วิธีเลือกซื้อใบกะเพรา

วิธีเลือกซื้อใบกะเพรา ให้เหมาะกับการปรุงอาหาร เคล็ดลับที่คุณควรรู้! | A Cuisine

เพร

Holy Basil

วิธีเลือกซื้อใบกะเพรา ให้เหมาะกับการปรุงอาหาร วันนี้ A Cuisine มีเคล็ดลับก้นครัว พร้อมเกล็ดความรู้ที่คนรักการทำอาหารไม่ควรพลาด! เอาล่ะมาดูกันเลยดีกว่า!

 

ก่อนอื่นมารู้จักกับกะเพราให้มากขึ้นกันเสียก่อน!

กะเพรา (holy basil) มีอีกหลายชื่อเรียกในแต่ละท้องถิ่นแตกต่างกันไป อย่าง กอมก้อ กอมก้อขาว กอมก้อดำ กะเพราขน กะเพราะดำ ฯลฯ กะเพรา เป็นทั้งอาหารและยาชั้นเลิศ ที่ใช้ทางการแพทย์มายาวนานกว่า 5,000 ปี ได้รับการยกย่องให้เป็น “ราชินีแห่งสมุนไพร”

 

วิธีการเลือกซื้อใบกะเพรา ให้ถูกใจ

กะเพรา ในบ้านเรามีอยู่หลายชนิด แต่ที่มักพบมากในตลาด และนิยมใช้ปรุงอาหารในปัจจุบันนั้นมีอยู่ 2 ชนิด แล้วจะมี วิธีเลือกซื้อใบกะเพรา อย่างไร? มีดังนี้

กะเพราประเภทที่ 1 กะเพราขาว

“กะเพราขาว” ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ได้สีขาว แต่ใบมันสีเขียวทั้งหมด ใบจะเหมือนกะเพราปกติ มีขนาดใบใหญ่บ้าง เล็กบ้าง (หากเป็นชนิดใบใหญ่แต่กลิ่นไม่ค่อยหอม และจะออกแนวเหม็นเขียวด้วยซ้ำ) นิยมใช้ชนิดใบไม่ใหญ่ ส่วนการปรุงจะใช้ผัดกะเพรา ถ้าผัดด้วยกะเพราแดงล้วนๆ จะคล้ำดำอย่างเดียวไม่น่ารับประทาน

กะเพราประเภทที่ 2 กะเพราแดง

“กะเพราแดง” ใบจะมีลักษณะสีคล้ำๆ ออกม่วงๆ มี ใบ กิ่ง ก้าน ลำต้น จะมีสีม่วง มีรสชาติเผ็ดร้อนแรงกว่ากะเพราขาว คนโบราณนิยมใช้ กะเพราแดง ในการปรุงอาหารประเภทต้มยำ แกงป่า ต้มโคล้ง ผัดเผ็ด เพื่อดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ที่กลิ่นแรงได้ดี คนเฒ่าคนแก่บางคนเอาไปทำยา สมุนไพรด้วยครับ

ดังนั้นจะซื้อกะเพราคราวต่อไป ก็เลือกซื้อใช้ให้เหมาะกับเมนูและความชอบ รับรองจะไม่ผิดหวังครับ สำหรับกะเพราแดง บางพื้นที่อาจหาซื้อได้ยาก เป็นชนิดที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ หากจะนำมาเพาะปลูกเองไว้หลังบ้านก็ง่ายเช่นกันครับ

กะเพราประเภทที่ 2 กะเพราบ้าน

กะเพราบ้าน ลักษณะคล้ายกับกะเพราขาว ใบสีเขียววย แต่แตกต่างกันที่ใบจะเล็ก ข้อดีของกะเพรานี้เหมาะกับการผัดกะเพรา เพราะให้กลิ่นหอมกว่า กะเพราขาวหรือกะเพราใบใหญ่ และกลิ่นจะไม่ฉุนเท่ากับกะเพราแดง เหมาะสำหรับ ผัดกะเพรา (สำหรับคนชอบรสเผ็ดร้อนก็เลือกกะเพราแดงได้) เวลาผัดจะให้สีเขียวสวยไม่มีกลิ่นเหม็นเขียวเหมือนกะเพรา ขาวใบใหญ่จ้า

 

สรรพคุณทางยาโบราณ

  • ใบ บำรุงธาตุไฟธาตุ ขับลมแก้ปวดท้องอุจจาระ แก้ลมตานซาง แก้จุกเสียด แก้คลื่นเหียนอาเจียน แก้โรคบิด และขับลม
  • เมล็ด เมื่อนำไปแช่น้ำเมล็ดจะพองตัวเป็นเมือกขาว ใช้พอกบริเวณตา เมื่อตามีผง หรือฝุ่นละอองเข้า ผงหรือฝุ่นละอองนั้นก็จะออกมา ซึ่งจะไม่ทำให้ตาเรานั้นช้ำอีกด้วย
  • ราก ใช้รากที่แห้งแล้ว ชงหรือต้มกับน้ำร้อนดื่ม แก้โรคธาตุพิการ
  • ต้น น้ำสกัดทั้งต้นมีฤทธิ์ลดการบีบตัวของลำไส้ สามารถรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ในใบมีฤทธิ์ขับน้ำดี ช่วยย่อยไขมันและลดอาการจุกอก
  • ใบและกิ่งสด เมื่อนำมาสกัดน้ำมันหอมระเหยโดยการต้มกลั่น (hydrodistillation) ได้น้ำมันหอมระเหยร้อยละ 0.08-0.10 ซึ่งมีราคา 10,000 บาทต่อกิโลกรัม

 

สรรพคุณทางยาสมุนไพร

1. ช่วยลดความวิตกกังวล ความเครียด และอาการซึมเศร้าได้ มีการศึกษาในหนูทดลอง พบว่า กะเพรามีฤทธิ์ช่วยให้นอนหลับ และยังมีงานวิจัยในคนที่เป็นโรควิตกกังวล ให้กินสารสกัดกะเพรา 500 มก. วันละ 2 เวลา หลังอาหารเช้าเย็น ติดต่อกันเป็นเวลา 60 วัน พบว่าช่วยลดความวิตกกังวล ความเครียด และอาการซึมเศร้าได้

2. ช่วยป้องกันการขุ่นของแก้วตา ฟื้นฟูจอประสาทตาและการมองเห็น มีการศึกษาในหนูทดลอง ที่ตาเสื่อมจากเบาหวาน หลังได้รับวิตามินอี และสารสกัดกะเพราแดง เป็นเวลา 16 สัปดาห์ พบว่าการบวมของจอประสาทตา ภาวะเลือดออกที่จอประสาทตา รวมถึงไขมันที่รั่วออกจากเส้นเลือดในจอประสาทตาได้หายไปหมด มีการฟื้นคืนกลับของจอประสาทตาและมีการมองเห็นที่ดีขึ้น

3. ลดอาการท้องอืดเฟ้อ ขับลม ปวดท้อง ใช้ใบสด 1 กำมือ (น้ำหนักสดประมาณ 25 กรัม หรือใบแห้ง 4 กรัม ต้มให้เดือด เอาแต่น้ำดื่ม หรือจะใช้ใบกะเพราะแห้ง ชงกับน้ำดื่มเป็นยาขับลม ถ้าป่นเป็นผงให้ชงกับน้ำรับประทาน ในเด็กอ่อนใช้ใบสด ใส่เกลือเล็กน้อยบดให้ละเอียดผสมน้ำผึ้งหยอดให้เด็กอ่อนเพิ่งคลอด 2-3 หยด เป็นเวลา 2-3 วัน จะช่วยขับลมและถ่ายขี้เทา

4. แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน (เกิดจากธาตุไม่ปกติ) ใช้ใบและยอดสด 1 กำมือ (ประมาณ 25 กรัม) ต้มเอาน้ำดื่ม

5. แก้อาการปวดท้องในเด็กทารก ใช้ใบสดตำให้ละเอียด คั้นเอาแต่น้ำนำมาผสมกับน้ำยามหาหิงคุ์ แล้วใช้ทาบริเวณ รอบๆ สะดือ

6. เพิ่มน้ำนมในสตรีหลังคลอด ใช้ใบกะเพราสด 1 กำมือ แกงเลียงรับประทานบ่อยๆ หลังคลอดใหม่ๆ

7. รักษากลากเกลื้อน ใช้ใบสด 15-20 ใบ ตำหรือขยี้ให้น้ำออกมา ใช้ทาถูตรงบริเวณที่เป็นกลาก ทาวันละ 2-3 ครั้ง จนกว่าจะหาย

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.