แบล็กเบอร์รี่
แบล็คเบอร์รี่ เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ที่นิยมนำมาทำเป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการบ่มไวน์ ด้วยลักษณะเนื้อของ “แบล็คเบอร์รี่” นั้นไม่ได้มีกลิ่นหอมและรสหวานฉ่ำ ที่จะเหมาะมาทำอาหารหรือขนมหวานที่หลายๆคนชื่นชอบ แต่…กลับเป็นผลไม้ที่มีคุณประโยชน์มากมายใกล้เคียงกับ สมุนไพร เลยก็ว่าได้ จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลยค่ะ…
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ แบล็กเบอร์รี่ Blackberry กันก่อน…
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Rubus fruticosus
อยู่ในวงค์ : Rosaceae
แบล็กเบอร์รี (Black-Berry) อยู่ในตระกูลเบอร์รี อยู่สกุลเดียวกับราสเบอร์รี เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก แตกกิ่งก้านเลื้อยได้ ใบมีขนาดใหญ่ ขอบใบมีรอยฟันหยักเล็กๆ มีก้านใบยาวมีหนามปกคลุม มีใบย่อย 3 ใบบนก้านเดียวกัน ใบสากมือมีขนปกคลุม มีสีเขียว กลีบดอกมีสีขาว มีเกสรสีเหลือง มีกลีบเลี้ยงสีเขียว มีก้านช่อดอกยาว ผลเป็นผลเดี่ยว อยู่เป็นพวง มีลักษณะรูปกรวย ผิวเปลือกมีปุ่มกลมเล็กๆอยู่บนผลแน่น มีขนเล็กๆบางๆอยู่ทั่วผล ผลอ่อนสีเขียว ผลแก่เปลี่ยนเป็นสีแดง ผลสุกจะมีสีม่วงเข้มหรือสีดำ มีเนื้อสีดำอมแดง เนื้อนุ่มฉ่ำน้ำ มีรสชาติหวานหรือเปรี้ยว ตามสายพันธุ์ มีกลิ่นหอม ใช้นำมาเป็นผลไม้รับประทาน ใช้ทำเป็นเครื่องดื่มต่างๆได้ มีปลูกในภาคเหนือในประเทศไทย มีปลูกหลายสายพันธุ์
ความแตกต่างระหว่าง แบล็คเบอร์รี่กับบลูเบอร์รี่
บลูเบอร์รี่จะมีลักษณะผล เป็นเม็ดเดี่ยว ในขณะที่แบล็คเบอร์รี่จะเป็นผลกลุ่ม เป็นพวงคล้ายองุ่น และทั้งสองก็อยู่ในตระกูลเบอร์รี่เหมือนกัน มีสารอาหารใกล้เคียงกันอีกด้วย แต่ความแตกต่างอีกอย่างหนึ่งคือ บางสายพันธุ์มีรสชาติฝาดกว่าจากสารที่มีชื่อว่าแทนนิน (Tannins) จึงมักนิยมนำมาบ่มไวน์ เพื่อให้รสชาติดี
ประโยชน์ของ แบล็กเบอร์รี่
ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการแห่งมหาวิทยาลัย แอพาเล-เชี่ยน สเตต สหรัฐอเมริกาบอกว่าผู้ที่ออกกำลังกายท่ามกลางแสงแดด หรือท่ามกลางอากาศร้อนจัด เช่น โยคะร้อน ควรกินผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ที่อุดมไปด้วย สารต้านอนุมูลอิสระ เพราะแสงแดด หรืออากาศร้อนจัดสามารถกระตุ้นให้ร่างกายผลิตอนุมูลอิสระออกมา ซึ่งเป็นตัวการของการทำให้เซลล์เสื่อมสภาพและผิวไม่กระชับ
ผลไม้ที่มีสีม่วงเข้มอย่างแบล็กเบอร์รี่ จะมีส่วนประกอบของวิตามินซี สารฟลาโวนอยด์ที่ชื่อ แอนโธไซยานิดินส์ (Anthocyanidins) และสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถเสริมสร้างและฟื้นฟูคอลลาเจนได้ มีผลทำให้ผิวหนังของเราไม่เหี่ยวแห้งเร็วก่อนไวอันควร แถมยังช่วยลดอัตรากาเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ และเส้นเลือดอุดตันในสมองอีกด้วย อาหารที่อุดมด้วย ไบโอฟลาโวนอยด์ ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง ซึ่งสารไบโอฟลาโวนอยด์พบมากในเบอร์รี่สีแดงและสีม่วงเช่นราสเบอร์รี่ และแบล็กเบอร์รี่
นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าสารตัวนี้ช่วยลบล้างสารที่ก่อ มะเร็ง และสาร Anthocyanin ในแบล็กเบอร์รี่และราสเบอร์รี่ยังออกฤทธิ์ทางขยายเส้นเลือด ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ และอัมพาตด้วย และมีประโยชน์อื่นๆอีกมากมาย ดังนี้…
1.มีไขมันและแคลอรี่ต่ำ และยังเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยเส้นใยอาหารที่ช่วยในการขับถ่าย
2.มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย และช่วยป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ
3.ช่วยต่อต้านมะเร็ง เพราะอุดมไปด้วยกรดเอลลาจิก (Ellagic acid) ซึ่งในทางการแพทย์ได้รับการยอมรับว่ามันมีฤทธิ์แรงที่สุดในการช่วยป้องกันมะเร็ง โดยพบว่ากรดชนิดนี้สามารถช่วยจับสารพิษที่เป็นสารก่อมะเร็งไม่ให้จับกับดีเอ็นเอ จึงช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้ และยังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งไม่ให้ลุกลาม ทำให้เซลล์มะเร็งเกิดภาวะตายตามธรรมชาติ โดยไม่ทำลายเซลล์ปกติ เหมือนการใช้ยาเคมีบำบัด
4.มีส่วนช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์หรือความจำเสื่อม
5.เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีสูง ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย และยังมีวิตามินเอ วิตามินอี ที่ช่วยในการชะลอการเกิดริ้วรอย บำรุงผิวพรรณ และช่วยสมานผิวหรือแผลต่าง ๆ ให้หายเร็วขึ้น
6.มีแร่ธาตุสำคัญอย่างแมงกานีส โพแทสเซียม แมกนีเซียม ทองแดง และธาตุเหล็ก ซึ่งช่วยควบคุมอัตราการเต้นหัวใจและช่วยควบคุมความดันโลหิต และช่วยในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง
7.อุดมไปด้วยวิตามินบีรวม วิตามินเค และวิตามินอื่น ๆ ซึ่งมีส่วนช่วยให้ร่างกายเผลาผลาญคาร์โบไฮเดรต โปรตีนและไขมัน
8.มีส่วนช่วยในการลดความอ้วน เนื่องจากมีน้ำตาลต่ำ จะช่วยควบคุมน้ำหนักตัวได้
สารสีแดงในราสเบอร์รี่มีคุณสมบัติในการช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต
9.มีสารอาหารที่เอื้อต่อการมีบุตรทั้งเพศชายและเพศหญิง ช่วยลดความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสเปิร์มได้ถึง 20% (สาเหตุอาจมาจากภาวะความเครียด) ซึ่งมากกว่าผู้ชายที่ไม่ได้บริโภคผลไม้ราสเบอร์รี่ ช่วยรักษาสมดุลของฮอร์โมนเพศได้เป็นอย่างดี ช่วยลดโอกาสการแท้งบุตรในเพศหญิง เพราะราสเบอร์รี่มีโฟเลต ที่เป็นตัวช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับตัวอ่อนระหว่างการตั้งครรภ์
10.สรรพคุณของใบสามารถนำมาใช้ทำเป็นยาได้
11.ผลสดใช้รับประทานเป็นผลไม้ หรือนำไปประกอบอาหารได้ทั้งคาวและหวาน หรือทำไวน์
12.สามารถนำมาแปรรูปทำเป็น น้ำแบล็คเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ปั่น เค้กแบล็คเบอร์รี่ แยมแบล็คเบอร์รี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ใช้แต่งกลิ่นสีในขนมหวานอย่างหลากหลาย ฯลฯ