ใช้ชีวิตให้เป็น “ออร์แกนิค” @ Patom Organic Living
หากเอ่ยถึงสามพราน ริเวอร์ไซด์ หรือสวนสามพราน คงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเป็นรีสอร์ทที่อยู่คู่จังหวัดนครปฐมมานานกว่า 50 ปี วันนี้ คุณฟี่ อนัฆ นวราช ทายาทรุ่นที่ 3 จะมาแนะนำคาเฟ่แห่งใหม่ ที่ต่อยอดจากรีสอร์ทให้เราได้รู้จัก นั่นคือ Patom Organic Living (ปฐม ออร์แกนิค ลีฟวิ่ง) คาเฟ่ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้พักผ่อนหย่อนใจ พร้อมเลือกซื้อสินค้าออร์แกนิค ที่ส่งตรงจากเกษตรกรถึงมือคุณ
จากรีสอร์ทชานเมือง ขยายมาเป็นคาเฟ่ใจกลางเมือง ได้อย่างไร
จุดเริ่มต้นมาจากพี่ชายของผม (อรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการ สามพราน ริเวอร์ไซด์) เป็นคนรักสุขภาพ จึงสรรหาวัตถุดิบออร์แกนิคเข้ามาใช้ในโรงแรม ร้านอาหารและนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น แชมพู สบู่ และครีมอาบน้ำ
จากนั้นเราเริ่มทำฟาร์มออร์แกนิคเอง และรวมกลุ่มเกษตรกร ตั้งตลาดสุขใจ ให้เกษตรกรมาขายผลผลิตอินทรีย์ให้นักท่องเที่ยวภายในสามพราน ริเวอร์ไซต์ พร้อมก่อตั้งมูลนิธิสังคมสุขใจขึ้น โดยได้รับทุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) จากนั้นนำเงินจากมูลนิธิมาตั้ง โครงการสามพรานโมเดล เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดนครปฐมและใกล้เคียง ปลูกผัก ผลไม้ออร์แกนิค
หน้าที่หลักของมูลนิธิคือ กระจายสินค้าของเกษตรกร พัฒนาเรื่องระบบต่างๆ และช่วยหาช่องทางการตลาด ซึ่งมีทั้งส่งให้สามพราน ริเวอร์ไซต์เอง โรงแรม และร้านอาหารต่างๆ
หลังดำเนินการมา 7 ปี ผมเริ่มเห็นช่องทางการตลาดว่า เราน่าจะต่อยอดเป็นธุรกิจในกรุงเทพฯ ได้ เนื่องจากเรามีวัตถุดิบคือ ผัก ผลไม้ ผลิตภัณฑ์ Body Care ที่เป็นออร์แกนิคอยู่แล้ว จึงคิดว่าควรจะสร้างร้านๆ หนึ่ง ให้เป็นจุดกระจายสินค้าสู่คนในเมือง จึงเกิดเป็น Patom organic living โดย ปฐม หมายถึง สินค้าเรามาจากจุดเริ่มต้น คือเกษตรกรจริงๆ ส่วน organic living หมายถึง ทุกๆ อย่างรอบตัวเราเต็มไปด้วยของออร์แกนิค
Patom organic living จำหน่ายสินค้าอะไรบ้าง
เรามีเครื่องดื่ม พวกชา กาแฟ โดยเมล็ดกาแฟมาจากไร่กาแฟออร์แกนิคที่เชียงดาว ผมไปลงพื้นที่จริงๆ ว่าเขาปลูกอย่างไร ไปมา 2 ครั้ง ก็มั่นใจได้ว่าเขาปลูกแบบออร์แกนิคจริงๆ แล้วรสชาติดี ดื่มง่าย ไม่ขมจนเกินไปและไม่เปรี้ยว จึงนำมาจำหน่ายในร้าน เครื่องดื่มอีกชนิดที่เราทำเองคือ น้ำผลไม้ออร์แกนิคคั้นสด เช่น น้ำฝรั่ง มะเฟือง ชมพู่ ซึ่งเป็นผลผลิตจากเกษตรกรในเครือข่าย
ต่อมาเป็นอาหาร เราจำหน่ายในรูปแบบข้าวกล่อง ซึ่งใช้วัตถุดิบจากสวนสามพรานทั้งหมด แล้วนำมาปรุงที่นี่ โดยข้าวกล่องเป็นโครงการที่เราทำร่วมกับ สสส. เพื่อสนับสนุนให้ผู้บริโภคได้กินของดี กินผัก ผลไม้วันละ 400-500 กรัม ฉะนั้นทุกกล่อง จะมีข้อมูลระบุว่ากล่องนี้มีผักกี่กรัม ผลไม้กี่กรัม เพื่อสร้างการรับรู้ว่า วันนี้คุณกินผักผลไม้เพียงพอหรือยัง โดยเมนูจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เราจะแจ้งเมนูทุกวันจันทร์ ผ่านทางแฟนเพจ ส่วนใหญ่เป็นอาหารง่ายๆ ใช้วัตถุดิบดี ไม่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ ไม่ใส่ผงชูรส เช่น ข้าวกับแจ่วเห็ดกับผักสดออร์แกนิค แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย-ไข่เค็ม ขนมจีนน้ำยาปู-ไข่ต้ม
ถัดมาเป็นขนมไทย เช่น ตะโก้ ขนมสอดไส้ ขนมกล้วย ฯลฯ ส่งตรงมาจากสวนสามพราน อีกส่วนเป็นผลิตภัณฑ์ Body care ที่เราผลิตเอง เช่น สบู่ โลชั่น แชมพู เรามีโรงงานเล็กๆ ที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย
ทราบว่านอกจากจำหน่ายสินค้าออร์แกนิคแล้ว ยังมีกิจกรรมเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ด้วย
ทุกวันเสาร์ที่ 2 ของทุกเดือน เราจะพาเกษตรกรมาสอนเพาะเมล็ด ทำปุ๋ย เลี้ยงไส้เดือนดิน ลงแปลง และมีทีมงานจากสวนสามพรานมาสอนกิจกรรมวิถีไทย เช่น สานปลาตะเพียน วาดร่ม ในวันเดียวกันมี Farmer market เชิญเกษตรกรจากตลาดสุขใจ มาขายของให้คนในเมือง จุดสำคัญคือ ตั้งใจให้เกษตรกรมาขายของให้ผู้บริโภคด้วยตัวเอง
หรือใครสนใจอยากจัดกรุ๊ป มาเวิร์คชอปสิ่งที่ตัวเองสนใจ เช่น ทำสวนขวด ก็ติดต่อทางร้านมาได้เช่นกัน
ข้อโดดเด่นของร้านนี้คืออะไร
ความโปร่งใส ชัดเจนว่าผลิตภัณฑ์เรามีที่มาที่ไปและตรวจสอบได้ ในร้านเรามีแผนที่บอกเลยว่า ใครปลูกอะไรส่งให้เรา ฝรั่งมาจากไหน มะพร้าวมาจากใคร เข้ามาแล้วผู้บริโภคมั่นใจได้ว่า สินค้าที่เราขายมีมาตรฐานและมาจากเกษตรกรจริงๆ
ที่สำคัญร้านนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์เพียงเพื่อขายกาแฟ แต่จุดประสงค์จริงๆ คือให้ที่นี่เป็นจุดกระจายสินค้าดีๆ สู่มือผู้บริโภค พยายามทำให้คนรู้จักมูลนิธิสังคมสุขใจ และไม่ลืมสวนสามพราน
ทราบว่ารายได้ส่วนหนึ่งบริจาคให้มูลนิธิสังคมสุขใจด้วย
ใช่ครับ เรามอบรายได้ 3 เปอร์เซ็นต์จากยอดขายให้มูลนิธิ เพราะผมคิดว่าเมื่อเรามีกำไร เราควรส่งคืนเกษตรกรด้วย แต่ก็ไม่รู้จะมอบให้ใครดีเพราะเกษตรในเครือข่ายมี 100 กว่าราย จึงบริจาคมูลนิธิ ให้เขานำไปช่วยเหลือและสนับสนุนเกษตรกรต่อไป
เราดำเนินการมาทั้งหมดก็เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่เคยกำหนดราคาผลผลิตของตัวเองได้เลย จะถูกเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลาง เขาให้เท่าไร ก็ต้องรับเท่านั้น แถมยังต้องเสียค่ายาเ ค่าปุ๋ยอีก เราเลยตั้งมูลนิธินี้ขึ้นมา เป็นเหมือนพ่อค้าคนกลางที่ยุติธรรม เจรจาราคาที่เหมาะสม จากนั้นมูลนิธิก็ไปหาช่องทางจำหน่ายให้ เช่น ขายให้สวนสามพราน ให้ร้านอาหารหรือโรงแรมต่างๆ รวมถึง Patom Organic Living เองด้วย
ผลที่ตามมาคือเกษตรกรมีรายได้มากขึ้น คุณภาพชีวิตดีขึ้น ผู้บริโภคได้รับประทานอาหารที่มีคุณภาพและปลอดสารเคมี
คาดหวังให้ผู้ที่มาที่ร้านได้รับอะไรกลับไปบ้าง
ผมหวัง 2 ส่วน ส่วนแรก คือ คนเมือง ได้มีที่นั่งเล่นสบายๆ ร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้ ผ่อนคลายความเครียด ส่วนที่สองคือ ให้คนหันมาสนใจใช้ชีวิตแบบออร์แกนิคมากขึ้น เพื่อรักษาสุขภาพตนเอง มาที่นี่แล้วอาจจะอยากกินอาหารที่ดีขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องมาที่นี่ก็ได้ กินที่ไหนก็ได้ ทำเองที่บ้านก็ได้ พูดง่ายๆ คือ ให้เขารักสุขภาพมากขึ้น
ข้อมูลเพิ่มเติม
วัน-เวลาทำการ : อังคาร – อาทิตย์ เวลา 09.00 – 18.30 น.
ที่อยู่ 9/2 ซอยสุขุมวิท 49 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
เว็บไซต์: http://www.patom.com/
FB: https://www.facebook.com/patom.organics/
โทร: 0982597514
