การดูคน

การดูงานที่กลายเป็น การดูคน เรื่องเล่าสุดซาบซึ้งโดย เกตุวดี Marumura

ที่ผ่านมาดิฉันมักนําเสนอแต่คนญี่ปุ่นที่ประสบความสําเร็จและมีชื่อเสียงตลอด เช่น เชฟร้านอาหารชื่อดัง เจ้าของบริษัทที่โด่งดังทั่วญี่ปุ่น แต่ใน Zen Marketing ฉบับนี้ ดิฉันขอนําเสนอสุภาพบุรุษธรรมดาๆ ท่านหนึ่ง
1
หากคุณผู้อ่านกูเกิลหาชื่อของเขา ก็คงไม่เจอเรื่องราวใด ๆ เกี่ยวกับเขา
2
ดิฉันได้พบสุภาพบุรุษแสนพิเศษท่านนี้ตอนพานิสิตปริญญาโทหลักสูตร MBA จุฬาฯไปดูงานที่บริษัท Nippon Steel & Sumitomo Metal ณ เมืองโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น คุณอิซามุ ทามุระ ทํางานที่นี่ เขายืนต้อนรับพวกเราตั้งแต่ตอนรถบัสจอดเทียบท่า แนะนําประวัติบริษัทให้กับพวกเราและพาพวกเรานั่งรถชมโรงงาน
3
ในคณะพวกเราไม่ได้มีแค่นักศึกษาไทย แต่มีนักศึกษาจากประเทศจีนด้วย ตอนพวกเรากําลังจะก้าวเข้าบริษัทคุณทามุระก็ชี้ให้ดูที่เสาธงด้านนอก มีธงไทยและธงจีนโบกสะบัดเคียงข้างกัน
4
เมื่อเข้ามาในห้องประชุมก็มีธงไทยและจีนธงเล็ก ๆ วางอยู่บนโต๊ะอย่างเรียบร้อย
5
คุณทามุระเป็นผู้ชายตัวเล็ก ๆ ผมขาวหมดทั้งศีรษะ ยิ้มตลอดเวลา ท่านเดินอย่างกระฉับกระเฉงไปที่หน้าห้องและแนะนําตัวเองว่า
6
“ผมชื่อทามุระครับ ยินดีที่ได้รู้จักทุกท่านนะครับ ปีนี้ผมอายุ 75 ปีพอดี หลังเกษียณผมรับหน้าที่ดูแลผู้ที่มาดูงานที่นี่มาตลอด จริง ๆ แล้ววันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ผมจะทํางานที่นี่ และกลุ่มของชาวจุฬาฯจะเป็นกลุ่มสุดท้ายในชีวิตการทํางานของผมครับ”
7
ฟังแล้วก็ตกใจ ขณะเดียวกันก็รู้สึกพิเศษเล็ก ๆ ในวันสุดท้ายของการทํางานของคุณปู่ท่านนี้ พวกเราได้เข้ามาสร้างความทรงจําอะไรบางอย่างให้ท่าน
8
หลังจากนั้นคุณทามุระก็บรรยายต่อเรื่อย ๆ โรงงานที่นี่มีขนาด 7 ล้านตารางเมตร ใหญ่ขนาดสนามเบสบอลโคชิเอ็น 11 สนามติดต่อกัน โรงงานที่เมืองนี้รับหล่อและแปรรูปเหล็ก
9
สารภาพตามตรง เด็กศิลป์อย่างดิฉันไม่คิดว่าการชมโรงงานเหล็กนั้นจะน่าสนุกสักเท่าไร แต่เพราะคุณทามุระ พวกเราทั้งคันรถถึงรู้สึกสนุกสนานและตื่นตาตื่นใจไปกับโรงงานเหล็กนี้
10
“ก่อนพวกเราจะขึ้นรถไปชมโรงงานกัน ผมมีสองเรื่องที่จะขอร้องทุกท่านนะครับ หนึ่ง โปรดใส่หมวกนิรภัย สอง โปรดสวมถุงมือ หากท่านไม่ได้ใส่หมวกหรือสวมถุงมือ หัวผมอาจหลุดได้นะครับ” คุณทามุระพูดอย่างเป็นกันเองพร้อมทําท่าเอามือมาปาดคอ อาจารย์ชาวญี่ปุ่นที่ไปด้วยกันก็แซวว่า พวกเราไม่ต้องทําตามสิ่งที่คุณปู่พูดก็ได้ เพราะยังไงวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายที่คุณลุงจะทํางานอยู่แล้ว
11
เมื่อขึ้นรถ คุณลุงก็ยืนตรงด้านหน้าคอยอธิบายสถานที่ต่าง ๆ รอบโรงงาน
12
“เห็นรถที่จอดอยู่ไหมครับ นั่นละ พวกเราเรียกกันว่ารถตอร์ปิโด เพราะทรงมันเหมือนลูกระเบิดเลยครับ รถตอร์ปิโดจะคอยขนเหล็กร้อน ๆ นั่นไง เห็นไฟลุกด้านบนของรถไหมครับ เขากําลังถ่ายเหล็กร้อน ๆ ลงรถพอดีเลย”
13
จากรถธรรมดา ๆ ก็กลายเป็นรถที่น่าตื่นตาตื่นใจไปทันที นอกจากเรื่องโรงงานแล้ว บางครั้งท่านก็เสริมเรื่องชีวิตตัวเองเข้าไปด้วย
14
“ผมมาทํางานที่เมืองนี้ตอนอายุ 29 ปีพอดี ผมพาภรรยาสุดสวยกับลูกสองคนมาด้วยตอนนั้น แถวนี้ยังไม่มีโรงงานอะไรเลยครับ ผมอยากเห็นตอนเขาเริ่มสร้างโรงงานกันเลยยอมไม่รับการโปรโมต แล้วย้ายมาอยู่ที่นี่นี่แหละ”
15
เมื่อรถใกล้จะวนกลับมาที่ออฟฟิศ คุณปู่กล่าวขอบคุณพวกเรา
16
“ผมมีโอกาสได้ดูแลกลุ่มที่ดูงานมากมายจนนับไม่ถ้วน และวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายของผม วันที่ผมจะได้ยืนอยู่ตรงนี้ ขอบคุณที่ทางอาจารย์เลือกมาดูงานบริษัทเรา ขอบคุณที่นิสิตตั้งใจดูงานเต็มที่ และขอบคุณที่มาดูงานที่นี่”
17
คุณปู่พูดขอบคุณทั้ง ๆ ที่พวกเราเป็นฝ่ายไปรบกวนแท้ ๆ ไหนคุณปู่จะต้องเตรียมหมวกนิรภัยและถุงมือ เตรียมสไลด์นําเสนอ เตรียมข้อมูลอัพเดตต่าง ๆ
18
แถมทุกสัปดาห์แกก็ต้องบรรยายเรื่องเดิม ๆ แบบนี้แท้ ๆ แต่คุณปู่ก็ยังกระฉับกระเฉงและยิ้มฟันขาวตลอดเวลาที่เราอยู่กับท่าน
คุณอิซามุ ทามุระ
คุณอิซามุ ทามุระ
เมื่อพวกเราถามว่า “ทําไมคุณปู่ถึงดูมีความสุขในการทํางานจัง” คุณปู่ยิ้มฟันขาว (อีกแล้ว) และตอบว่า

19
สิ่งที่ทําให้ผมกระตือรือร้นในการทํางานมี 3 ข้อครับ
20
1.การตั้งเป้าหมาย
21
ผมคิดว่า เราจะทําอะไรให้ดี ให้เต็มที่ได้อย่างไร เป้าหมายอาจเป็นเรื่องเล็กก็ได้ เรื่องใหญ่ก็ได้
22
2.การใส่ใจผู้อื่น
23
ผมคอยคิดเสมอว่า คนอื่นจะรู้สึกอย่างไร และพยายามทําให้พวกเขามีความสุข เห็นคนอื่นมีความสุข ผมก็มีความสุข
24
3.การรู้สึกขอบคุณอยู่เสมอ
25
สิ่งนี้เป็นสิ่งสําคัญ ไม่ว่าจะทํางานหรือติดต่อใคร ผมจะรู้สึกขอบคุณเสมอ
26
ข้อที่ 3 นี้พวกเราสัมผัสได้มากที่สุด
27
ดิฉันแอบได้ยินตอนคุณปู่ก้าวลงจากรถ แกหันไปบอกคนขับว่า
28
“ฟุซัง ขอบคุณที่ขับรถพาพวกเราดูงานเป็นอย่างดีเลยนะ”
29
คนขับรถนั้นเป็นคนขับที่ทางเราจ้างมา และพวกเราเกือบทั้งรถไม่รู้จักชื่อคนขับ แต่คุณปู่ก็ถามชื่อและจําชื่อเขาได้ แถมยังกล่าวคําขอบคุณ ดิฉันเชื่อว่าฟุซังคงยิ้มอย่างมีความสุขเลยทีเดียว
30
แม้แต่ตอนที่เราถามคุณปู่ว่าหลังเกษียณจะทําอะไร คุณปู่ตอบว่า “จริง ๆ บริษัทให้พนักงานเกษียณที่อายุ 60 ปี แต่ผมก็รู้สึกขอบคุณบริษัทที่ให้ผมอยู่ต่อมาอีกตั้ง 15 ปี ให้ได้เจอผู้คนต่าง ๆ ทั้งเด็กประถม ทั้งแขกต่างชาติ ทั้งคนจากเมืองต่าง ๆ หลังเกษียณผมคิดว่าจะไปเป็นอาสาสมัครดูแลผู้พิการครับ”
31
ดิฉันเชื่อว่ามีคนหลายคนรู้สึกว่า การที่เราทํางานให้บริษัท บริษัทเป็นหนี้บุญคุณเราเสียอีก แต่คุณปู่กลับมีแต่ความรู้สึกขอบคุณ
32
วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่คุณปู่ทํางาน พวกเราเป็นคณะทัวร์คณะสุดท้ายที่คุณปู่ดูแล ตอนแกพูดว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายนั้น ดิฉันเห็นหยาดน้ําตาซึมนิด ๆ ที่ขอบตาคุณปู่ เมื่อลงจากรถพวกเราจึงไปขอถ่ายรูปกับคุณปู่ทีละคน ๆ
33
ตอนคุณลุงยืนส่งพวกเราขึ้นรถบัสด้านล่าง ท่านเอามือสองมือมาโค้งบนศีรษะทําเป็นรูปหัวใจและทําให้พวกเราอมยิ้มกันทั้งคันรถ
34
นอกจากความรู้เกี่ยวกับการทําเหล็กแล้ว พวกเราชาว MBA จุฬาฯทุกคนได้เรียนรู้เรื่องคุณค่าของการทํางาน และได้เห็นคนที่ตั้งใจทํางาน ตั้งใจทําให้ผู้อื่นมีความสุข และทํางานอย่างมีความสุขจนวันสุดท้ายของการทํางาน
35
การดูงานไม่ใช่ดูแค่งานที่พนักงานบริษัทนั้นทํา แต่ได้ดูคนและได้ศึกษาจากคนด้วย
36
ที่มา : นิตยสาร Secret  ฉบับที่ 233
ชื่อคอลัมน์ : zen marketing
เรื่องและภาพ : เกตุวดี Marumura FB: เกตุวดี Marumura

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.