ผลแห่งกรรม เรื่องลึกลับจากลูกศิษย์ เจน ญาณทิพย์
ใครทำกรรมดี ย่อมได้รับผลดี ใครทำกรรมชั่ว ผลแห่งการกระทำนั้นจะย้อนกลับมาไม่ชาตินี้ ก็ชาติหน้า เหมือนกับเรื่องลึกลับ ที่เล่าจากปากของลูกศิษย์ เจน ญาณทิพย์ ท่านนี้
ลูกศิษย์อาจารย์เจน คนนี้ชื่อว่า “จี๊ด” เธอติดตามอาจารย์เจนไปหลายแห่ง จนมีเรื่องเล่ามาเล่าให้ทุกคนฟัง ซึ่งแต่ละเรื่องจะสะท้อนผลกรรมออกมาในรูปแบบใดบ้าง มาดูกัน
มะเร็ง… มลายด้วยธรรมโอสถ
คนที่มาหาอาจารย์เจนมีหลายรูปแบบ ทั้งอกหัก ตกงาน ญาติรังเกียจ ทำแท้ง คดโกง แต่คนที่จี๊ดรู้สึกสงสารมากที่สุดคือ คนที่เจ็บป่วย เมื่อหมดหนทางรักษาก็ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่ง ใคร ถึงได้มาหาอาจารย์เจน
อย่างเช่นพี่ต้น (นามสมมติ) แกเป็นคนอารมณ์ดี ไม่เครียด และมีเรื่องตลกขบขันมาเล่า ให้ฟังเสมอ ที่สำคัญคือแกชอบส่องพระ ถ้าว่างจากการงาน จะต้องไปสำรวจตลาดพระ หากถามว่าเคยนั่งสมาธิปฏิบัติธรรม ใส่บาตรหรือถวายสังฆทานบ้างไหม ตอบได้เลยว่าไม่ มีแต่ นิตยสารพระเครื่องกับแว่นขยายส่องพระเท่านั้นที่พกติดตัวไป ไหนต่อไหน
พี่ต้นป่วยเป็นโรคมะเร็งที่ลูกอันฑะ หลังจากนั้น ก็ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตามคำแนะนำของหมออย่างเคร่งครัด ต้องไปฉายแสงและให้ยาคีโมจนผมร่วงหมดทั้งหัว ร่างกาย ซูบผอม แลดูแก่ไปถนัดตา
คุณจี๊ด คิดในใจว่าพี่คงจะอยู่กับเราอีกไม่นาน หมอลงความเห็น ว่าแกป่วยเป็นมะเร็งระยะที่สามแล้ว และอาจจะมีชีวิตอยู่ได้ ไม่เกินปี คุณจี๊ดจึงพยายามไปพูดคุยให้เขา สบายใจ โดยเฉพาะเรื่องของธรรมะ ให้พี่ต้นลองอ่านหนังสือ ธรรมะดูเพื่อเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม
พี่ต้นเล่าว่า สาเหตุอีกอย่างที่ทำให้ตัดสินใจอ่านหนังสือ ธรรมะก็เพราะคิดว่าอีกไม่นานคงต้องตาย อ่านไว้บ้างคงดี แต่เมื่อ ยิ่งอ่านก็ยิ่งเพลิดเพลินใจ จิตสงบ และเข้าใจในกฎของไตรลักษณ์ กฎแห่งกรรม และหวนคิดได้ว่าสาเหตุที่ทำให้เป็นโรคร้ายอาจ มาจากเหตุแห่งกรรม จึงรู้สึกสำนึกผิดกับสิ่งที่ได้กระทำมา
ย้อนหลังไปเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน พี่ต้นมักจะมาเล่าให้จี๊ด ฟังอยู่เสมอว่าไปทำอะไรมา เช่นการยิงหมา พี่ต้นไม่ได้ใช้ปืนยิง แต่ใช้อาวุธที่เขาประดิษฐ์ไว้ยิงหมาโดยเฉพาะ นั่นคือหนังสติ๊ก ส่วนลูกกระสุนทำจากดินเหนียว ที่ตั้งใจปั้นด้วยมือตัวเองอย่างดี เวลายิงก็ไม่ได้ยิงเฉพาะที่ลำตัว แต่ยังยิงไปโดนก้น โดนอวัยวะเพศ ทำให้มันเจ็บปวดทุรนทุราย เป็นอย่างมาก
บาปของพี่ต้นยังไม่หมดแค่นั้น บริเวณสวนของแก กว้างใหญ่ไพศาล วันหนึ่งแกเดินไปเจอรังต่อรังใหญ่มาก จึง ใช้น้ำมันราดแล้วจุดไฟเผากะให้มันตายยกรัง แล้วก็มาเล่า ให้จี๊ดฟังอย่างสนุกสนานว่า หลังจากวันนั้นแกเที่ยวไปเดินหา รังต่อรังแตนตามต้นไม้ ถ้าเจอก็จัดการเผาทิ้งเสีย
ครั้งหนึ่งพี่ต้นเคยมาพูดกับคุณจี๊ดว่า
“ข้าสำนึกแล้วจริง ๆ ตอนที่ยิงหมา ข้าก็ยิงไปโดนลูกอัณฑะ ของหมาด้วยว่ะ มันก็คงไม่ต่างกับที่ข้าเป็นมะเร็งที่ลูกอันฑะ บางครั้งมันปวดจนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี บางครั้งเป็นไข่ดัน มันบวม ขาแข้งก็บวมจนเดินไม่ได้เลย เวลาปวดที่ไรนึกถึง หมาทุกที”
ผลของการใช้ธรรมะโอสถในการเยียวยาความเจ็บป่วย จากการที่พี่ต้นหมั่นทำบุญ ใส่บาตร ถวายสังฆทาน และ ไม่ว่างเว้นจากการนั่งสมาธิภาวนา จนมีอายุยืนยาว
อย่าคิดฆ่า “หนู” อีกนะ
นักการคนหนึ่งชื่อน้องแอร์ เธอมักจะมาบ่นให้เพื่อนๆ น้องๆ ของคุณจี๊ดฟังทุกวัน เช่น “วันนี้หนูมาฉี่เหม็นที่โต๊ะอีกแล้ว” “วันนี้มันมากินเศษอาหาร” “วันนี้มันแทะรองเท้าหนังของพี่ไป แล้วหนูเพิ่งเก็บทิ้ง” ฯลฯ
น้องคนนี้จึงคิด แผนการ “รับจ้างฆ่า” โดยขอเงินไปซื้อถาดกาวมาดักหนู เพราะ เคยใช้ยาเบื่อแล้วหาซากศพมันไม่เจอ ทำให้เหม็นกันไปทั้งตึก
คุณจี๊ดถามน้องแอร์ว่า
“เชื่อเรื่องกรรมไหม”
น้องบอกว่า
“ก็เชื่อนะพี่”
คุณจี๊ดเลยได้ทีพูดต่อ
“แล้วน้องแอร์คิดดูสิ ตัวเองน่ะ…เนื้อก็ไม่ได้กิน หนัง ไม่ได้รองนั่ง แต่เอากระดูกมาแขวนคอ เราก็ไม่ได้เดือดร้อน อะไรกับเขา โต๊ะก็ไม่ได้นั่ง เพราะเป็นนักการทำความสะอาด แล้วมารับอาสาฆ่าหนูให้คนอื่นทำไม ระวังหนูจะมาเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเราแทนเอานา”
น้องแอร์ก็เถียงว่า
“พี่ หนูมันไม่ตายนะ มันแค่ติดถาดและก็ดิ้นๆ แค่นั้นเองแอร์ก็เอาไปทิ้งถังขยะ”
จี๊ดก็ถามต่อไปว่า
“แล้วเวลามันอยู่ในถังขยะ หนังติดถาดอยู่อย่างนั้น ต่อไป มันจะตายไหม”
น้องแอร์ก็บอกว่า
“เอ…คงจะตายแหละพี่ แต่ไม่เป็นไรหรอก หนูมันก่อ ความรำคาญให้เรา แอร์มาจัดการมันน่ะดีแล้ว แอร์เองก็ไม่ได้ เป็นคนลงทุนซื้อถาดกาวดักหนู คนซื้อนั่นแหละที่มีกรรม แอร์ เป็นผู้รับงาน แอร์ไม่เกี่ยวข้องอะไร”
จี๊ดคิดว่าคนเราเหมือนบัวสี่เหล่า บางเหล่าก็อยู่ในโคลนตม ยากจะเตือนจะสั่งสอนให้เข้าใจ คงต้องปล่อยไปตามกรรม
จนเวลาผ่านไปประมาณปีกว่าๆ อยู่ๆ น้องแอร์ก็มาหา แล้ว พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เล่าประสบการณ์เฉียดตายของตัวเอง ให้ฟังว่า
“พี่…แอร์ขอโทษ ต่อไปนี้แอร์สาบานว่าจะไม่รับจ้างฆ่าหนู อีกแล้ว เพราะแอร์เกือบตาย คิดว่าคงไม่ได้มีชีวิตอยู่อีกต่อไป แล้ว นี่ยังกลัวอยู่เลยพี่” เมื่อคุณจี๊ดถามว่าเกิดอะไรขึ้น เธอจึง เล่าว่า
วันหยุดที่ผ่านมา ที่ทำงานของเกณฑ์คนงานไปทำความ สะอาดอาคารทั้งหมด โดยต้องใช้เครื่องขัดพื้นไฟฟ้า เธอขัดพื้น จนเกือบเสร็จแต่ที่พื้นยังมีน้ำเจิ่งนองอยู่ ทันใดนั้นมือก็เอื้อมไปจับสายไฟเพื่อลากตามเครื่องไปด้วยเหมือนทุกครั้ง
แต่คราวนี้ปรากฏว่าไฟดูด ทำให้ชาไปทั้งตัว และล้มลงไป นอนหงายท้องดิ้นชักกระตุกตามแรงดูดของไฟฟ้า ไม่มีใครเห็น และช่วยเหลือ น้องแอร์กลัวมาก คิดว่าวันนี้ต้องตายแน่นอน แล้วในนาทีแห่งความเป็นความตายนั้น พลันนึกถึงใบหน้าของคุณจี๊ด ที่เคยตักเตือนเรื่องหนู ที่สำคัญคือท่าทางที่เธอนอนหงายท้อง เป็นท่าเดียวกับหนูที่นอนติดถาดกาว และดิ้นรนด้วยความ เจ็บปวดทรมานเหมือนกันไม่มีผิด
เมื่อตั้งสติได้ น้องแอร์ก็คิดในใจว่า
“เจ้าประคู้น เจ้าที่เจ้าทางและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ลูก กำลังจะตายวันนี้ ลูกอยากร้องขอชีวิต ช่วยลูกด้วย ขอให้ลูก รอดพ้นจากความตายในวันนี้ ต่อแต่นี้ไปลูกจะไม่ฆ่าหนูอีกแล้ว ตัวลูกเองยังมีลูกเล็กๆ ที่ต้องเลี้ยงดู โปรดช่วยชีวิตลูกด้วยเถิด”
สิ้นคำอธิษฐานก็มีเพื่อนผ่านมาเห็นและชักสายไฟออกจาก ปลั๊กได้ทัน เหตุการณ์นี้ทำให้น้องแอร์เชื่อสนิทว่าเป็นกรรมจาก การฆ่าหนู ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อมาสำรวจสายไฟก็พบว่ามีรอยฟัน ของหนูกัดสายไฟเครื่องขัดพื้นอีกด้วย เธอบอกคุณจี๊ดว่า
“หนูเชื่อแล้วจริง ๆ ว่าบาปกรรมมีจริง”
อาจารย์เจนพูดเสมอว่า จากการตรวจกรรมของคนที่ผิดศีล ข้อหนึ่ง ปาณาติปาตา หรือบุคคลใดก็ตามที่ฆ่าสัตว์ เบียดเบียน สัตว์ คนผู้นั้นย่อมเจ็บป่วย และมักจะถูกคนอื่นเบียดเบียน และที่หนักที่สุดคือ ตายตกไปตามกันตามแรงแค้นแรงอาฆาต ของเจ้ากรรมนายเวรอย่างแน่นอน
ส่วนหนึ่งจากหนังสือ เรื่องลึกลับที่เจน ญาณทิพย์ยังไม่เคยเล่า
สั่งซื้อออนไลน์ คลิก
บทความน่าสนใจ
9 วิธีที่จะช่วยให้กิเลสเบาบางลง โดย พระริวโนะสุเกะ โคะอิเกะ
งานไม่พัง ใจก็ไม่พัง ถ้า คุมสติ ได้ดีตอนตอบอีเมลงาน
โอปปาติกะ คืออะไร ทำไมบางคนจึงเห็น ทำไมบางคนจึงไม่เห็น
มุมมองความรักในทางพุทธ ที่จะทำให้เจอรักแท้ โดย พศิน อินทรวงค์
5 ข้อสังเกตที่บอกว่า การสวดมนต์ของคุณนั้น กำลังพาคุณ ห่างไกลจากพระพุทธศาสนา