หนึ่งจังหวัดทางภาคเหนือที่นิยมไปเที่ยวกันมากคงหนีไม่พ้นจังหวัดน่านที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยงเชิงวัฒนธรรม ตำนานแห่งขุนเขา และบรรยกาศที่สุดแสนโรแมนติก ชื่นใจไทยแลนด์วันนี้พาทุกท่านไปเยี่ยม ต.บ้านน้ำเกี๋ยน อ.ภูเพียง ชุมชนที่เต็มไปด้วยสวนสมุนไพร และผลิตภัณฑ์ดีๆ จากสมุนไพร อีกทั้งยังมีอาหารท้องถิ่นให้ได้ลิ้มลอง เอาเป็นว่าชุมชนบ้านน้ำเกี๋ยนจะต้องถูกใจคนรักสุขภาพ และมีเรื่องราวดีๆ ให้ได้ชื่นใจกันอย่างแน่นอนค่ะ
พิกัดของสถานที่ชื่นใจวันนี้การเดินทางไม่ยากเลยค่ะ จากตัวเมืองจังหวัดน่านข้ามสะพานพัฒนาภาคเหนือไปทางถนนสายน่าน-แม่จริม ประมาณ 2.5 กิโลเมตรก็จะถึงวัดพระธาตุแช่แห้ง จากนั้นเลี้ยวขวาไปตามถนนสายหนองเต่า-บ้านก๊อต ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ก็จะเริ่มเข้าสู่ตำบลน้ำเกี๋ยนแล้ว
เมื่อเราเดินทางเข้ามาถึงบ้านน้ำเกี๋ยนแล้ว รอบตัวเราจะเต็มไปด้วยสวนสมุนไพร และยังมีขัวแต๊ะ(สะพานไม้ไผ่) ซึ่งเป็นจุดเป็นชมวิวแบบ 360 องศา ในการชมสวนสมุนไพรอีกด้วย
กลุ่มชาวบ้านที่นีจะมารวมตัวกันสะสมต้นกล้า และแจกไปให้สมาชิกในชุมชนปลูกภายในบ้าน เมื่อสมุนไพรใช้ได้แล้วชาวบ้านก็จะเก็บมาขายให้กับวิสาหกิจชุมชนชีววิถีเพื่อป้อนเป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์ดีๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ช็อปปิ้งกัน
อีกหนึ่งสมุนไพรที่คนเมืองน่านรู้จักกันเป็นอย่างดีคือต้นหมี่ ซึ่งถือว่าเป็นสมุนไพรที่นำมาใช้ประโยชน์กันมายาวนาน ต้นหมี่เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีความสูง 5-15 เมตร ชอบดินร่วนปนทราย มักจะขึ้นตามไร่ นา ป่า โคก มีมากในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคอิสานตอนบน ซึ่งสรรพคุณทางยาก็มีมากมายตั้งแต่ราก ไปจนถึงยอดเลยค่ะ
เมื่อเราลองเก็บใบหมี่มาขยี้ดูจะเห็นได้ว่ามีเมือกลื่นๆ ออกมาและมีกลิ่นหอมคนโบราณมักจะขยี้ผสมกับน้ำซาวข้าวแล้วนำมาสระผม เนื่องจากใบหมี่มีสรรพคุณทำให้ผมนุ่ม ลดการร่วงของเส้นผม ชาวบ้านจึงนำภูมิปัญญานี้มาแปรรูปทำเป็นยาสระผมซะเลย ได้ทั้งความรู้และแนวคิดจากภูมิปัญญาชาวบ้านในคราวเดียวกัน
อีกหนึ่งสมุนไพรที่ชาวบ้านนิยมปลูกกันแทบจะทุกบ้านคือต้นเชียงดา โดยเฉพาะที่บ้านน้ำเกี๋ยนจะนำผักเชียงดามาลวกจิ้มกับน้ำพริก ซึ่งเค้าว่ากันว่าอร่อยมากๆ เลยค่ะ และด้วยสรรพคุณของผักเชียงดาที่ช่วยบรรเทาอาการแพ้ แก้ไข้ ส่วนที่เด่นสุดๆ ก็คือเรื่องของการลดน้ำตาลในเลือด และโรคเบาหวาน จนทำให้ใบเชียงดาได้ฉายาว่าเป็นผู้ฆ่าน้ำตาลในเลือดเลยล่ะค่ะ
ไหนๆ ก็มาถึงถิ่นสมุนไพรแล้ว เราก็ไม่ควรพลาดในการปลูก ขุด กลบ และเก็บสมุนไพรกันด้วยนะคะ เพราะถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสนุกๆ ของนักท่องเที่ยวเลยค่ะ
สถานที่ต่อไปที่เราจะไปถือว่าเป็นสถานทีผลิตสมุนไพร นั่นก็คือกลุ่ม วิสาหกิจชุมชนชีววิถี ซึ่งก่อนที่เราจะเข้าไปดูขั้นตอนของการผลิตก็ต้องทำการเปลี่ยนชุด ล้างมือทำความสะอาดกันซักหน่อย เพราะจุดนี้เป็นเขตที่จำเป็นต้องรักษาความสะอาดค่ะ
ขั้นตอนการผลิตยาสระผมจากใบหมี่ก็ไม่ยุ่งยากวุ่นวายอย่างที่คิด ก่อนอื่นเราต้องนำใบหมี่ที่เก็บมาเข้าสู่การขัดสีฉวีวรรณ ชะล้างทำความสะอาด โดยเราจะล้างถึง 3 น้ำ ก่อนที่จะนำไปเข้าเครื่องหั่นซอยให้เท่ากัน ใบหมี่ที่ซอยเสร็จเรียบร้อยแล้วจะถูกนำมาต้มให้เดือดเป็นระยะเวลา 2 ชั่วโมง ซึ่งก็จะผ่านกระบวนการกลั่นจนได้น้ำจากใบหมี่บริสุทธิ์ และกลายเป็นส่วนผสมสำคัญของแชมพูใบหมี่นั่นเอง
หลังจากนั้นน้ำจากใบหมี่ที่ถูกกลั่นบริสุทธิ์เรียบร้อยก็จะถูกผสมกับส่วนผสมต่างๆ ในการทำแชมพู ทิ้งไว้หนึ่งคืน ก็จะสามารถบรรจุใส่ขวดได้เลย
นักท่องเที่ยวสามารถมาเลือกช็อปปิ้งผลิตภัณฑ์กันได้ที่ศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรบ้านน้ำเกี๋ยน ที่นี่จะเต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้า OTOP อย่างแชมพูใบหมี่-อัญชัน ครีมนวดผม และครีมทาผิวน้ำนมข้าวซึ่งมีกลิ่นหอมถูกใจนักท่องเที่ยวอย่างแน่นอน
นักท่องเที่ยวสามารถมาเลือกช็อปปิ้งผลิตภัณฑ์กันได้ที่ศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรบ้านน้ำเกี๋ยน ที่นี่จะเต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้า OTOP อย่างแชมพูใบหมี่-อัญชัน ครีมนวดผม และครีมทาผิวน้ำนมข้าวซึ่งมีกลิ่นหอมถูกใจนักท่องเที่ยวอย่างแน่นอน
ต้องบอกว่าบ้านน้ำเกี๋ยนไม่ได้มีดีแค่สมุนไพร และผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรเท่านั้น เพราะยังมีซุปเปอร์มาเก็ตน้อยๆ ที่ขอตั้งชื่อว่าลุงหย่วนมาร์เก็ต ที่นี่เป็นศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง คือไม่ได้ปลูกแค่สมุนไพรอย่างเดียวยังมีผลไม้ให้ได้ลองทานกันสดๆ จากต้นอีกด้วย
ที่ลุงหย่วนมาร์เก็ตแห่งนี้ยังมีแผนกโปรตีนอย่างไก่ จิ้งหรีด และกบพันธุ์พื้นเมืองที่ตัวใหญ่อวบอั๋น ซึ่งลุงหย่วนก็จะขายตั้งแต่กบตัวเล็กๆ ไปจนถึงตัวใหญ่ๆ เลยค่ะ
หลังจากที่ทั้งช็อป ทั้งเที่ยวกันมาทั้งวันแล้ว บ้านน้ำเกี๋ยนยังมีโฮมสเตย์ไว้บริการ ณ โฮมเสตย์บ้านจันสมแห่งนี้เราจะได้เข้าสวนไปเก็บผักหลังบ้านสำหรับมื้อเย็น ขอบอกว่ามีผักและสมุนไพรหลากชนิดมาก ป้าจันสมจะคอยแนะนำให้เรารู้จักสมุนไพรแถมยังเด็ดให้ชิมอีกด้วย ซึ่งสมุนไพรแต่ละอย่างก็รสชาติไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ค่ะ
ถึงเวลาอาหารเย็นที่ป้าจันสมลงมือเข้าครัวโชว์ปลายจวักของสาวน้ำเกี๋ยนให้เราได้ชิมกินแบบอิ่มท้อง มื้อเย็นของวันนี้เต็มไปด้วยพืชผัก สมุนไพรจากสวนหลังโฮมสเตย์ที่ถูกปรุงเป็นอาหารพื้นเมือง ทั้งอิ่ม ทั้งอร่อย แถมยังได้สุขภาพที่ดีไปพร้อมๆ กัน
เนื่องจากป้าจันสมไม่ถนัดในเรื่องของการจัดแต่งจาน และยังอยากต่อยอดเมนูจากสมุนไพรท้องถิ่น จากเมนูสมุนไพรเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือถูกใจ และถูกปากคนทั่วทุกภาค ชื่นใจไทยแลนด์จึงร่วมมือกับบรรณาธิการอาหารนิตยสาร Health & Cuisine และ Food stylist นิตยสาร Health & Cuisine ในการแปลงโฉมอาหารให้ไฉไลกว่าเดิม โดยได้ 6 เมนูน่าลองอย่างจิ้งหรีดคั่วเกลือ ยำกบกับใบเชียงดาทอดกรอบ เห็ดนางฟ้าผัดน้ำมันหอย ต้มไก่ใส่มะแขว่น รวมมิตรบ้านน้ำเกี๋ยน และปิดท้ายด้วยเมนูเครื่องดื่มสุดสดชื่น อัญชันฝักข้าวอิตาเลี่ยนโซดา ที่แปลงโฉมออกมาแล้วน่ารับประทานมากๆ คอนเฟิร์มว่ายังไงก็ถูกใจนักท่องเที่ยวแน่นอน
ต้องบอกว่าที่บ้านน้ำเกี๋ยนไม่ได้มีดีเฉพาะเรื่องของสมุนไพรอย่างเดียว การที่ได้มาเที่ยวบ้านน้ำเกี๋ยนในครั้งนี้ทำให้ได้เห็นถึงความสำคัญและความผูกพันธ์ระหว่างสมุนไพรกับคนในชุมชน และยังได้เห็นความตั้งใจที่จะรักษาและเพิ่มมูลค่าให้กับของดีในชุมชน อีกทั้งคนในชุมชนแต่ละคนก็ยังใจดี น่ารัก อบอุ่น ซึ่งชื่นใจไทยแลนด์รับประกันได้เลยว่านอกจากจะได้สุขภาพกายดี ชิมอาหารอร่อยๆ แล้ว สุขภาพใจนั้นก็ต้องดีขึ้นด้วยแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จากอมรินทร์ทีวี ร่วมกับโครงการพลังประชารัฐและไทยเบฟเวอเรจ
ขอบคุณภาพสวยๆ จากรายการชื่นใจไทยแลนด์ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 21:30 น. ช่อง 34 อมรินทร์ทีวี
ติดต่อเยี่ยมชมชุมชน
วิสาหกิจชุมชน ชีววิถี ต.น้ำเกี๋ยน โทร.089-755-7281
สวนเศรษฐกิจพอเพียง ต.น้ำเกี๋ยน โทร.090-671-0980
บ้านจันสมโฮมสเตย์ ต.น้ำเกี๋ยน โทร.089-266-7052