บอกลาอาการคัน ตกขาว เชื้อราในช่องคลอด ปัญหากวนใจน้องสาวที่แก้ไม่ตก
ตกขาว คัน เชื้อราในช่องคลอด นับเป็นหนึ่งในปัญหากวนใจสาวๆ ในบ้านเราที่มีภูมิอากาศแบบร้อนชื้น เมื่อมีอาการก็ทำเอาเสียอารมณ์ เสียบุคลิกภาพ ขาดความมั่นใจ ชีวจิตจึงนำวิธีแก้มาฝากค่ะ
คำถาม :
สวัสดีค่ะ ดิฉันมีอาการติดเชื้อราที่ช่องคลอดบ่อยมาก และบางครั้งลุกลาม จนเกิดโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ อยากให้คุณหมอช่วยให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองค่ะ
คำตอบ :
**ข้อมูลโดย นายแพทย์ประมวล จารุตระกูลชัย ผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินรีเวชวิทยาและแพทย์ประจำชีวจิตโฮมคลินิก**
ผู้หญิง 3 ใน 4 ต้องเคยมีอาการคันช่องคลอดหรือติดเชื้อรา มักจะเป็นเชื้อราที่ชื่อแคนดิดา (Candida) ซึ่งปกติมีอยู่ในช่องคลอดของผู้หญิงอยู่แล้ว ไม่ก่อให้เกิดอาการผิดปกติใดๆ แต่หากภูมิชีวิตตก ร่างกายอ่อนแอ สภาวะในช่องคลอดจะเปลี่ยนแปลงไป ทำให้เชื้อราแคนดิดาเพิ่มจำนวนขึ้น ก่อให้เกิดอาการคัน ระคายเคืองช่องคลอด ถ้าปล่อยอาการไว้โดยไม่เข้ารับการรักษา อาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย ทำให้มีอาการ ปัสสาวะแสบขัด เจ็บปวดเวลามีเพศสัมพันธ์
สาเหตุที่ทำให้ภูมิชีวิตตก จนเกิดการอักเสบและติดเชื้อง่าย ส่วนหนึ่งเกิดจากการกินผิดๆ เช่น กินอาหารหวานมากเกินไป ซึ่งจะไปกระตุ้นให้ร่างกาย เกิดการอักเสบและติดเชื้อง่าย นอกจากนี้ยังเกิดจากการใส่ชุดชั้นในที่ไม่สะอาด รวมถึงเป็นโรคเบาหวานซึ่งจะทำให้เกิดการติดเชื้อราง่ายขึ้น
ตามหลักชีวจิต อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง ได้แนะนำวิธีแก้และป้องกันการติดเชื้อราไว้ ว่า
- ห้ามกินของหวาน แป้งขัดขาว และไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์
- ดื่มน้ำเอนไซม์แครอตและเซเลอรี่วันละ 1 แก้วสลับกัน
- กินผักผลไม้ที่มีใยอาหารปริมาณสูง เช่น ผักบุ้ง ตำลึง ผักหวาน หัวปลีผักคะน้า บรอกโคลี
- กินโยเกิร์ตรสธรรมชาติวันละ 1 ถ้วย จะช่วย กำจัดเชื้อราได้เช่นเดียวกัน
- ต้มและรีดชุดชั้นใน เพราะความร้อนจะช่วยฆ่าเชื้อราได้
- สำหรับผู้เป็นโรคเบาหวาน ต้องควบคุมระดับ น้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
ตกขาวของคู่กายผู้หญิง
อย่างที่ทราบกันว่าตกขาวเป็นสิ่งที่ถูกขับออกมาจากช่องคลอด และสิ่งนั้นไม่ใช่เลือด ดังนั้นตกขาวจึงมีสีอะไรก็ได้ตามภาวะที่เกิดขึ้นช่วงนั้น เพียงแต่ส่วนใหญ่จะมีสีขาว แต่บางครั้งอาจมีอาการผิดปรกติเกิดขึ้นได้ ดังนั้นเรามาดูความแตกต่างของตกขาวปรกติ กับตกขาวที่ไม่ปรกติกันค่ะ
ตกขาวปรกติ
เป็นตกขาวที่พบได้ในภาวะปรกติ ตกขาวแบบนี้มีสีขาว คล้ายแป้งเปียก มีปริมาณไม่มาก ไม่คัน กลิ่นออกเปรี้ยวเล็กน้อย ไม่เหม็น อย่างไรก็ตามในบางช่วงอาจมีปริมาณมากขึ้นเล็กน้อย เช่น ช่วงก่อนมีรอบเดือน หลังมีรอบเดือน ช่วงไข่ตก หรือในช่วงตั้งครรภ์ ตกขาวเป็นสารที่ถูกขับออกมาจากช่องคลอด ส่วนสิ่งที่ถูกขับออกมานั้นมาจากต่อมต่างๆ ในระบบสืบพันธุ์ ซึ่งได้แก่
-
- น้ำที่หลั่งจากต่อมใต้ผิวหนัง บริเวณช่องคลอด เพื่อหล่อลื่นปากช่องคลอด
- เซลล์เยื่อบุผนังช่องคลอดที่หลุดลอกออกมา
- มูกจากต่อมที่ปากมดลูก
- โปรตีน เกลือแร่ ที่มาจากผนังช่องคลอด เยื่อบุโพรงมดลูก และหลอดมดลูก
- กรดแลคติคซึ่งแบคทีเรียในช่องคลอดสร้างจากไกลโคเจน ของเยื่อบุผนังช่องคลอด
ตกขาวที่ไม่ปรกติ
คือตกขาวที่มีปริมาณมาก มีกลิ่นเหม็น ลักษณะอาจเป็นหนอง มูกปนหนอง ปนเลือด มีฟอง และมักมีอาการอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น คัน แสบร้อนบริเวณปากช่องคลอด หรือปวดท้องน้อยร่วมด้วยก็ได้ ส่วนสาเหตุที่ทำให้ตกขาวผิดปรกติ ที่พบบ่อย 3 อันดับแรก คือ
-
- จากเชื้อแบคทีเรีย พบได้ร้อยละ 30-35
- จากเชื้อรา ยีส พบได้ร้อยละ 20-25
- จากเชื้อพยาธิ พบได้ร้อยละ 10
ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยที่พบเชื้อสองชนิดหรือมากกว่าสองชนิดอยู่ร้อยละ 15-20 ส่วนสาเหตุของอาการตกขาวที่ไม่ปรกติ ยังสามารถแบ่งตามตำแหน่งที่เกิด คือ
-
- ช่องคลอดอักเสบ ซึ่งมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อพยาธิ เชื้อรา เชื้อไวรัส เช่นโรคเริม เชื้อแบคทีเรียอื่นๆ
- ปากมดลูกอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อหนองใน เชื้อคลามิเดีย เชื้อเริม
- ปากมดลูกมีแผล เป็นเนื้องอก
- สิ่งแปลกปลอมในช่องคลอด เช่น เศษกระดาษทิชชู สำลี ผ้าก๊อซ เมล็ดผลไม้ ถุงยางอนามัย ฯลฯ
- เนื้องอกและมะเร็งมดลูก ขาดฮอร์โมน ทำให้เกิดช่องคลอดแห้งอักเสบ มีตกขาวได้
บทความน่าสนใจอื่นๆ