กินเค็ม เสี่ยง 6 โรค ทำลายสุขภาพ
การ กินเค็ม เป็นพฤติกรรมที่ทำลายสุขภาพ เพราะรสชาติเค็มในอาหารหลายต่อหลายมื้อที่เราชอบกินนั้น ไม่ว่าจะในรูปแบบของการปรุงอาหาร และในรูปแบบของเครื่องปรุงรส อาทิ น้ำปลา เกลือ กะปิ หรือแม้กระทั่งผงชูรส เพื่อให้มีรสชาติที่อร่อยกลมกล่อม ถูกปากใครหลายคน ล้วนทำลายสุขภาพได้ในระยะยาว จนถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว โดยข้อมูลของสมาคมโรคหัวใจ ประเทศสหรัฐอเมริกา (American Heart Association) เปิดเผยข้อมูลผลสำรวจจากทั่วโลก พบว่า เกลือเป็นวายร้ายทำลายหัวใจ และจากข้อมูล50 ประเทศ ทำให้ทีมวิจัยทราบว่า ผู้ที่เสียชีวิตจากภาวะหัวใจวายและเส้นเลือดหัวใจตีบ 15 เปอร์เซ็นต์มีสาเหตุจากการกินเกลือมากเกินไป
โดยปกติแล้วร่างกายของคนเราต้องการโซเดียมต่อวันเพียง 1 ช้อนชาหรือประมาณ 2000 มิลลิกรัม จากการสำรวจของกรมอนามัยร่วมกับสถาบันโภชนศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าคนไทยส่วนใหญ่รับประทานโซเดียมกันมากถึง 2 เท่าของปริมาณที่แนะนำ โดยเพิ่มมากยิ่งขึ้นทั้งในรูปแบบของอาหารสดรสจัดหรืออาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปมาแล้ว หากยังไม่หยุดพฤติกรรมเหล่านี้ ก็ย่อมนำพาซึ่งมหันตภัยร้ายต่อร่างกายได้ในภายหลัง
วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ 6 โรค ที่ซ่อนอยู่ภายใต้รสชาติเค็มของอาหาร ซึ่งหากเรากินมากหรือน้อยจนเกินไป อาจส่งผลเสียต่อร่างกายของเราได้
6 โรค จากการกินเค็ม
- ความดันโลหิตสูง หากร่างกายเราได้รับเกลือหรือโซเดียมมากเกินไปจะทำให้มีความดันเลือดสูง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง คนอ้วน และผู้ป่วยโรคเบาหวาน
- โรคไต จากการที่มีการคั่งของน้ำและความดันโลหิตสูงนั้น ทำให้ไตทำงานหนักขึ้น เกิดการรั่วของโปรตีนในปัสสาวะมากขึ้น ทั้งยังทำให้ไตเสื่อม และไตวายในที่สุด
- โรคหัวใจ จากความดันโลหิตสูงนั้น ส่งผลให้ให้หัวใจทำการสูบฉีดเลือดหนักและเร็วมากกว่าเดิม เพราะปริมาณที่มากของโซเดียม ทำให้เกิดภาวะบวมน้ำและมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด
- อัมพฤกษ์ อัมพาต หากเป็นโรคความดันโลหิตสูงนานและไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ผนังหลอดเลือดก็จะถูกทำลายจนนำมาสู่การทำลายอวัยวะในส่วนอื่น ๆ
- โรคอ้วน การรับประทานอาหารที่มีรสชาติเค็มจะทำให้กระหายน้ำบ่อย และหากดื่มน้ำอัดลม น้ำหวาน หรือน้ำผลไม้เป็นจำนวนมาก ๆ จะทำให้น้ำหนักขึ้นจากพลังงานส่วนเกิน
- โรคหอบหืด การกำเริบของโรคหอบหืดมีความสัมพันธ์กับการรับประทานเค็ม หากลดเค็ม อาการหอบหืดก็จะลดการกำเริบได้อีกด้วย
วิธีลดปริมาณเกลือ
- เน้นอาหารสดมากกว่าอาหารที่ผ่านการแปรรูป
- หลีกลี่ยง บริโภคแต่น้อย หรือจำกัดการใช้เกลือและเครื่องปรุงรสบนโต๊ะอาหาร
- ชิมอาหารก่อนปรุงทุกครั้ง เพื่อให้รสไม่จัดเกินไป เพราะจะเกิดโทษต่อร่างกายได้
- อ่านฉลากโภชนาการเพื่อดูปริมาณของโซเดียม
เมื่อทราบกันแล้ว เราควรลดปริมาณของโซเดียมให้น้อยลง หันมาออกกำลังกาย รับประทานผัก ผลไม้ และดื่มน้ำให้มากขึ้น เพื่อการชะล้างเกลือและช่วยลดการบวมน้ำของร่างกาย จากนี้สุขภาพที่ดีของเราก็จะตามมา
ขอบคุณข้อมูลเพิ่มจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ, กรมอนามัย, สถาบันโภชนศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ www.thaiquote.org
———————————————————————————————
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
กิมจิ ปลาร้า ความเค็มสูง เสี่ยงโรคเรื้อรัง
อาหารรสเค็ม ส่งผลต่อไตอย่างไรบ้าง
คนไทยกินเค็มกว่าปกติ 2-3 เท่า เสี่ยงโรคเรื้อรัง ไตพังก่อนวัย