ชีวิตหลังม่านของ จินตหรา สุขพัฒน์
ถ้าให้คุณนึกถึงนักแสดงหญิงเจ้าบทบาทในวงการบันเทิงไทยสักคนเชื่อแน่ว่าชื่อ จินตหรา สุขพัฒน์ ต้องอยู่ในลิสต์ เธอได้รับการยกย่องจากคนในวงการด้วยกันและคนดูในฐานะนักแสดงที่มีฝีไม้ลายมือและใช้ชีวิตได้อย่าง “น่ามอง” ทั้งในจอและนอกจอ
คุณแหม่มใช้ชีวิตในวงการนี้ยาวนาน และเกือบครึ่งชีวิตของเธอมีหลายเรื่องราวที่ไม่ค่อยได้รับการเปิดเผยเท่าไรนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ เธอเข้าสู่วงการในยุคที่นางเอกต้องเก็บตัว และควรมีข่าวน้อยที่สุด อีกส่วนเป็นเพราะเธอเป็นคนรักความสงบ
![](https://goodlifeupdate.com/app/uploads/2017/12/จินตหรา.jpg)
อะไรคือเคล็ดลับที่ทำให้อยู่ในวงการได้นานขนาดนี้คะ
จริงๆไม่ได้มีเคล็ดลับอะไรหรอกค่ะ เพียงแต่เวลาทำงานต้องตั้งใจ มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับ ไม่ว่างานนั้นจะเป็นอะไร อาจเป็นเพราะ ได้รับการปลูกฝังมาจากผู้ใหญ่หลายท่านในวงการ อาทิ คุณสักกะ จารุจินดา คุณกอบสุข จารุจินดา รวมถึงคุณดวงดาว จารุจินดา ท่านสอนว่าต้องมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงาน และเป็นเด็กต้องมีสัมมาคารวะคนไทยชอบคนอ่อนน้อมถ่อมตนที่สุด ที่สำคัญคือต้องรู้จักกาลเทศะ รวมไปถึงการดูแลตัวเองด้วย เช่นการไม่ไปในที่อโคจร
คุณอาพิศมัย วิไลศักดิ์ ซึ่งเป็นแม่แบบในการแสดงอีกคน ก็สอนเสมอว่าต้องรับผิดชอบและรักงานที่ทำ ที่สำคัญต้องไม่ดูถูกคน ดูในการทำงานกับคนหมู่มาก ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าไม่อยากให้คนพูดถึงในแง่ไม่ดี ก็ต้องประพฤติตัวให้ดีเวลาจะทำอะไรแหม่มจะคิดว่าต้องทำให้ดีที่สุด ไม่ว่าผลจะออกมายังไงจะได้ไม่รู้สึกผิดหวังว่าพยายามน้อยไป
อารมณ์ไหนเล่นเหนื่อยที่สุดคะ
บทโกรธจะเหนื่อยมาก บางทีบทที่เขาเขียนมาก็ไม่ได้ช่วย ไม่ได้มีเหตุมีผลพอที่จะต้องโกรธขนาดนั้น เราก็ต้องสร้างอารมณ์เอง อย่างบทร้องไห้ก็นึกไปถึงคำพูดที่สะเทือนใจ ซึ่งก็ช่วยได้บางครั้งบางเรื่องบทดีเหลือเกิน อ่านแล้วกินใจน้ำตา ก็จะไหลเอง แค่เริ่มอ่านยังไม่ถึงไหนก็ร้องไห้แล้ว อย่างละครเรื่อง สี่แผ่นดิน บทและเนื้อเรื่องดีมาก อ่านไม่ทันไรน้ำตาก็ไหล
ที่โหดๆหน่อยก็คือหนังเรื่องอำแดง เหมือนกับ นายริด คุณเชิด ทรงศรี เป็นผู้กำกับค่อนข้าง สตริ๊กต์และชอบถ่ายโคลสอัพ คุณเชิดอยากได้ประมาณว่า พูดถึงประโยคนี้ปุ๊บน้ำตาต้องไหลเลย ทำให้กดดันตอนทำงานแกจะชอบมานั่งอยู่ข้างๆคอยลุ้นว่าจะน้ำตาไหลไหม ต้องเค้นหนักแต่พอเค้นมากๆ ก็จะเกร็งที่หน้าทำให้หน้าไม่สวยอีก จำได้ว่าพอถ่ายฉากร้องไห้เสร็จอยู่ๆคุณเชิดก็พูดขึ้นมาลอยๆว่า “มีนางเอกอยู่คนหนึ่งคนนั้นเขาร้องไห้สวยมาก…” พูดไม่เจาะจงแต่เหมือนให้รู้สึกว่าเราร้องไห้ไม่สวย (หัวเราะ)
![](https://goodlifeupdate.com/app/uploads/2017/12/จินตหรา-1.jpg)
มีวิธีรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างคะ จากที่เคยเป็นนางเอก
ยอดนิยมแต่วันหนึ่งต้องเปลี่ยนบทไปเป็นตัวรอง ไม่ยากเลยค่ะ แหม่มเป็นคนที่คอยบอกตัวเองเสมอว่า เราต้องยอมรับความจริง ทำอะไรก็ตามให้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ที่สำคัญอย่าหลอกตัวเอง อยู่มาได้ถึงยี่สิบกว่าปีนับว่าเกินที่คาดหวังไว้มาก แม้ตอนนี้เราจะไม่ใช่นางเอกแต่ก็ยังได้ทำงาน ถึงจะเล่นเป็นแม่เป็นป้าก็ยังมีคนให้กำลังใจ ก่อนหน้านี้แหม่มก็เคยคิดว่าหยุดงานตรงนี้ แล้วลองไปทำงานอื่นดีไหม ไม่ใช่ยอมรับไม่ได้ที่บทมันเปลี่ยนไป แต่อยากหาอะไรที่มั่นคงกว่านี้ แต่พอคิดอีกทีงานแสดงก็ยังมีความจำเป็น ยิ่งผันตัวเองมาทำธุรกิจการทำงานตรงนี้ช่วยได้เยอะ
ตอนนี้มีมุมมองเรื่องความรักและชีวิตคู่อย่างไรคะ
การมีความรักเป็นสิ่งที่ดีทำให้ชีวิตสดชื่น มีก็ดีแต่ไม่มีก็ไม่เป็นไรค่ะ ตอนนี้แหม่มอยู่ในวัยกลางคน เพราะฉะนั้นเวลาที่จะคบหาสมาคมกับใครก็ต้องดูที่มาที่ไป เป็นใครมาจากไหนมีครอบครัวหรือยัง แต่ไม่ถึงกับปิดกั้นตัวเองไม่เคยบอกด้วยว่าจะไม่แต่งงาน เพียงแต่ให้มาแต่งจัดงานเป็นเรื่องเป็นราวคงไม่ดีกว่า ตอนนี้แหม่มอายุ 44 ผู้ชายวัยนี้เขาคงแต่งงานกันไปหมดแล้วอีกอย่างเราไม่ค่อยได้ไปไหนด้วย ทำงานเสร็จก็กลับบ้านไม่เคยคิดว่าต้องไปสอดส่องหาใคร ยิ่งทำธุรกิจก็ต้องอยู่กับงานจริงๆ
ส่วนตัวแล้วไม่ได้กังวลว่า ฉันควรจะแต่งงานเสีย ทีเพื่อนฝูง และคนในครอบครัว ก็ไม่ได้อยากให้มีแฟนเพราะเป็นห่วงที่ผ่านมา เราไม่ประสบความสำเร็จ ตรงนี้ไม่โทษคนที่คบหา เพราะส่วนหนึ่งก็มาจากตัวเรา ตอนนี้ถ้าได้เจอคนที่ใช่ก็ใช่ แต่ถ้าไม่ใช่ก็เลิก คนที่จะเข้ามาขอแค่ความคิดความอ่านไปกันได้ มีรูปแบบการใช้ชีวิตที่ใกล้เคียงกัน ก็พอเป็นเพื่อนคุยเพื่อนคู่คิดออกไปทำกิจกรรมด้วยกัน ไม่ต้องคอยมาหึงหวง เราทำงานด้วยตัวเองสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ ถ้าจะให้ปรับตัวเข้าหาใครเยอะๆไม่เอาแล้ว รู้สึกว่าความอดทนน้อย ลงไม่เหมือนสมัยอายุยังน้อย ที่เทิดทูนความรักมากๆ ไม่ว่าเขาทำอะไรก็ยอมทุกอย่าง
![](https://goodlifeupdate.com/app/uploads/2017/12/จินตหรา-4.jpg)
คุณแหม่มสนใจในธรรมะด้วย อยากทราบว่าเริ่มสนใจเรื่องธรรมะตั้งแต่ตอนไหนคะ
จริงๆแหม่มเป็นคาทอลิก คุณพ่อเป็นคริสต์ คุณแม่เป็นพุทธ แหม่มเลยเหมือนเป็นคนสองศาสนา ตอนเด็กเรียนในโรงเรียนคริสต์ ตามคุณพ่อไปโบสถ์ตลอด แต่พอโตขึ้นได้เข้ามาทำงานในวงการ คนรอบข้างส่วนใหญ่เป็นพุทธ มีวันหนึ่งทำงานเหนื่อยมาก อยากทำสมาธิ รู้สึกว่าใจฟุ้งซ่าน ไม่มีสมาธิ จะอ่านบทอ่านเท่าไรก็ไม่เข้าหัว เลยปรึกษา คุณบุ๋ม-รัญญา ซึ่งชอบนั่งสมาธิและไปถือบวชทุกปี คุณบุ๋ม แนะนำ คอร์สวิปัสสนากรรมฐานสั้นๆ 3วัน ของคุณแม่ สิริกรินชัยที่วัดบางขุนพรหมให้
ไปถึงก็บอกวิทยากรว่าเป็นคาทอลิกนะคะ แต่อยากมาเรียนรู้ การทำสมาธิ วันแรกเขาไม่ให้พูดอะไรกับใคร ได้แต่ฟังบรรยาย เดินจงกรม ระหว่างนั้นมีความรู้สึกว่า เหมือนถูกเพ่งเล็งตลอด คิดไปว่าเป็นเพราะเราไปบอกเขาว่าเป็นคาทอลิกหรือเปล่า เขาเลยใส่ใจเรามากกว่าคนอื่น บางทีนั่งสมาธิอยู่เขาก็มาพูดข้างหูบอกว่า “อย่าเกร็งค่ะปล่อยตัวสบายๆ” เขาคงเห็นว่าเราขมวดคิ้ว และขยับซ้ายขยับขวาตลอด ตกเย็นตอนเดินจงกรมเขาก็มาอยู่ใกล้ๆ ก็รู้สึกหงุดหงิดว่าทำไมต้องมาวุ่นวายด้วย
ความที่เกร็งตัวมากตอนเดินจงกรม เลยหมดเรี่ยวแรงไปเลย เห็นอาหารที่เขาให้ก็คิดไปว่าจะอิ่มไหม เพราะน้อยมากตอนหลังมารู้ว่าเขาจะสอนให้กินช้า“ยกหนอ กินหนอ เคี้ยวหนอ กลืนหนอ”ซึ่งการกินช้า เคี้ยวละเอียด พอหมดจานมันจะอิ่มเองตกกลางคืนก็คุยกับตัวเองว่าจะทำยังไงดี อยากกลับบ้านแล้ว “แต่ถ้ากลับเขาต้องประณามเราแน่ๆ” วันแรกเครียดจนอยากอาเจียนคิดว่าฉันมาวุ่นวายอะไรกับชาวพุทธเนี่ย (หัวเราะ) แต่ก็ฮึดสู้ว่าเอาน่าเราจะมาเรียนรู้ไม่ใช่เหรอไม่ทันรู้อะไรจะกลับเสียแล้ว
แล้วมารู้สึกดีขึ้นตอนไหนคะ
วันที่สองก็เริ่มปรับตัวได้ หลังกลับจากตรงนั้นเราได้คิดทบทวน ได้อยู่กับตัวเอง ที่ผ่านมาอาจจะมีปัญหา กับคุณแม่บ้าง พอได้คิดรู้สึกว่าเข้าใจแม่มากขึ้น เริ่มพิจารณาหาเหตุหาผลว่า ทำไมเราถึงเป็นแบบนั้น แบบนี้ เหมือนได้เรียนรู้และพิจารณาตัวเอง หลังจากนั้นมาก็เริ่มสนใจที่จะปฏิบัติมากขึ้น คุณบุ๋มพาไปวัดธรรมอุทยาน ซึ่งเป็นวัดป่าที่ขอนแก่นพวกเราทำกุฏิเล็กๆ ไว้ให้ญาติโยมพัก บางทีก็ไปกางเต็นท์นอน คนอื่นอาจจะไปทำสมาธิเป็นหลัก แต่แหม่มไปเพื่อพักผ่อนเสียส่วนใหญ่ เพราะหลวงพ่อกล้วยที่พวกเรานับถือที่วัดนี้บอกว่า ทำตัวตามสบายนะ ให้เหมือนอยู่ที่บ้านได้รู้จักกับอาจารย์ วรภัทร์ ภู่เจริญ ซึ่งสอนเกี่ยวกับการปฏิบัติ ท่านเป็นคาทอลิก แต่ตอนหลังบวชเป็นพระ พอสึกเป็นฆราวาสท่านก็มาบรรยายธรรมะให้ฟัง
![](https://goodlifeupdate.com/app/uploads/2017/12/จินตหรา-6.jpg)
ธรรมะเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างไรบ้างคะ
ทำให้เราได้รู้จักตัวเราเองมากขึ้น รู้จักที่จะให้อภัยใครต่อใครง่ายขึ้น ธรรมะ คือ ธรรมชาติ ทุกอย่างที่เกิดต้องมีเหตุ มีผล และที่มาที่ไปเสมอ แม้ศึกษา เรื่องพุทธ แต่แหม่มก็ไม่ได้ลืมความเป็นคริสต์ ทุกวันนี้ก็ยังนับถือคริสต์เหมือนเดิม ยังไปโบสถ์เคยนั่งเทียบเคียงระหว่างสองศาสนาว่า จริงๆก็มีอะไรที่คล้ายๆกัน อย่างการทำสมาธิของพุทธเปรียบเทียบก็คือการสวดสายประคำขณะที่บัญญัติ 10 ประการ กับ ศีล 5 ศีล 8 ก็สอนให้คนเป็นคนดีเหมือนกัน สรุปว่าทุกศาสนาต่างก็สอนให้คนเป็นคนดี
ถ้าถามว่าอะไรคือความสุขในปัจจุบันนี้
การได้ทำให้ทุกคนในครอบครัว อยู่ดีมีสุข ไม่ว่าจะเป็น พี่น้อง ลูกหลาน หรือญาติๆ อย่างน้อยที่สุด แค่ได้ดูแลพ่อแม่ให้มีความสุข แหม่มก็มีความสุขแล้ว ไม่อยากให้เขาต้องกังวล กับเศรษฐกิจ หรืออะไรภายนอก อยากรับผิดชอบตรงนี้แทนส่วนตัวเราเอง ไม่มีปัญหาเพราะดูแลตัวเองได้อยู่แล้วค่ะ (ยิ้ม)
เคล็ดลับการเป็นดาราในดวงใจประชาชนของจินตหรา สุขพัฒน์
– เวลาทำงานต้อตั้งใจ มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับ และไม่ดูถูกคนดู
– ในการทำงานกับคนหมู่มาก ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา อ่อนน้อมถ่อมตน และมีสัมมาคารวะกับผู้ใหญ่
– ไม่ว่าจะทำอะไร ให้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง อย่าหลอกตัวเอง
– สิ่งที่เราไม่อยากทำ ไม่อยากเป็น ต้องพยายามเปลี่ยนความคิดด้านลบ ให้เป็นบวก ให้คิดว่าเป็นหน้าที่ เมื่อเป็นหน้าที่เราจะต้องรับผิดชอบ ปฏิเสธไม่ได้
เรื่องจาก : นิตยสาร Secret
ภาพจาก : www.instagram.com/mamjintara.fanclub
บทความที่น่าสนใจ
ล้มแล้วต้องลุกเชน ธนา ลิมปยารยะ
บี้ สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว เมื่อจังหวะ “ธรรม” กระแทกหัวใจซูเปอร์สตาร์