คุมกำเนิด

วิธี คุมกำเนิด อย่างง่าย (หน้า 7 หลัง 7)

วิธี คุมกำเนิด อย่างง่าย (หน้า 7  หลัง 7)

 

Q : การ คุมกำเนิด ด้วยวิธีนับ “หน้า 7 หลัง 7” มีความเสี่ยงแค่ไหน ถือเป็นวิธีที่ได้มาตรฐานหรือไม่ และมีโอกาสเสี่ยงตั้งครรภ์มากน้อยแค่ไหน หรือมีวิธีปฏิบัติอย่างไรให้ได้ผลในการคุมกำเนิดร้อยเปอร์เซ็นต์

 

A : เลข 7 เป็นเลขสวย อะไรที่มีเลข 7 ประกอบมักจะทำให้จำง่าย นึกไปถึงภาพยนตร์เรื่อง 7 เซียนซามูไร และ 7 สิงห์แดนเสือ เป็นหนังอมตะสร้างขึ้นเมื่อกว่า 50 ปีที่ผ่านมา

เรื่องราวของสองเรื่องนี้คล้าย ๆ กัน แม้เรื่องแรกจะสร้างที่ประเทศญี่ปุ่น เรื่องที่สองสร้างที่ประเทศ

สหรัฐอเมริกา แต่เพราะเรื่องที่สองเอาเนื้อเรื่องมาจากเรื่องแรก เป็นเรื่องของหมู่บ้านชาวนาที่ยากจน มีโจรมารังแก ปล้นข้าวปลาอาหารเป็นประจำ ชาวบ้านก็ไม่กล้าสู้ จนอดอยากไม่เหลืออะไรกิน สุดท้ายทนไม่ไหวชาวบ้านรวบรวมเงินจะไปซื้อปืนมาต่อสู้ ขณะเดินทางไปซื้อปืน เจอพระเอกแสดงฝีมือต่อสู้ผู้ร้าย ชาวบ้านเลยใช้เงินน้อยนิดจ้างพระเอก ซึ่งไปตามหาเพื่อนอีก 6 คนมาช่วยกัน แต่ละคนที่มาช่วยก็มีเหตุผลต่างกัน เช่น บางคนอยากลืมอดีต บางคนยากจนไม่มีอะไรกิน บางคนชอบความตื่นเต้น

แม้หนังจะดูเชย ล้าสมัย บทต่อสู้ก็ไม่ดุเดือดเท่ากับ การใช้แอนิเมชั่นหรือคอมพิวเตอร์มาช่วยในสมัยนี้ แต่ที่ไม่เปลี่ยนแปลงเลยคือบทสรุปของภาพยนตร์ที่ว่า สุดท้ายเมื่อเกิดเหตุการณ์คับขัน คนเราส่วนหนึ่งที่มีมนุษยธรรม มีพลังที่จะเสียสละกระทั่งชีวิต จะต่อสู้เพื่อความถูกต้อง ยุติธรรม โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนตัว

ส่วนคำว่า “หน้า 7 หลัง 7” นั้นเป็นคำพูดติดปากและนิยมใช้คุมกำเนิดในหมู่วัยรุ่นมานานกว่า 30 ปี โดยที่มาของ “หน้า 7 หลัง 7” มาจากหลักการทางวิทยาศาสตร์ ดังนี้

1. เมื่อมีประจำเดือน คนเราไม่ควรท้อง

2. ผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ (อายุ 15 - 45 ปี) ตกไข่เดือนละ 1 ครั้ง และมีชีวิตแค่ 24 ชั่วโมง

3. เมื่ออสุจิเข้าไปในร่างกายผู้หญิง มีอายุนานที่สุดคือ 72 ชั่วโมง (3 วัน)

4. ผู้หญิงมีประจำเดือนมาเดือนละครั้ง โดยรอบประจำเดือนอยู่ที่ประมาณ 21 - 35 วัน เฉลี่ย 28 วัน มานานครั้งละ 3 - 5 วัน

5. ไข่ โดยทั่วไปตกวันที่ 14 ของประจำเดือน แต่อาจตกเร็วที่สุดประมาณวันที่ 10 ของประจำเดือน ช้าสุดวันที่ 20 ของประจำเดือน

ดังนั้นหากเป็นไปตามนี้ ไข่ตกเร็วที่สุดวันที่ 10 ของประจำเดือน อสุจิมีชีวิตอยู่ได้ 3 วัน วันแรกที่จะท้องได้คือวันที่ 8 ของประจำเดือน หากไข่ตกช้าสุดคือวันที่ 20 ของประจำเดือน ไข่มีชีวิตวันเดียว วันสุดท้ายที่จะท้องได้คือวันที่ 21 ของประจำเดือน จึงออกมาเป็นสูตรที่ว่า วันที่ 1 - 7 ของประจำเดือน คือหลัง 7 จะไม่ท้อง และวันที่ 21 - 28 ของประจำเดือน คือก่อน 7 จะไม่ท้อง

แต่ “หน้า 7 หลัง 7” เป็นเกณฑ์คร่าว ๆ ผู้หญิงเราสามารถคำนวณวันปลอดภัยของตนเองได้จากรอบประจำเดือน โดยจดวันที่ประจำเดือนมา อย่างน้อย 1 ปี เพื่อหารอบประจำเดือนที่สั้นที่สุดและยาวที่สุด แล้วนำมาคำนวณตามสูตร

วันแรกของประจำเดือนที่อาจตั้งครรภ์ได้ = รอบประจำเดือนที่สั้นที่สุด - 18

วันสุดท้ายของประจำเดือนที่อาจตั้งครรภ์ได้ = รอบประจำเดือนที่ยาวที่สุด - 11

ตัวอย่าง : รอบประจำเดือนสั้นสุด 25 วัน ยาวสุด 35 วัน เมื่อนำมาเข้าสูตรจะพบว่า

วันแรกของประจำเดือนที่อาจจะตั้งครรภ์ได้ = 25-18 คือวันที่ 7 ของประจำเดือน

วันสุดท้ายของประจำเดือนที่อาจจะตั้งครรภ์ได้ = 35-11 คือวันที่ 24 ของประจำเดือน

ดังนั้นหากรอบประจำเดือนเป็นไปตามที่สมมุติ วัน ปลอดภัยคือวันที่ 1 - 6 ของประจำเดือน และวันที่ 24 ของประจำเดือน จนกระทั่งประจำเดือนมา

ข้อดี ของการคุมกำเนิดโดยวิธี “หน้า 7 หลัง 7” คือ

1 เป็นวิธีธรรมชาติ ไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์

2 ไม่มีการใช้ฮอร์โมนที่ทำให้ร่างกายเปลี่ยนแปลง

3 สอดคล้องกับความเชื่อของบางศาสนาที่ห้ามคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น ๆ

ข้อเสีย ของการคุมกำเนิดโดยวิธี “หน้า 7 หลัง 7” มีดังนี้

1 ไม่มีประสิทธิภาพ การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพต้องคุมกำเนิดได้ร้อยละ 99 ขึ้นไป ดังนั้นหากไม่อยากตั้งครรภ์เลย ไม่ควรใช้วิธีนี้

2 ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หากจะให้ป้องกันได้ควรใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย

3 อาจเป็นช่วงที่ไม่พร้อมจะมีเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะหลัง 7 นั้น อาจยังมีประจำเดือนมา ทำให้เปรอะเปื้อนอักเสบติดเชื้อง่าย บางคนก่อนเป็นประจำเดือนและหลังเป็นประจำเดือนมีอาการปวดประจำเดือนร่วมด้วย

 วิธีที่จะทำให้หน้า 7 หลัง 7 มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดมากขึ้นมีดังนี้ค่ะ

1 นับให้ถูกต้อง การนับ “หน้า 7 หลัง 7” ต้องนับจากวันแรกที่ประจำเดือนมา หากนับตอนประจำเดือนหมด มีโอกาสพลาดตั้งครรภ์

2 ประจำเดือนมาตรง คนที่ประจำเดือนมาไม่ตรงอาจนับหลัง 7 ได้เมื่อประจำเดือนมา แต่จะนับหน้า 7 ไม่ได้เพราะไม่รู้ว่าประจำเดือนครั้งต่อไปจะมาวันที่เท่าไร

3 ประจำเดือนควรมาเดือนละ 1 ครั้ง หากประจำเดือนมามากกว่า 1 ครั้งต่อเดือนจะใช้วิธีนี้ไม่ได้ เพราะอาจเป็นประจำเดือนช่วงไข่ตก ทำให้พลาดตั้งครรภ์

4 ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย หากประจำเดือนมากะปริบกะปรอย ไม่ควรวางใจการนับ เพราะมีปัจจัยมากมายที่ทำให้ผู้หญิงมีเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอดแล้วคิดว่าเป็นเลือดประจำเดือน เช่น เครียด ฮอร์โมนผิดปกติ ปากมดลูกอักเสบ เนื้องอกปากมดลูก เนื้องอกมดลูก ถุงน้ำรังไข่เนื้องอกรังไข่ เสริมฮอร์โมนหรือกินสมุนไพรที่มีฮอร์โมนเพศหญิง

5 เคร่งครัดในกฎเกณฑ์ เช่น หน้า 7 หลัง 7 ก็ต้องยึดเลข 7 ไม่ใช่ 8 วัน 9 วัน 10 วัน ก็ได้

จาก คอลัมน์เปิดห้องหมอสูติ นิตยสารชีวจิต ฉบับ 408 (1 ตุลาคม 2558)


บทความน่าสนใจอื่นๆ

Natural Viagra เพิ่มพลังทางเพศ

12 วิธีเลือกเพศบุตรแบบธรรมชาติ

“ความต้องการทางเพศ” แค่ไหนจึงพอดี

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.