เจริญสติดีอย่างไร ทำไมเราต้องฝึกเจริญสติ
ทำไมเราต้องฝึกเจริญสติ การเจริญสติทำให้เรารู้สึกตัวมากขึ้น มีสติในการทำสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เรียนหนังสือ ทำงาน ขับรถ ฯลฯ ทำให้เห็นความจริงแท้ของโลกตามความเป็นจริง ไม่ตกอยู่ในความคิดเพ้อฝัน
ทำไมเราจึงต้องเจริญสติ
- คนเรามีปัญหาชีวิต ความทุกข์ ความเดือดร้อน ก็เพราะขาดสติ เหตุเพราะขาดสติ ทำให้คิดฟุ้งซ่านและคิดปรุงแต่ง ไหลไปตามอารมณ์ต่าง ๆ นานา
- เมื่อจิตใจไหลและปรุงแต่งไปตามอารมณ์ ก็จะเกิดความหลงผิด ความหลงผิดหรืออวิชชานี้เอง เป็นสาเหตุสำคัญที่สร้างความทุกข์ ความเดือดร้อน และความวุ่นวายต่าง ๆ นานัปการ
- เมื่อมีสติก็จะเป็นผู้ตื่นอยู่เสมอ ตื่นจากความปรุงแต่งนึกคิดในอารมณ์ทั้งหลาย ไม่หลับใหลไปกับความหวง ห่วง มีเยื่อใย อาลัยอาวรณ์ ไม่มีที่สิ้นสุด
- หลายคนประสบความสำเร็จในชีวิตก็เพราะ “สติ” เมื่อมีสติก็จะเกิดทั้ง “สมาธิ” และ “ปัญญา” เมื่อมีสติ สมาธิ ปัญญา ก็จะเกิด “ปฏิภาณ” “ไหวพริบ” “วิสัยทัศน์” (ญาณทัสสนะ) เห็นความเป็นเหตุปัจจัยว่า เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี เมื่อสิ่งนี้เกิด สิ่งนี้จึงเกิด เมื่อสิ่งนี้ดับสิ่งนี้จึงดับ เกิดโยนิโสมนสิการ (การพิจารณาอย่างแยบคาย) ทำให้เข้าใจชีวิตและโลกตามความเป็นจริง
- เมื่อมีสติก็จะรู้จักปล่อยวางและอยู่เหนือสมมติของโลก ไม่ไปสำคัญผิด มั่นหมายว่าเป็นตัวกูของกู จิตใจก็เป็นอิสระ มีได้โดยไม่เป็นทุกข์ เป็นได้โดยไม่เป็นทุกข์ อันเป็นศิลปะในการใช้ชีวิตและดำรงชีวิตอย่างมีสติ
การมีสติในชีวิตประจำวันดีอย่างไร
การมีสติในชีวิตประจำวัน เราต้องรู้จักคำว่า “สติ” เสียก่อน เมื่อมีสติแล้วจะเกิดอะไรขึ้น เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเรามีสติหรือไม่ ขอยกตัวอย่างเพื่อให้เรารู้ว่า ในการกระทำ การพูด และการคิดของเราในชีวิตประจำวันนั้น เรามีสติในขณะนั้นหรือไม่ และบูรณาการสติเพื่อนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร ข้อควรพิจารณาถึงการมีสติและการพัฒนาสติมีดังต่อไปนี้
สติเกิดขึ้นเมื่อมีความตั้งใจ
คนทั่วไปมักคิดแต่ว่าจะต้องมาฝึกสติที่วัดเท่านั้น แต่หารู้ไม่ว่า เวลาฝึกสติที่ดีที่สุดคือการฝึกสติในชีวิตประจำวัน
ฝึกสติได้อย่างไรหรือ เราฝึกสติด้วยการทำอะไรก็ให้ตั้งใจทำให้ดี เช่น ทำงานก็ตั้งใจทำงานให้ดี เลี้ยงดูครอบครัวก็ตั้งใจเลี้ยงดูครอบครัวให้ดี การฝึกสติทุก ๆ วันในชีวิตประจำวันด้วยความตั้งใจจะทำให้มีสติตั้งมั่น เสมอต้นเสมอปลาย ดีกว่ามาอยู่วัดเพียงวันหรือสองวันเพื่อฝึกสติเสียอีก และเมื่อเริ่มต้นด้วยการมีสติในการตั้งใจทำงาน เวลามาฝึกสติหรือฝึกสมาธิที่วัด ก็จะเกิดสติตั้งมั่น จิตรวมเป็นสมาธิได้ง่าย
สติเกิดขึ้นเมื่อมีความรับผิดชอบ
ยิ่งมีความรับผิดชอบ ยิ่งทำให้เกิดสติคมชัดมากขึ้น เวลาพิจารณาเรื่องใด ๆ ก็จะเกิดการพิจารณาโดยแยบคาย
ดังนั้นนักปฏิบัติธรรมที่มุ่งมาศึกษาและฝึกสมาธิวิปัสสนาที่วัด ถ้าต้องการให้การฝึกสมาธิวิปัสสนาก้าวหน้า ต้องเริ่มจากที่บ้านและที่ทำงาน ด้วยการมีความรับผิดชอบต่อครอบครัวและหน้าที่การงานให้ดี
สติเกิดขึ้นเมื่อมีความระมัดระวัง
เวลาเดินข้ามถนน ต้องเดินด้วยความมีสติ เดินด้วยความระมัดระวัง หากรีบร้อน เดินไม่ระมัดระวัง จะทำให้เผลอสติบ่อย ๆ
การกระทำอื่น ๆ แม้กระทั่งการพูดและการคิดก็เช่นกัน ต้องมีความระมัดระวังในการกระทำ การพูด การคิด ไม่ไปสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น
สติเกิดขึ้นเมื่อมีความละเอียดรอบคอบและช่างสังเกต
ความรอบคอบและช่างสังเกตเป็นสิ่งที่ทำให้สติมีความละเอียดและคมชัดในการพิจารณาธรรม
ผู้ปฏิบัติที่มุ่งความหลุดพ้นต้องรู้จักเป็นผู้ดำเนินชีวิตด้วยความรอบคอบ
ความรอบคอบและช่างสังเกตจะทำให้มีความละเอียดถี่ถ้วนในการรับรู้ และเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ทางโลกโดยไม่เผลอสติไปมัวเมา ลุ่มหลง หรือทะยานอยากในสิ่งนั้น ๆ
สติเกิดขึ้นเมื่อใจเย็น ไม่รีบร้อน
การกระทำที่เร่งรีบมักทำให้เผลอสติได้ง่าย หากเรารู้จักฝึกทำ อะไรด้วยความใจเย็นและไม่รีบร้อน เราจะมีสติอยู่กับปัจจุบันทุกขณะ
การมีสติอยู่กับปัจจุบันจะทำให้รู้และเข้าใจสิ่งที่ปรากฏในขณะนั้น ได้ชัด คือ เกิดการรู้ชัดและเข้าใจชัดในสิ่งนั้น ๆ เป็นขณะ ๆ ทุกขณะ อันมีความสำคัญมากในการเจริญสติปัฏฐาน 4 ซึ่งเน้นการมีสติรู้ชัด ในกาย เวทนา จิต และธรรม ในแต่ละขณะปัจจุบัน
สติเกิดขึ้นเมื่อรู้จักปล่อยวาง
หัวใจของการมีสติที่สำคัญที่สุดคือ เป็นผู้รู้จักปล่อยวาง การฝึกสติเป็นผู้รู้จักปล่อยวางนี้ ผู้ปฏิบัติต้องเริ่มหัดให้มีสติรู้จักปล่อยวางในชีวิตประจำวัน เพราะการฝึกปล่อยวางนั้นไม่ใช่จะมาปล่อยวางในขณะมาฝึกสมาธิวิปัสสนากรรมฐาน แต่ต้องเริ่มฝึกปล่อยวางไปโดยลำดับ จากสิ่งที่ง่าย ๆ ไปจนถึงสิ่งที่ปล่อยวางยาก
ส่วนหนึ่งจากหนังสือ ฝึกสติให้เกิดปัญญา
สั่งซื้อออนไลน์ คลิก
บทความน่าสนใจ
วิธีเจริญสติด้วยหลักสติปัฏฐาน 4 ตามแนว หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ
“ลืมตาเคลื่อนไหว ใจฮู้ซื่อ ๆ” ฝึก เจริญสติแบบเคลื่อนไหว ทีละขั้นตอน
เจ้าชายแฮร์รี่ทรงสนับสนุนให้ ฝึกเจริญสติ ในกองทัพ
รวม 3 สถานปฏิบัติธรรม เจริญสติในแนวทางเคลื่อนไหว – นิตยสาร Secret
การฝึกสติ “พละ ๕ คือกำลังหนุนจิต” – พระราชหฤทัยจากในหลวงรัชกาลที่ ๙