จะป้องกันแบคทีเรียหรือเชื้อโรค ไม่ให้เข้ามากล้ำกรายคุณ โดยไม่ต้องใช้สบู่ฆ่าเชื้อโรค สามารถทำได้ง่ายดาย คือการ “ล้างมือ” ซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย ถูก และดีที่สุดในการป้องกันเชื้อโรค
ฉะนั้น ฝึกล้างมือ เพื่อป้องกันเชื้อโรค ให้เป็นนิสัยดีกว่าค่ะ
ที่มา : http://www.fda.gov
