เพราะชีวิตไม่เคยหยุดที่จะฝัน โต๋นแตร์ – ทินกร ภูวศักดิวงศ์ ผู้ประกาศข่าวช่อง ONE
หากคุณลองอ่านเรื่องราวของ โต๋นแตร์ – ทินกร ภูวศักดิวงศ์ ผู้ประกาศข่าวช่อง ONE คุณอาจจะอยากลุกขึ้นมาสู้เพื่อทำความฝันนั้นให้เป็นจริง
ความฝันจะเป็นแค่ฝัน ถ้าเราไม่ลงมือทำอะไรบางอย่าง หรือบางคนอาจจะคิดว่า ความฝันนั้นง่ายที่จะทำ เพียงเพราะเราเห็นคนอื่นทำได้ เห็นตอนที่เขาสำเร็จแล้ว แต่ยังไม่เห็นว่าระหว่างทางว่าเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง โต๋นแตร์ – ทินกร ภูวศักดิวงศ์ ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เส้นทางความฝันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เขาก็ไม่หยุดยั้งที่จะทำตามฝัน
โต๋นแตร์ เล่าถึงความฝันในวัยเด็กและคำสบประมาทที่เขาได้รับว่า
“ผมเกิดในครอบครัวฐานะปานกลาง ค่อนไปทางลำบากด้วยซ้ำ และด้วยความที่ผมเป็นพี่ชายคนโตผมบอกตัวเองมาตลอดว่า ผมต้องเลี้ยงดูครอบครัวให้ได้ ยิ่งช่วงที่พ่อกับแม่มีปัญหากัน ยิ่งทำให้ผมรู้ว่า ผมต้องเป็นผู้นำครอบครัว มีอยู่วันหนึ่งผมนั่งดูโทรทัศน์ เขาเอารายได้ของดาราแต่ละคนมาพูดคุยกัน ผมคิดว่าเป็นอาชีพที่จะยกระดับฐานะขึ้นได้ ตั้งแต่นั้นจึงตั้งมั่นเลยว่า ผมจะต้องเป็นดาราให้ได้
“วันหนึ่งในชั้นเรียน เมื่อครูถามว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร พอผมตอบว่า ‘ดารา’ ทุกคนในห้องเรียนพร้อมใจกันหัวเราะ แล้วก็ชอบมีเพื่อนมาล้ออย่างขบขัน เรียกผมว่า ‘ไอ้ดารา’ อยู่บ่อยๆ ผมอายมาก เมื่อโดนถามถึงความฝันอีก ผมไม่อยากโดนล้อ เลยบ่ายเบี่ยงไปว่า ผมอยากเป็นนักข่าว ดูกลางๆ ไม่เกินตัวจนเกินไป”
เมื่อเข้ามหาวิทยาลัย โต๋นแตร์ ยังคงมีความฝันอยากเข้าวงการบันเทิง ระหว่างที่เขาเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก เขาก็บอกคุณแม่ว่า อยากเรียนปริญญาอีกใบที่รามคำแหงในวันเสาร์-อาทิตย์ แล้วเขาใช้ช่วงเวลาเหล่านั้นไล่ตามความฝันด้วยการเดินสายแคสต์งาน พร้อมกับลงเรียนที่รามคำแหงในเวลาเดียวกัน
ความมุ่งมั่น และการลงมือทำเพื่อให้ความฝันนั้นเป็นจริงมีอันต้องสะดุด เมื่อเขาเจอเข้ากับอุปสรรคครั้งใหญ่
“ผมเสิร์ชในกูเกิ้ลเกี่ยวกับหานักแสดงหน้าใหม่ ทำให้ผมเจอคนๆ หนึ่ง เขาทำให้ผมเชื่อใจว่าเขาจะสามารถทำให้ผมเข้าวงการบันเทิงได้จริงๆ แต่กลับโดนเขาหลอก ผมจึงหยุดพักเรื่องการแคสงานไปพักใหญ่ เพราะท้อใจมากที่ต้องมาเจอกับการเอาความฝันมาหลอกกันแบบนี้
“แต่ไม่นานหลังจากนั้น ผมก็รวบรวมกำลังใจเดินสายแคสต์งานต่อ การแคสต์งานทุกครั้งผมจะบันทึกเอาไว้ ผมไปไม่ต่ำกว่า 1,000 ครั้ง ในที่สุด เมื่อผมได้โฆษณาตัวแรก ผมดีใจราวกับคนเสียสติ ชื่นใจ และรู้สึกว่าสิ่งที่ทำมาไม่สูญเปล่า แต่สิ่งที่ทำให้ผมดีใจกว่านั้นคือ การได้เห็นว่าคุณแม่ภูมิใจในตัวผมแค่ไหน เขาตื่นตี 4 เพื่อที่จะไปตลาด แล้วบอกคนในตลาดว่า เห็นโฆษณาตัวนี้หรือยัง โต๋นเล่นนะ แค่นี้ผมก็รู้สึกคุ้มค่าที่สุดแล้ว
“หลังจากนั้นผมเริ่มได้งานโฆษณามากขึ้น และมีโอกาสได้ทำงานพิธีกรรายการ You2Play และรายการไอทีน คลับ ทุกอย่างกำลังไปได้สวย แต่ก็เกิดเหตุสถานการณ์บ้านเมืองไม่สู้ดี รายการไม่ได้ออนแอร์ ช่วงนั้นผมไม่มีรายได้ และไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่รู้ว่าชาติก่อนผมคงไปทำอะไรกับเขาไว้ เป็นเจ้ากรรมนายเวร ทำให้ผมต้องพูดลอยๆ ขออโหสิกรรมจากเขาว่า ถ้าผมมีโอกาสหาเงิน ส่งเงินไปให้พ่อแม่ ให้น้องสาว ความดีตรงนี้ผมยกให้คุณทั้งหมด แล้วไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ หลังจากนั้น มีคนติดต่อให้ผมไปเล่น MV แล้วก็เล่นโฆษณา ทำให้ผมมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องและได้ส่งเงินให้ที่บ้านอย่างที่พูดเอาไว้จริงๆ
“พอผมอยู่ในวงการบันเทิงมาสักพักใหญ่ ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบอกผมว่า ช่อง ONE อยากได้ผู้ประกาศข่าวหน้าใหม่ พอผมรู้จึงเข้ามาที่ตึกแกรมมี่ทุกวัน ถ้าพี่นักข่าวว่าง หรือผู้ใหญ่ท่านไหนสะดวก ผมก็จะรบกวนให้เขาช่วยฟังผมอ่าน หลังจากนั้นผมก็ทำเดโม่ส่งไปให้พี่บอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) สุดท้ายพี่บอยก็ให้โอกาสผม ทำให้ผมมีโอกาสเป็นผู้ประกาศข่าวช่อง ONE ในที่สุด ผมอ่านข่าวเสาร์-อาทิตย์เป็น News Update ผมภูมิใจมากๆ ที่ได้มาอยู่ตรงจุดนี้
“และผมยังคงไม่หยุดที่จะตามความฝัน ผมไม่ยอมแพ้ เพราะผมเชื่อว่า สักวันต้องเป็นวันของผมอย่างแน่นอน”
เรื่อง: ชรินรัตน์ ถานกนก
ภาพ: วรวุฒิ วิชาธร
ผู้ช่วยช่างภาพ: จักรินทร์ คำราช
บทความน่าสนใจ
วิกฤติสร้างวีรบุรุษ กอล์ฟ-ทัศนัย โคตรทอง ผู้ประกาศข่าวเศรษฐกิจ ไทยรัฐทีวี
ม.ล.สราลี กิติยากร ตั้งใจบวชเนกขัมมนารี น้อมถวายเป็นพระกุศลแด่พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ
เฟื่องลดา สรานี สงวนเรือง นางฟ้าไอทีหน้าหวาน
ไก่ มีสุข แจ้งมีสุข แค่เปลี่ยนมุมคิด ชีวิตก็มีสุข (1)
ไก่ มีสุข แจ้งมีสุข แค่เปลี่ยนมุมคิด ชีวิตก็มีสุข (ตอนจบ)
