วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์

“ธรรม” ได้ทุกเวลาที่ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์

“ธรรม” ได้ทุกเวลาที่ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์

การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานคือหนทางหนึ่งของการพัฒนาจิตใจให้เจริญ แต่สถานปฏิบัติธรรมส่วนใหญ่มักกำหนดวัน - เวลาในการเข้าปฏิบัติ ทำให้คนที่มีเวลาน้อยไม่มีโอกาสได้เรียนรู้ธรรม วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ จึงเปิดให้ผู้ที่สนใจมาปฏิบัติธรรมได้ทุกเมื่อ โดยหวังว่าธรรมะจะช่วยนำพาผู้ปฏิบัติไปสู่การพ้นทุกข์ที่แท้จริง

วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เริ่มเปิดให้ประชาชนปฏิบัติธรรมตั้งแต่ก่อนปี พ.ศ. 2500 ในเวลานั้นสถานที่ยังไม่เอื้ออำนวยนัก แต่กลับมีพุทธ-ศาสนิกชนมาปฏิบัติธรรมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปี พ.ศ. 2553 พระธรรมสุธี (พีร์ สุชาโต)เจ้าอาวาส จึงริเริ่มให้ก่อสร้างอาคารเบญจมราชวรานุสรณ์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ปฏิบัติและตั้งเป็นศูนย์ศึกษาและปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานนานาชาติ เสร็จสิ้นในปี พ.ศ. 2555 โดยเปิดให้ปฏิบัติธรรมทุกวันไม่จำกัดจำนวนวันและเวลา

พระภาวนาวิริยคุณ วิ. ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานนานาชาติกล่าวว่า “เราพยายามเปิดโอกาสให้คนทั่วไป โดยเฉพาะคนทำงานได้ปฏิบัติธรรมเรารู้ว่าแต่ละคนมีเวลาไม่เท่ากัน บางคนมีเวลาแค่ครึ่งวัน หรือบางคนมีเพียง 15 นาที ฉะนั้นเราจึงไม่สร้างระเบียบหรือกฎใด ๆ เพื่อขวางกั้นผู้ที่ต้องการเข้าถึงธรรม ขออย่างเดียวคือถ้ามาแล้วต้องตั้งใจ”

ทั้งนี้พระภาวนาวิริยคุณ วิ. กล่าวเพิ่มเติมว่า “เราสร้างสถานที่ขึ้นมาเพื่อให้คนฝึกจิต พัฒนาใจ เพราะเรามองว่า ถ้าจิตใจของมนุษย์ได้ฝึกฝนอย่างดีแล้ว ก็จะคิด พูดและทำในสิ่งที่ดีตลอดเวลา ไม่สร้างปัญหาให้ตัวเองและคนรอบข้าง สังคมก็จะสงบสุข

“การฝึกวิปัสสนาทำได้ทุกที่ เพียงแค่เราอยู่อย่างมีสติทุกขณะ และสามารถทำได้ทุกวัย ทุกวัน เมื่อทำอย่างต่อเนื่อง สติจะดีขึ้นโดยลำดับ จนกระทั่งสามารถทำให้สติสมบูรณ์ได้โดยสิ้นเชิง ก็จะพ้นทุกข์ทั้งปวงได้”

แนวทางปฏิบัติ

สติปัฏฐาน 4 โดยบริกรรมพองหนอ - ยุบหนอ

หลักสูตรที่เปิดสอน

1. หลักสูตรปกติ เปิดให้ประชาชนเข้าปฏิบัติธรรมทุกวัน ไม่จำกัดจำนวนวันและเวลา โดยรับศีลเวลา 8.00 น. ลาศีลเวลา17.00 น.

2. หลักสูตรพิเศษ จัดอบรมทุกวันที่ 1 - 7 ของทุกเดือน แตกต่างกับหลักสูตรปกติคือ เวลาในการปฏิบัติมากกว่า และสอบอารมณ์วันเว้นวัน

ระเบียบปฏิบัติ

1. ต้องเซ็นชื่อเข้า / ออกทุกครั้ง และติดบัตรประจำตัวตลอดเวลาที่เข้าปฏิบัติ

2. ห้ามนำโทรศัพท์เข้าบริเวณที่พักและในห้องปฏิบัติโดยเด็ดขาด

3. ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มทุกประเภทรวมทั้งภาชนะต่าง ๆ เข้าบริเวณที่พักและห้องปฏิบัติธรรม ยกเว้นน้ำดื่มแบบขวด

4. ห้ามนำถุงพลาสติกเข้าห้องปฏิบัติธรรมโดยเด็ดขาด

5. ห้ามพูดคุย อ่าน เขียนหนังสือฟังวิทยุ เล่นการพนัน ฯลฯ หรือกระทำการใด ๆ ที่รบกวนการปฏิบัติของผู้ปฏิบัติท่านอื่น

6. ไม่ส่งอารมณ์ระหว่างผู้ปฏิบัติด้วยกันเอง หากรู้สึกไม่สบายกาย / ใจ โปรดแจ้งพระอาจารย์หรือแม่ชีเจ้าหน้าที่ทันที

หมายเหตุ : ระเบียบปฏิบัติข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของระเบียบปฏิบัติทั้งหมด ดังนั้นโปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ www.msarc.info หรือสอบถามที่วัดได้โดยตรง

กิจวัตรปฏิบัติ (หลักสูตรปกติ)

5.00 น. - 7.00 น. สวดมนต์ ทำวัตรเช้า นั่งสมาธิ และเดินจงกรม จากนั้นรับประทานอาหารเช้า ปฏิบัติกิจส่วนตัว และมารวมที่ห้องปฏิบัติธรรมเวลา 8.30 น. เพื่อนั่งสมาธิ เดินจงกรม และแผ่เมตตา 11.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ถัดมา 13.00 น. ฟังธรรมนั่งสมาธิ และเดินจงกรมต่อ จนถึงเวลา 16.30 น. พักดื่มน้ำปานะ กระทั่ง 18.00 น. จึงเริ่มสวดมนต์ ทำวัตรเย็น ปฏิบัติธรรม และสอบอารมณ์จนถึงเวลา 21.30 น.

เรื่อง Pitchaya ภาพ วรวุฒิ วิชาธร


ศูนย์ศึกษาและปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานนานาชาติ อาคารเบญจมราชวรานุสรณ์วัดมหาธาตยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพมหานคร ถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ

ข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2223-6878


บทความที่น่าสนใจ

ค้นพบอิสระทางจิตใจท่ามกลางธรรมชาติ ณ วัดพระธาตุดอยกองข้าว

วัดสังฆทาน สัปปายะสถานบำบัดใจด้วยธรรม (ชาติ)

วัดบุคคโล ประกายศรัทธาแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา

“ศิลปะกระจก” ความงดงามเพื่อพุทธบูชา ณ วัดมณีจันทร์ จ.บุรีรัมย์

วัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร การศึกษาคือหัวใจสําคัญของการเผยแผ่

วัดคณิกาผล วัดเก่าแก่สมัยรัชกาลที่ 3 ใน ย่านพลับพลาไชย

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.