ต้มข่าหัวปลี ที่แม้หัวปลีจะมีรสฝาดไปสักนิด แต่มีสรรพคุณหลากหลายทั้งช่วยบรรเทาโรคกระเพาะอาหาร ลำไส้ และลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย คุณหน่อยย้ำว่า ต้มข่าถ้วยนี้เมื่อปรุงแล้วควรได้รสเปรี้ยวมันเค็มพอดีกัน ก่อนเพิ่มรสกลมกล่อมด้วยการเติมกะทิสดหลังยกลงจากเตา
ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) เตรียม 15 นาที ปรุง 20 นาที
- หัวปลีขนาดกลาง 2 หัว
- หัวกะทิ ½ ถ้วย
- หางกะทิ 3 ถ้วย
- พริกขี้หนูบุบ 5 เม็ด
- น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
- ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดหั่นเป็นท่อน 1 ถ้วย
- ผักชีฝรั่งซอย ¼ ถ้วย
- เกลือเล็กน้อย
วิธีทำ
1. ลอกเปลือกหัวปลีส่วนที่เป็นสีม่วงออกจนเหลือแต่ด้านในที่มีสีขาวนวลแล้วหั่นเป็นท่อนหนาประมาณครึ่งนิ้ว แช่ไว้ในน้ำที่บีบมะนาวเล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้หัวปลีดำ
2. นำหางกะทิขึ้นตั้งไฟพอเดือดใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด เมื่อเดือดอีกครั้งจึงใส่หัวปลีเมื่อหัวปลีนิ่มได้ที่จึงปรุงรสด้วยเกลือและน้ำมะขาม
3. ชิมรส ปิดไฟ ยกลงจากเตา จากนั้นใส่หัวกะทิ คนให้เข้ากัน ตักใส่ชาม ปรุงรสด้วยพริกขี้หนู น้ำมะนาว โรยหน้าด้วยผักชีฝรั่ง
พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 492.40 กิโลแคลอรี
โปรตีน 11.55 กรัม ไขมัน 29.68 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 47.80 กรัม ไฟเบอร์ 19.80 กรัม
สูตร : พอทิพย์ เพชรโปรี เรื่อง : กรองกาญน์ ชัยยะปะปัง ภาพ : อัศวิน นรินท์ชัยรังษี สไตล์ : พิมฝัน ใจสงเคราะห์