แค่สุขที่ได้ช่วย “ตำรวจช่าง” ฮีโร่แห่งท้องถนน
“สวัสดีครับ ผมเป็นตำรวจจราจรในโครงการพระราชดำริ มีความรู้ความสามารถเรื่องเครื่องยนต์ ผมขออนุญาตช่วยเหลือคุณนะครับ”
ท่ามกลางการจราจรที่ติดขัดในช่วงเวลาเร่งรีบของกรุงเทพมหานคร มีตำรวจจราจรกลุ่มหนึ่งที่เป็นเหมือน “หน่วยเคลื่อนที่เร็ว” พวกเขาสวมเครื่องแบบสีน้ำเงินแปลกตาที่ออกแบบมาเพื่อความคล่องตัวในการทำงาน โดยมาพร้อมกับมอเตอร์ไซค์สีขาวคันใหญ่และอุปกรณ์ซ่อมเครื่องยนต์ครบชุด ทำหน้าที่คอยช่วยเหลือรถที่จอดเสียบนท้องถนนอย่างรวดเร็ว
ตำรวจชุดนี้คือ “ตำรวจช่าง” ในโครงการจราจรพระราชดำริซึ่งเกิดขึ้นจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทรงห่วงใยพสกนิกรเรื่องปัญหาการจราจรในกรุงเทพมหานคร จึงได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ พร้อมพระราชดำริเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติในการบรรเทาปัญหาจราจรมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536
“หลังจากได้รับพระราชดำริมา เราก็มีการจัดตั้งทีม ‘ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ’ ซึ่งเดิมทีจะทำหน้าที่เกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกในด้านการจราจรเป็นหลัก แต่เมื่อทำงานมาได้สักระยะ จึงสรุปได้ว่าปัญหาการจราจรส่วนหนึ่งเกิดมาจากการที่มีรถจอดเสียกีดขวางตามเส้นทาง จึงเริ่มมีการจัดอบรมชุดตำรวจช่างที่มีความรู้ความสามารถด้านเครื่องยนต์ เพื่อเข้าไปช่วยบรรเทาปัญหารถเสียในช่วงเวลาเร่งด่วน”
พ.ต.ท.ไพโรจน์ จันทร์กระจ่าง สารวัตรงานปฏิบัติการจราจรตามโครงการพระราชดำริ 3 กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจจราจร เล่าที่มาของตำรวจช่างให้เราฟัง ก่อนที่จะมอบหน้าที่ให้ ร.ต.ท.พีระวุฒิ ใหม่อ่อง ตำรวจช่างตัวจริงเล่าเรื่องการทำงานต่อ
“ทุก ๆ วันกลุ่มตำรวจช่างจะกระจายกันไปตามจุดที่รับผิดชอบหากเจอรถจอดเสียอยู่ ก็จะจอดช่วยเหลือทันที หรือในกรณีที่เราได้รับเรื่องมาจากสายด่วน 1197 หรือได้รับการประสานมาจากทางจส. 100 และสถานีจราจรเพื่อสังคม เอฟเอ็ม 99.5 หากใครอยู่ใกล้จุดไหนก็จะรีบไปทันที
“เมื่อไปถึงเราก็จะรีบเคลื่อนย้ายรถที่จอดเสียให้พ้นจากการกีดขวางทางจราจรให้เร็วที่สุด จากนั้นจึงตรวจสอบเครื่องยนต์เบื้องต้น ปัญหาที่เจอก็มีทั้งแบตเตอรี่หมด ความร้อนขึ้นเครื่องยนต์ดับ สตาร์ทไม่ติด ฟิวส์ขาด หรือยางแตก ยางระเบิดก็มี กรณีแบบนี้เราช่วยได้ทันที เราก็จะจัดการให้เสร็จเลย โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียว”
ที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นรถเล็กหรือรถใหญ่ ตำรวจช่างก็สามารถจัดการแก้ปัญหาได้เหมือนกัน “เมื่อไม่นานมานี้เราเข้าไปช่วยรถเมล์ที่เบรกล็อก ซึ่งถ้ารถเสียแบบนี้ เอารถมาลากก็ลากไม่ได้เพราะล้อไม่หมุน ตำรวจช่างนี่แหละที่ต้องมุดเข้าไปช่วยปลดล็อกเบรกให้
“แต่ถ้าเป็นกรณีที่ซ่อมไม่ได้ เราก็จะประสานรถยกให้ หรือถ้าเจ้าของรถมีช่างประจำ เราก็จะช่วยอยู่ดูแลความเรียบร้อยให้จนกว่าจะซ่อมเสร็จเรียบร้อย อย่างน้อยมีเราอยู่เป็นเพื่อน ก็ทำให้เขาอุ่นใจ” แม้ในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ หรือวันหยุดยาวตามเทศกาล ทีมตำรวจช่างก็ยังทำงานบริการประชาชนอย่างเต็มที่ เพราะในช่วงเวลานี้มักจะเป็นช่วงเวลาที่มีการจราจรหนาแน่นมากกว่าปกติ เนื่องจากมีประชาชนเดินทางออกต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก
“เทศกาลหยุดยาว สงกรานต์ปีใหม่ พวกเราจะระดมพล ทำงานหนักเป็นสองเท่า เพราะเราต้องไปอยู่ประจำตามจุดบริการที่รัฐบาลจัดตั้ง อย่างที่สถานีขนส่งหมอชิต รถติดเยอะมาก ทำให้มีรถจอดเสียจากปัญหาระบบความร้อน เราก็จะไปประจำอยู่ที่นั่น หรือที่ผ่านมาเราก็ไปประจำที่ปั๊ม ปตท.ตรงทางด่วนบางนาขาออก เพื่อให้บริการตรวจสภาพรถก่อนออกเดินทาง เช่น เช็กลมยาง ตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ สายพาน เพื่อให้ประชาชนเดินทางด้วยความปลอดภัยที่สุด”
นอกจากนี้ตำรวจช่างยังทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในการจราจรให้กับผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บที่ต้องนำส่งโรงพยาบาล หรือหลายครั้ง หากไม่สามารถนำส่งโรงพยาบาลได้ทันเวลา ตำรวจช่างก็มีโอกาสได้ช่วยทำคลอดในเบื้องต้น เพื่อความปลอดภัยของแม่และเด็ก
แม้ว่าการเข้ามาเป็นตำรวจจราจรในโครงการพระราชดำรินี้จะไม่มีเบี้ยเลี้ยงหรือเงินเดือนพิเศษ มีเพียงโครงการอาหารกลางวันที่จัดไว้ให้เท่านั้น แต่ตำรวจช่างทุกนายล้วนสมัครใจที่จะเข้ามาทำงานบริการประชาชนด้วยความเต็มใจและภาคภูมิใจ เรียกได้ว่าตำรวจทุกนายในโครงการนี้ทำงานด้วยจิตอาสาจริง ๆ
“ตอนแรกผมอยู่หน่วยอื่น แต่อยู่ตึกเดียวกันกับตำรวจช่างครับทุกวันเวลาลงมาพักจะได้ยินตำรวจในโครงการคุยกันว่าเช้านี้ได้ไปช่วยคนมานะ ผมรู้สึกว่าเป็นหน่วยงานที่ดีมากเลย จึงสมัครใจเข้ามาทำงานที่นี่ พอมาอยู่แล้วก็ภูมิใจที่ได้เป็นตำรวจในโครงการพระราชดำริ และได้ทำงานที่เป็นประโยชน์อย่างมากได้เห็นรอยยิ้มของประชาชนที่เราเข้าไปช่วยเหลือทุกวัน” ด.ต.ศักดิ์ชาย กระแสร์ญาณ หนึ่งในทีมตำรวจช่างเล่าถึงความรู้สึกประทับใจในการทำงานด้วยรอยยิ้ม
“บางคนอาจสุขใจเมื่อได้เป็นผู้รับ แต่เราได้ช่วยเหลือคนทุกวัน เรากลับรู้สึกสุขใจที่ได้เป็นผู้ให้ ได้ช่วยเหลือ ทำให้เขาได้คลายความเดือดร้อน” ด.ต.กิตติพงศ์ ด่วงแก้ว เล่าเสริม ก่อนที่ ด.ต.ศักดิ์ชายจะพูดทิ้งท้ายว่า
“ตอนแรกที่เราเจอหน้าเขา เขาอาจจะเป็นทุกข์ แต่เมื่อเราช่วยซ่อมรถให้เขาเสร็จแล้ว เขาก็จะยิ้มแย้มแจ่มใส ขอบคุณเรา พอเราบอกว่าเป็นตำรวจในโครงการพระราชดำริของในหลวงบางคนยกมือไหว้ท่วมหัว นึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ทำให้เราปลื้มใจและภูมิใจมาก รู้สึกว่าอยากทำงานที่นี่ตลอดไป”
ตำรวจช่างทุกนายทำงานด้วยความสุขใจ เพราะคุณค่าทางจิตใจที่ทุกคนได้รับกลับมานั้นมีค่าเกินกว่าสิ่งตอบแทนใด ๆ…
สายด่วนสำหรับแจ้งเหตุรถเสียและเหตุฉุกเฉินบนท้องถนน
สายด่วน 1197 ศูนย์บริการข้อมูลจราจร
สายด่วน 1137 หรือ *1808 สถานีวิทยุ จส.100
สายด่วน 1255 สถานีวิทยุจราจรเพื่อสังคม FM 99.5
เรื่อง เชิญพร คงมา ภาพ สรยุทธ พุ่มภักดี, โครงการจราจรพระราชดำริ
สไตลิสต์ สุธีร์ รติวัฒน์บุญญา