ความพิเศษของต้มยำชามนี้คือ ความหอมจากเครื่องเทศสามชนิดซึ่งเป็นพระเอกของอาหารไทยอย่างรากผักชี พริกไทย และกระเทียม ที่นำมาห่อผ้าขาวบางต้มรวมไปกับเครื่องต้มยำใส่เห็ดเนื้อกรุบหลากชนิดให้ได้รสหวานเคล้าน้ำซุปกลิ่นหอมพิเศษของเครื่องเทศสมุนไพรใสแจ๋วซดได้อย่างคล่องคอ
ส่วนผสม
- เห็ดชนิดต่างๆ หั่นตามชอบ 500 กรัม
- รากผักชี 2 ราก
- พริกไทยดำ 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียม 4 – 5 กลีบ
- เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
- ข่าหั่นแว่น 1 ถ้วย
- ตะไคร้หั่นท่อน ½ ถ้วย
- หอมแขกผ่าครึ่ง 4 หัว
- ใบมะกรูดฉีก 6 – 7 ใบ
- ผักชีฝรั่งหั่นหยาบ 6 – 7 ใบ
- น้ำมะนาว 6 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปึก ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 5 ถ้วย
- พริกขี้หนูสวนทั้งก้านตามชอบ
วิธีทำ
1. ห่อรากผักชี พริกไทย และกระเทียมด้วยผ้าขาวบางผืนเล็ก มัดด้วยเส้นด้ายให้แน่นเตรียมไว้
2. ต้มน้ำจนเดือด ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดและหอมแขกลงไป ตามด้วยห่อผ้าในข้อ 1 ต้มต่ออีกประมาณ 5 นาที หรือจนเครื่องเทศโชยกลิ่นหอม จึงใส่เห็ดลงไป ต้มต่ออีก 1 นาที ปิดไฟ
3. เตรียมภาชนะที่จะใส่ต้มยำ ใส่น้ำมะนาวพริกขี้หนูบุบ เติมเกลือและน้ำตาล ชิมรสให้จัดสักหน่อยตักเฉพาะน้ำต้มยำและเห็ดที่ต้มไว้ลงในชาม โรยผักชีฝรั่ง เสิร์ฟร้อนๆ
Tips
– ไม่ควรต้มส่วนผสมนาน เพราะจะทำให้น้ำต้มยำมีสีเข้มและเห็ดนิ่มเกินไปรับประทานไม่อร่อย
– ใช้ไส้เกี๊ยวกรอบในมื้อเช้า 1 – 2 ช้อนโต๊ะมาเจือกับน้ำ ต้มเป็นน้ำซุปต้มยำได้
– ต้มยำหม้อนี้ประยุกต์ปรุงเป็นพาสต้าหรือบะหมี่ต้มยำได้ เพียงต้มเส้นพาสต้าหรือลวกเส้นบะหมี่ใส่ลงไปในส่วนผสมก็ได้อาหารมังสวิรัติจานเดียวที่ปรุงง่ายและอร่อยแล้ว
– หากใช้พริกข้หี นูสวนใหม่ๆ มาปรุงอาหารทั้งก้านจะได้ความหอมจากน้ำมันหอมระเหยที่อยู่ระหว่างขั้วของพริกและเม็ดพริกมากกว่าพริกขี้หนูที่ปลิดก้านออกหมด
พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 82.27 กิโลแคลอรี
โปรตีน 3.13 กรัม ไขมัน 0.45 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 17.02 กรัม ไฟเบอร์ 2.51 กรัม
เรื่องและสูตร : ดวงฤทธิ์ แคล้วปลอดทุกข์
ภาพ : พีระพัฒน์ พุ่มลำเจียก
