เดือนที่ 2
ยังคงทำเช่นเดิม การปรับเปลี่ยนการออกกำลังกายขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของการได้รับพลังงานในแต่ละวัน และหากเราพบว่าการเผาผลาญไม่สำเร็จตามเป้าหมาย สามารถชดเชยได้โดยการออกกำลังเพิ่มขึ้นหรือกินให้น้อยลงในวันต่อไป หรือหากปัญหาใหญ่คือไม่มีเวลามากพอ แนะนำการเต้น T25 (ดีวีดีการออกกำลังกาย) ที่ใช้เวลา 2 - 3 นาทีในการยืดเหยียดก่อนเต้นจริงช่วงออกกำลังกายจริงคือ 25 นาที และหลังยืดเหยียดทั่วร่างกาย 5 - 7 นาที รวม 30 นาที สามารถเผาผลาญได้ 350 - 500 แคลอรี
เลยทีเดียว แต่ให้ระวังเรื่องข้อต่อต่างๆ เช่น เข่า ข้อเท้า หรือผู้ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจให้เต้นอย่างมีสติรู้ตัว เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ และให้จำไว้ว่า การเผาผลาญแคลอรีไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว อาจเป็นการเดินขึ้นบันไดแทนลิฟต์กวาดบ้าน ถูบ้าน เล่นกับลูกหลาน แค่ขยับก็เท่ากับออกกำลังกายแล้ว
ครบ 4 สัปดาห์ ลงตารางแผนการลดน้ำหนัก ชั่งน้ำหนักประเมินผล ถ้าออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและคงที่ คำนวณแคลอรีอาหารและการเผาผลาญที่ถูกต้อง หรืออาจทำได้มากกว่าโดยไม่หักโหม อาจลดน้ำหนักได้มากกว่า 2 กิโลกรัมเลยทีเดียว
เดือนที่ 3
หากแผนการลดน้ำหนักของเราเป็นไปได้ดีตามเป้าหมาย อยากจะลองปรับเปลี่ยนการออกกำลังกาย หรือหากิจกรรมใหม่ที่เผาผลาญได้มากกว่าเดิม ก็ทำได้แต่ไม่ควรหักโหมมากเกินไป เพื่อป้องกันการบาดเจ็บและอย่าลืมยืดเหยียดกล้ามเนื้อก่อนและหลังออกกำลังกายเสมอ
จบเดือนนี้ ตามแผนจะลดน้ำหนักได้อีกประมาณ 2 - 3 กิโลกรัม หรือบางคนอาจได้ผลลัพธ์เกินเป้าหมายที่กำหนดไว้แล้วก็ได้
เดือนที่ 4 - 6
ปรับการออกกำลังกาย พยายามควบคุมการออกกำลังกายเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย ยึดการเต้นของหัวใจขณะพักเป็นหลักหรืออาจปรับเปลี่ยนเป็นกิจกรรมที่หนักหน่วงมากขึ้น เช่น ต่อยมวย เล่นแบดมินตัน บาสเกตบอล หรือเตะบอลกับเพื่อนๆ และควบคุมอาหารให้ได้พลังงานน้อยกว่าเดิมตามเป้าที่กำหนดไว้ หากมีการหลุดแผนไปในบางวัน ให้ค่อยๆ ปรับกลับมาในแผน อย่าปล่อยให้สะสมจนรู้สึกว่าเป็นเรื่องหนักเกินไปและเลิกไปในที่สุด ตั้งมั่นและแน่วแน่ น้ำหนักเราจะลดลงตามเป้าหมายอย่างแน่นอน
ยังไม่สายถ้าคุณจะเริ่มปฏิวัติตัวเองเสียตั้งแต่วันนี้ แล้วจะรู้ว่าการโบกมือบ๊ายบายไขมันนั้นดีต่อสุขภาพเพียงใด
จาก คอลัมน์เรื่องพิเศษ นิตยสารชีวจิต ฉบับ 390
บทความน่าสนใจอื่นๆ
8 วิธีลดอ้วนช่วย หุ่นดี ฟิต เฟิร์ม ตลอดไป ตอนที่ 1