ประจำเดือนมาไม่ปกติ
ปรับฮอร์โมน แก้อาการ ประจำเดือนมาไม่ปกติ … หลังจากกินอาหารชีวจิตตั้งแต่ป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง จนถึงทุกวันนี้ พบว่าระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานเป็นปกติ โดยเฉพาะผม ไทรอยด์ และประจำเดือน
ฉะนั้นเมื่อมีใครสักคนที่รู้จักมักคุ้นเกิดอาการต่างๆ แบบที่เราเคยเป็น ก็จะไม่รอช้า รีบแนะนำเขาทันที เช่นน้องนางคนหนึ่ง ชอบมีปัญหาเรื่องประจำเดือนกะปริบกะปรอย และสิวขึ้นบนใบหน้าอยู่เนืองๆ ก็จะรีบบอกนางให้คลายเครียด เลิกกินเนื้อสัตว์ที่ผ่านการเลี้ยงในระบบอุตสาหกรรม และพยายามกินข้าวกล้องให้บ่อยขึ้น พร้อมทั้งกินผักให้หลากหลาย นอกจากนี้ยังเติมด้วยอีฟนิ่งพริมโรสวันละ 1 เม็ด สัปดาห์ละ 5 วัน ติดต่อกัน 1 เดือนครึ่ง – 2 เดือน
ซึ่งอาการที่นางกังวลก็ดีขึ้น ประจำเดือนเลิกเล่นเอาเถิดเจ้าล่อ และยอมมาตามรอบของมันเองอย่างนุ่มนวล โดยไม่มีอากาปวดประจำเดือนให้ทรมานกายและใจเลย
สักไม่กี่ปีต่อมา น้องนางคนนี้ก็มีอาการเดียวกันนี่อีก รอบนี้เราก็แนะนำแบบเดียวกัน โดยย้ำว่าสัตว์ที่เลี้ยงในระบบอุตสาหกรรม ไม่ได้มีแต่ “ไก่” กุ๊กกุ๊กนะยะ ยังมี “หมู” อู๊ดอู๊ดด้วย ฉะนั้นเมื่อนางเลิกกินเนื้อสัตว์ทั้งสองประเภทนี้ หรือนานๆ กินที อาการประจำเดือนมากะปริบกะปรอยก็เหมือนจะหายขาด
จะว่าไป ตามคำบอกกล่าวของดร. สาทิส อินทรกำแหง กูรูต้นตำรับชีวจิต ท่านว่า สาเหตุใหญ่ของปัญหาเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์หญิงคือ ฮอร์โมน แม้ว่าเราจะมีฮอร์โมนอยู่หลายตัว แต่ตัวที่เป็นนางเอกตลอดกาลคือ เอสโตรเจน และเอสโตรเจนนี่เอง ก็คือฮอร์โมนสำคัญที่ใช้ในการเลี้ยงสัตว์ในระบบอุตสาหกรรม ซึ่งมักตกค้างอยู่ในสัตว์ดังกล่าว ฉะนั้นเมื่อเรากินเนื้อสัตว์นั้นๆ เราก็จะได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจนส่วนเกินมาด้วย
ที่ร้ายยิ่งกว่านั้นคือ เอสโตรเจนที่ใช้ในโลกใบนี้ส่วนใหญ่ เป็นเอสโตรเจนสังเคราะห์ ซึ่งทำจากเอสโตรเจนของม้า ซึ่งนอกจากแอนตี้บอดี้ในร่างกายมนุษย์ไม่รับแล้ว ยังไปก่อกวนการทำงานของเอสโตรเจนปกติในร่างกายเราอีกด้วย
ฉะนั้น การหยุดรับฮอร์โมนเอสโตรเจนแปลกปลอม จึงคือทางแก้ปัญหานี้ (ไม่เกี่ยวกับเรื่องวัยทองนะคะ พูดอีกครั้ง ไม่เกี่ยวกับเรื่องวัยทองนะคะ) นอกจากที่กล่าวมาทั้งหมด วิธีการเพิ่มเติมเพื่อสร้างสมดุลฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายเรา จากหนังสือ Metabolic Code ของ ด็อกเตอร์ลาวิลล์ มีดังนี้ค่ะ
- พยายามอย่าดื่มน้ำที่มาจากภาชนะพลาสติก ที่มีส่วนผสมของ bisphenol A หรือ BPA ในกระบวนการผลิต เนื่องจากสาร BPA จะทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง
- อย่านำอาหารที่อยู่ในถุงหรือภาชนะพลาสติก เข้าไปอุ่นในเตาไมโครเวฟ เนื่องจากสาร BPA จากพลาสติกจะตกค้างอยู่ในอาหาร และทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง
- งดใช้ครีมทาหน้า แชมพู ผ้าอนามัย หรือกระดาษชำระ ที่มีส่วนผสมของ phthalets ซึ่งเป็นสารเคมีที่อยู่ในส่วนผสมของการผลิตพลาสติกด้วย ซึ่งก็ทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง
ส่วนอาหารที่ควรกิน เพื่อช่วยให้เอสโตรเจนสมดุลคือ
- บร็อคโคลี่ และกระหล่ำปลี ซึ่งมีสาร Diindolylmethane หรือ DIM ซึ่งมีสรรพคุณบำรุงเอสโตรเจนให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
- น้ำมันปลา ซึ่งมีโอเมก้า 3 ซึ่งมีสรรพคุณในการรักษาระดับกรด eicosapentaenoic acid (EPA) ซึ่งกรดตัวนี้จะช่วยให้เอสโตรเจนทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
- โปรไอติก ที่จะช่วยการทำงานของระบบย่อยอาหาร และรักษาสมดุลให้เอสโตรเจน
- พืชที่มีไฟโตเอสโตรเจน เช่น ถั่วเหลือง ทับทีม ซึ่งจะทำหน้าที่คล้ายเอสโตรเจน ช่วยป้องกันอาการก่อนการมีประจำเดือน เช่น ปวดท้อง หงุดหงิด