กระดิ่งเงิน กระดิ่งทอง แมลงแห่งโชคลาภ จริงหรือ?
รูปที่ห็นอยู่ เป็นตัว ” กระดิ่งเงิน กระดิ่งทอง “ ที่พ่อค้าแม่ค้านิยมนำมาเลี้ยงดูอย่างดี ป้อน “ข้าวตอก” เป็นอาหาร ตั้งชื่อเรียกที่เป็นมงคล และพูดคุยอย่างไพเราะเอาอกเอาใจ เพราะมีความเชื่อที่พูดกันต่อๆ ว่า เลี้ยงกระดิ่งเงินกระดิ่งทอง จะช่วยเรียกเงินเรียกทรัพย์ค้าขายขึ้น มีโชคมีลาภ บางคนถึงกับอุ้มไปลงยัญบูชาผ่านพิธีการปลุกเสก
“กระดิ่งเงินกระดิ่งทอง” เป็นแมลงจำพวกด้วงปีกแข็ง ขนาดเล็ก เป็นสัตว์ที่มีวงจรชีวิตสั้น เฉลี่ยประมาณ 2 ถึง 3 เดือน หากเบื่อหรือไม่อยากเลี้ยงแล้ว ควรดูแลจนกว่าจะสิ้นอายุขัย เพราะหากปล่อยให้หลุดไปอยู่ในพื้นที่อุดมสมบูรณ์ การแพร่ขยายพันธุ์จะรวดเร็วเป็นกองทัพสร้างความเดือดร้อนได้
ความเชื่อจากทางภาคเหนือ เชื่อว่า การเลี้ยง “กระดิ่งเงินกระดิ่งทอง” จะเสริมโชคลาภ เงินทองไหลมาเทมาไม่ขาดมือ หากมีเยอะก็แบ่งปันผู้อื่น เพื่อเสริมบุญบารมี เพราะสัตว์มงคลเหล่านี้ หนึ่งตัวจะมีอายุไข 2-3 สัปดาห์
ส่วนวิธีการเลี้ยง แค่หาโหลหรือตู้ปลา มาใส่ข้าวตอก จากนั้นก็ใส่ “กระดิ่งเงินกระดิ่งทอง” ลงไป โดยไม่ต้องใส่น้ำ แค่คอยระวังเรื่องมดเท่านั้น หากมีตัวไหนตายจะเก็บออกหรือไม่เก็บก็ได้ เพราะไม่มีกลิ่นเหม็น แต่คนรุ่นเก่าเชื่อว่า หากปล่อยซากไว้ และหมั่นเติมอาหาร ยิ่งขลังมาก
ความนิยมเลี้ยงบูชาสัตว์หวังความโชคดี เป็นเรื่องละเอียดอ่อนเป็นความเชื่อส่วนตัวที่เข้าไม่ถึง จนพระนักเทศน์ชื่อดัง เป็นห่วง อยากให้ผู้นิยมเลี้ยงมีสติ หากต้องการเลี้ยงก็ต้องทำมาหากิน และประพฤติตัวดี ที่สำคัญต้องเข้าใจความหมายการบูชาสัตว์ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศอินเดีย และสัตว์ที่นำมาบูชาจะเป็นสัตว์ใหญ่ มีคุณประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ
เช่นเดียวกับมุมมองของ อาจารย์สุขสวัสดิ์ พลพินิจ นักกีฏทยา ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสัตว์กลุ่มแมลง มองว่า ความเชื่อเรื่องการเลี้ยงสัตว์ เป็นกุศโลบายช่วยให้รู้ว่าผู้เลี้ยงเป็นผู้มีความอ่อนโยน จึงน่าจะช่วยดูแลลูกค้าได้ดี เพราะการเลี้ยงดูต้องเอาใจสัตว์เป็นอย่างดี แต่การเลี้ยงต้องถูกวิธีไม่ทอดทิ้งจนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2561 รศ.ดร.เดชา วิวัฒน์วิทยา ครูประจำภาควิชาชีววิทยาป่าไม้ คณะวนศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า ตนไม่ได้ติดตามเรื่อง “กระดิ่งเงินกระดิ่งทอง” เป็นพิเศษ แต่พอจะทราบอยู่บ้างว่ามีการนำไปบูชาเพื่อเสริมดวง แต่สำหรับ “กระดิ่งเงิน กระดิ่งทอง” เป็นแมลงกลุ่มมอดแป้ง กลุ่มหนอนนก มีกำเนิดจากโรงเก็บเมล็ดพืช เพราะชอบกินเมล็ดพืช ส่วนมากจะพบในป่า หรือตามจุดที่มีต้นไม้ และมักจะอาศัยอยู่กันเป็นกลุ่ม ยิ่งถ้ามีแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นจุดเงียบสงบ จะมีแมลงเข้าไปอาศัยอยู่จำนวนมาก
อาจารย์เดชา กล่าวอีกว่า สำหรับแมลงดังกล่าว สามารถเลี้ยงได้ ถ้ามีภาชนะ หรือโถใส หรือตู้ปลา นำไปใส่แมลง และอาหาร เช่น เมล็ดข้าว ธัญพืช ข้าวตอก เป็นต้น หรืออาจจะมีสำลีชุบน้ำวางไว้ด้วย เพราะแมลงกลุ่มนี้ เมื่อโตเต็มวัยจะไม่ค่อยกินอาหาร จะกินแต่น้ำ เพื่อให้มีพลังงาน ในการผสมพันธุ์และตายไป แมลงดังกล่าวจะมีการขยายพันธุ์เร็ว และมีจำนวนมาก
นอกจากนี้ ส่วนที่มีการนำไปปลุกเสก และบูชา รวมทั้งเช่าไปเลี้ยง ตนคิดว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล แต่อยากให้มองตามความเป็นจริง เพราะคนส่วนมากไม่นิยมนำมาเลี้ยง เนื่องจาก สร้างความรำคาญ ส่วนกรณีถูกรางวัล หรือได้โชคตนคิดว่าอาจจะเป็นช่วงจังหวะชีวิตที่ดีมากกว่า
พร้อมขอยืนยันว่า แมลงดังกล่าวไม่มีผลกระทบกับมนุษย์แน่นอน แต่จะสร้างความเดือดร้อนให้กับโรงเก็บเมล็ดพันธุ์พืชมากกว่า เนื่องจากเป็นสัตว์กินพืช และชอบอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม
ข่าวจาก Amarin ทุบโต๊ะข่าว , Ch7news
ภาพประกอบ Amarin ทุบโต๊ะข่าว
บทความน่าสนใจ
ถอดรหัสความเชื่อ คลายข้อสงสัย ทำไม “ ห้ามนอนทับตะวัน ”
ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งหมู่บ้านตรุนยัน ต้นไม้สำคัญของพิธีกรรมแห่งความตาย
ความเชื่อและความจริง พระราชญาณกวี
