กาแฟ, ดีท็อกซ์, ชีวจิต, Detox

ดีท็อกซ์ แบบชีวจิต เคล็ดลับทำอย่างไร้กังวล และเรื่องที่ควรรู้

4. Question : อุปกรณ์ดีท็อกซ์มีมากมายจนไม่รู้ว่าต้องใช้อะไรบ้าง และซื้อได้ที่ไหน

Answer :

อุปกรณ์ที่สำคัญในการทำดีท็อกซ์ประกอบด้วย

ผงกาแฟบริสุทธิ์ ที่ไม่ผ่านกระบวนการปรุงแต่ง ไม่ใช่กาแฟชงดื่มหรือกาแฟไร้กาเฟอีน (ดีแคฟ) โดยแบ่งออกเป็น ชนิดผงชงละลายทันทีมีผงละเอียดมาก จึงไม่ต้องกรองกากออกหลังต้ม มีทั้งแบบตวงเองและแบบบรรจุซองขนาดเล็กสำหรับใช้ต้มครั้งละหนึ่งซอง พกพาสะดวก ส่วน ชนิดผงหยาบ มีผงค่อนข้างหยาบ ต้องใช้กระชอนกรองกากออกจากน้ำหลังต้มเสร็จแล้ว มีทั้งแบบตวงเองและแบบบรรจุในซองคล้ายถุงชา จะช่วยแยกกากออกจากน้ำกาแฟ

ชุดดีท็อกซ์ แบบถุง มีลักษณะคล้ายถุงน้ำเกลือ มีสายสวนทวารหนัก (สายยาง) ปลอกสวมปลายสายยาง และวาล์วปล่อยน้ำพกพาสะดวก และ แบบขวด เป็นขวดพลาสติกขนาดบรรจุ 2 ลิตรแล้วเชื่อมสายยางเข้ากับฝาขวด สามารถเปลี่ยนขวดใหม่ตามต้องการราคาถูกกว่าแบบถุง แข็งแรง ทนทาน แต่พกพาไม่ค่อยสะดวก

สารหล่อลื่น สำหรับทาปลายสายยาง เพื่อป้องกันการขูดขณะสอดเข้าทวารหนัก แบบที่นิยมใช้ได้แก่ เจลหล่อลื่นชนิดละลายน้ำเป็นเจลเนื้อใส ล้างออกง่ายด้วยน้ำสะอาด เจลหล่อลื่นชนิดไม่ละลายน้ำ (ปิโตรเลียมเจล) เนื้อเจลเหนียวเล็กน้อย ต้องล้างออกด้วยน้ำสบู่ราคาถูก และ น้ำสบู่ ทำโดยเจือจางสบู่กับน้ำสะอาด

 

5. Question : นอกจากน้ำกาแฟแล้ว การใส่วิตามินหรือใช้น้ำสมุนไพรอย่างอื่น เช่น น้ำใบย่านาง ช่วยให้การทำดีท็อกซ์ได้ประสิทธิผลยิ่งขึ้น

Answer :

การทำดีท็อกซ์แบบชีวจิตปรับปรุงจากสูตรของนายแพทย์แมกซ์ เกอร์สัน ผู้ริเริ่มใช้การทำดีท็อกซ์รักษาผู้ป่วยในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยหลักจะใช้น้ำกาแฟเพราะจากการศึกษาและทดลองใช้จริงพบว่า น้ำกาแฟมีสารกาเฟอีน ซึ่งสามารถกระตุ้นการไหลเวียนของเส้นเลือดดำพอร์ทัลเวน (portal vein) ที่ออกจากตับไปยังลำไส้เล็กลำไส้ใหญ่ กระเพาะอาหาร ตับอ่อน และม้าม จึงช่วยขับท็อกซินที่สะสมอยู่ตามอวัยวะในช่องท้องออกมา

กรณีที่ใช้น้ำกาแฟอย่างเดียวมาเป็นเวลานาน สูตรชีวจิตยังสลับใช้น้ำมะนาวหรือน้ำมะขามได้บ้าง เพื่อล้างคราบกาแฟที่ติดอยู่ตามผนังลำไส้ใหญ่ แต่น้ำทั้งสองชนิดมีความเป็นกรด อาจทำให้ท้องร้องโครกครากหรือมีอาการปวดมวน จึงไม่แนะนำให้ใช้บ่อย เช่น ใช้น้ำกาแฟ 5 - 6 ครั้ง สลับกับน้ำมะนาวหรือน้ำมะขาม 1 - 2 ครั้ง

สูตรน้ำมะนาวจะใช้มะนาวประมาณ 4 ลูก บีบเอาแต่น้ำมาผสมกับน้ำอุ่น และสูตรน้ำมะขามจะใช้ส้มมะขาม 1 กำมือ ต้มกับน้ำจนเดือดกรองเนื้อมะขามออก แล้วผสมน้ำให้อุ่นพอดี นอกจากนี้ ตามสูตรของชีวจิตไม่มีการใส่วิตามินลงในน้ำกาแฟ เนื่องจากลำไส้ใหญ่ไม่มีหน้าที่ย่อยและดูดซึมสารอาหารไปเลี้ยงร่างกายแล้ว

สำหรับสมุนไพรอื่นๆ ที่พบว่ามีการนำมาทำดีท็อกซ์นั้น ส่วนใหญ่นิยมใช้ทำอาหาร ตามการแพทย์โบราณกล่าวว่า บางชนิดกินแล้วมีฤทธิ์ช่วยล้างพิษในร่างกาย อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการศึกษาหรือรับรองว่าช่วยล้างพิษจากการสวนล้างลำไส้

 

6. Question : ทราบมาว่า ชีวจิต แนะนำให้ใช้น้ำกาแฟในการดีท็อกซ์ ไม่ทราบว่าจะดูดซึมเข้าร่างกายหรือไม่ และสามารถใช้น้ำชนิดอื่นดีท็อกซ์แทนได้หรือไม่

Answer :

ปกติสารกาเฟอีนถูกดูดซึมเข้าร่างกายโดยการกินและดื่ม เนื่องจากอาหารที่กินเข้าไปจะผ่านกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กซึ่งมีหน้าที่ดูดซึมสารอาหาร ส่วนการทำดีท็อกซ์ผ่านทางทวารหนักด้วยน้ำกาแฟนั้น น้ำกาแฟจะไหลไปถึงบริเวณลำไส้ใหญ่ซึ่งไม่มีหน้าที่ดูดซึมสารอาหารสารกาเฟอีนจึงไม่ถูกดูดซึมเข้าร่างกาย

ชีวจิต แนะนำให้ใช้น้ำกาแฟดีท็อกซ์ โดยใช้ผงกาแฟบริสุทธิ์ที่ไม่ผ่านกระบวนการปรุงแต่ง ไม่ใช่กาแฟชงดื่มหรือกาแฟไร้กาเฟอีน หากใช้กาแฟดีท็อกซ์มาเป็นเวลานานอาจใช้น้ำชนิดอื่นสลับได้บ้างแนะนำให้ใช้น้ำมะนาวและน้ำมะขาม

 

7. Question : การนำสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่างกาย เช่น สายสวนทวารทำให้ร่างกายมีโอกาสติดเชื้อง่ายขึ้นหรือไม่

Answer :

การทำดีท็อกซ์เน้นเรื่องความสะอาดเป็นหลัก หลังทำดีท็อกซ์แนะนำให้ทำความสะอาดอุปกรณ์ เช่น สายสวนทวาร ถุงหรือขวดใส่น้ำกาแฟ และผึ่งให้แห้ง ส่วนเรื่องเชื้อโรคนั้น โดยปกติลำไส้ใหญ่ของคนเรามีเชื้อโรค ซึ่งปนอยู่ในอุจจาระอาศัยอยู่ในลำไส้ใหญ่อยู่แล้ว ดังนั้นการสวนทวารเฉพาะบริเวณลำไส้ใหญ่จึงไม่ใช่การนำเชื้อโรคเข้าไปเพิ่มในร่างกาย

 

หากทำอย่างถูกต้อง ถูกวิธี ถูกขั้นตอน การดีท็อกซ์ก็ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายค่ะ


บทความน่าสนใจอื่นๆ

ปรับอาหาร แก้ท้องผูก เลิกเสพติดดีท็อกซ์

สูตร “2 in 1” ลดน้ำหนัก – ดีท็อกซ์

ดีท็อกซ์ผิว + ลดน้ำตาล ด้วยย่านาง

ติดตาม ชีวจิต ในช่องทางต่างๆ ได้ที่

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.