คู่มือ 360 องศา ดูแลสุขภาพ ดวงตา ยุคโลกออนไลน์
ดวงตา มีความสำคัญต่อชีวิตอย่างไร คำตอบคือ เราเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ผ่านการมองเห็นถึง 80 เปอร์เซ็นต์ผ่านการฟัง 10 เปอร์เซ็นต์ ผ่านการดมกลิ่น 3.5 เปอร์เซ็นต์ และผ่านการรับรสด้วยลิ้นเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ จึงเห็นได้ว่าหาก ดวงตา มีปัญหาจะส่งผลให้คุณภาพชีวิตลดน้อยลงอย่างน่าใจหาย
ยิ่งในยุคนี้เรามีเทคโนโลยีที่ทันสมัยทั้งคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ซึ่งเอื้อต่อการทำงาน การใช้ชีวิตให้สะดวกสบาย แถมสนุกสนานเพลิดเพลิน แต่คุณสมบัติดีเด่นเหล่านี้ก็มาพร้อมกับผลเสียต่อสุขภาพ ดวงตา เช่นกัน
ชีวจิต มีเคล็ดลับการดูแลและฟื้นฟูอาการผิดปกติของดวงตาซึ่งทำตามง่าย ได้ผลจริง เพื่อช่วยให้การมองเห็นของทุกท่านแจ่มแจ๋วไปตลอดชีวิตครับ
นวดกดจุด หยุดสายตาเพลีย + กระตุ้นการมองเห็น
เคยได้ยินอาการ “สายตาเพลีย” กันไหมครับ หนังสือ รอบรู้เรื่องตา โดยทีมจักษุแพทย์โรงพยาบาลจักษุ รัตนิน อธิบายไว้อย่างละเอียดว่า
ผู้ป่วยมักเห็นภาพหรือตัวอักษรพร่าลายเป็นพักๆ นอกจากนี้อาจเกิดอาการปวดเมื่อยดวงตา ระคายเคืองตา แสบตา น้ำตาไหล และมีอาการปวดศีรษะร่วมด้วย
สาเหตุของอาการสายตาเพลียมีหลายข้อ เช่น การทำงานในที่มืดหรือมีแสงจ้าเกินไปต้องเพ่งตัวอักษรขนาดเล็ก ทำให้กล้ามเนื้อตาต้องทำงานหนักเพื่อปรับภาพให้ชัด ถูกลม หรือเครื่องปรับอากาศโกรกดวงตา รวมถึงเกิดจากความผิดปกติของดวงตาที่ทำให้กล้ามเนื้อตาต้องทำงานมากขึ้น อาทิ สายตาสั้นและสายตาเอียง สายตายาว กล้ามเนื้อตาไม่แข็งแรง
นอกจากต้องปรับสภาพแวดล้อมในการทำงานให้เหมาะสมแล้ว รองศาสตราจารย์ นายแพทย์กรุงไกร เจนพานิชย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกระดูกและข้อ แนะนำวิธีกดจุดซึ่งประยุกต์มาจากท่าฤาษีดัดตนเพื่อแก้ปัญหาสายตาเพลียว่า
“ท่ากดจุดนี้นอกจากเป็นท่าบริหารกล้ามเนื้อใบหน้าแล้ว บางจุดที่กดลงไปยังกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาทของดวงตา คล้ายหลักการนวดกดจุดสะท้อนสัญญาณ ซึ่งช่วยป้องกันการมองเห็นภาพซ้อน สายตาเพลีย ลดอาการปวดศีรษะที่เกิดจากการเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณบ่า ไหล่ และกล้ามเนื้อตา”
6 ท่ากดจุดหยุดสายตาเพลีย
คุณหมอกรุงไกรแนะนำวิธีนวดกดจุดดังต่อไปนี้
ท่าเสยผม
ใช้นิ้วชี้นิ้วกลาง และนิ้วนางของมือทั้งสองกดขอบกระบอกตาบนแล้วค่อยๆ ดันนิ้วทั้งสามเลื่อนขึ้นไปบนศีรษะจนถึงท้ายทอยคล้ายการเสยผม ทำ 10 ครั้ง
ท่าทาแป้ง
ใช้นิ้วกลางทั้งสองกดตรงบริเวณหัวตา (โคนสันจมูก) จากนั้นดันนิ้วขึ้นไป แล้วใช้นิ้วทั้งหมด (ยกเว้นนิ้วหัวแม่มือ) แตะหน้าผาก โดยให้ปลายนิ้วจรดกัน ลูบลงไปข้างแก้มจนถึงคางแบบแนบสนิท ทำ 10 ครั้ง
ท่าเช็ดปาก
วางมือขวาทาบลงบนปาก กดฝ่ามือให้แน่นพอสมควร จากนั้นลากมือไปทางขวาจนสุด นับเป็น 1 ครั้ง สลับข้าง ทำ 20 ครั้ง
ท่าเช็ดคาง
วางหลังมือขวาไว้ใต้คาง จากนั้นออกแรงดันให้หลังมือชนคาง แล้วลากมือไปทาง
ขวาจนสุด นับเป็น 1 ครั้ง สลับข้าง ทำ 20 ครั้ง
ท่ากดใต้คาง
วางนิ้วหัวแม่มือทั้งสองใต้คางโดยให้ปลายนิ้วที่เหลือชี้ตั้งฉากกับคาง ออกแรงกดนิ้วหัวแม่มือค้างไว้ 10 วินาที แล้วเลื่อนนิ้วไปให้ทั่วใต้คางเฉพาะทางด้านหน้า (ประมาณ 5 ครั้ง)
ท่าถูหน้าและหลังหู
ใช้นิ้วกลางและนิ้วชี้ของมือทั้งสองข้างคีบหูไว้หลวมๆ วางนิ้วนางและนิ้วก้อยแนบแก้ม ส่วนนิ้วโป้งวางไว้หลังหู ถูนิ้วขึ้น -ลง แรงๆ นับเป็น 1 ครั้งทำ 20 ครั้ง