มาร์ตติ อาห์ติซารี พ่อผู้ให้สันติภาพแก่โลก

มาร์ตติ อาห์ติซารี พ่อผู้ให้สันติภาพแก่โลก

สันติภาพเป็นสิ่งสวยงาม ที่ใดไม่มีสันติภาพ ที่นั้นย่อมมีแต่ความเศร้าโศกและความเดือดร้อนกระจายอยู่ทั่วทุกหย่อมหญ้า

มาร์ตติ อาห์ติซารี (Martti Ahtisaari) อดีตประธานาธิบดีคนที่ 10 ของฟินแลนด์ วัย 81 ปี เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2008 คือผู้ทำหน้าที่สลายความขัดแย้งทางการเมือง ยุติสงครามและความรุนแรงในดินแดนสามทวีป คือ แอฟริกา เอเชียและยุโรป ได้สำเร็จ

เขาเป็นผู้ที่ทำให้กรณีพิพาทในเรื่อง เอกราชของโคโซโว ซึ่งยืดเยื้อมานานเกือบ 20 ปียุติลง นับเป็นเพียงไม่กี่ตัวอย่างจากอีกหลายสิบผลงานการสร้างสันติภาพของบุรุษผู้นี้

ชีวิตนับล้าน หลากหลายเชื้อชาติ ต่างศาสนา กลับมามีรอยยิ้มสดใสได้ในวันนี้ ด้วยเพราะปณิธานที่อาห์ติซารียึดมั่นมากว่าสี่ทศวรรษว่า “เขาจะ“ทำงานเพื่อลดความขัดแย้งและสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างกัน””

อาห์ติซารีกล่าวถึงจุดเริ่มต้นของการเป็น “นักรณรงค์เพื่อสร้างสันติภาพ” ว่ามีที่มาจากช่วงชีวิตในวัยเด็ก ซึ่งเขาได้เรียนรู้การใช้ชีวิตในฐานะพลเมืองของดินแดนปกครองตนเอง (ฟินแลนด์) ภายใต้จักรวรรดิโซเวียต และประสบกับพิษภัยสงครามที่ทำให้พ่อต้องจากบ้านไปเพื่อรับใช้ชาติ แม่ต้องพาเขาระหกระเหินอพยพไปยังเมืองเอาลู (Oulu) ทางตะวันออกของฟินแลนด์ เพื่อโอกาสทางอาชีพและการศึกษาที่ดีกว่า

 

 

อาห์ติซารีสำเร็จการศึกษาด้านศึกษาศาสตร์ และเดินทางไปเป็นครูเพื่อช่วยพัฒนาระบบการศึกษาในปากีสถานอยู่ถึง 3 ปี แต่กระนั้นเขาก็ยังรู้สึกว่า ““นี่ยังไม่ใช่สิ่งที่ต้องการอย่างแท้จริง”” อาห์ติซารีจึงเดินทางกลับฟินแลนด์ และหันเหชีวิตเข้าสู่เส้นทางนักการทูตและนักการเมือง เพื่อสานฝันของตนในการสร้างโลกแห่งสันติภาพอย่างที่ใจต้องการ

 

 

ภายหลังพ้นจากตำแหน่งประธานาธิบดี อาห์ติซารีได้รับเลือกเป็นผู้แทนพิเศษขององค์การสหประชาชาติ และก่อตั้งองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรชื่อ Crisis Management Initiative (CMI) ขึ้นเมื่อปี 2000 เพื่อทำงานสร้างสันติภาพและแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศทั่วโลก

 

 

นอกจากความมุ่งมั่นในการสร้างสันติภาพให้แบ่งบานในโลกใบใหญ่แล้ว ในโลกใบเล็กของอาห์ติซารีเอง เขาก็ได้ตั้งจุดหมายไว้ไม่ต่างกัน ในปี พ.ศ. 2511 เขาและเอวา เออร์เมลี ไฮวาริเนน (Eeva Irmeli Hyvãrinen) ร่วมกันสร้างครอบครัวเล็กๆ ขึ้นด้วยความรักความเข้าใจ ทั้งสองมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน คือมาร์โก้ (Marko) เด็กหนุ่มผู้เติบโตขึ้นมาด้วยหัวใจและความคิดอิสระ ปัจจุบันนอกจากมาร์โก้จะนั่งเก้าอี้ผู้บริหารของ Dopplr บริษัทผู้ให้บริการทางด้านโซเชียลเน็ทเวิร์กแล้ว เขายังสร้างผลงานทางดนตรีด้วยการคว้ารางวัลแกรมมี่ในฐานะศิลปินหน้าใหม่อีกด้วย

 

 

อาห์ติซารีและเอวาเชื่อมั่นในความสำคัญของการให้เวลากับลูก ทั้งคู่พยายามอย่างยิ่งที่จะเป็นทั้งพ่อแม่ เพื่อน พี่ และครูที่พร้อมจะเปิดโอกาสให้ลูกซักถามได้ทุกเรื่อง ทุกเวลา และไม่ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นของลูก

อาห์ติซารีเคยเปิดใจว่า ““ผมอยากใช้เวลากับครอบครัว ภรรยาและลูกให้มากที่สุด”” แม้ว่าในวันทำงานกว่า 200 วันต่อปี เขาจะต้องใช้ชีวิตห่างไกลจากครอบครัวอยู่ตามภูมิภาคต่างๆ ของโลก แต่การติดต่อพูดคุยกับภรรยาและลูกก็เป็นสิ่งที่อาห์ติซารีมีความสุขที่จะทำอยู่เสมอ ไม่ว่าจะทางโทรศัพท์หรืออีเมล

ความสุขที่แท้จริงของมาร์ตติ อาห์ติซารี ไม่ใช่การได้เป็นเจ้าของรางวัลใหญ่ระดับโลก หรือการได้ขึ้นนั่งตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของประเทศ แต่คือการได้เห็นต้นกล้าต้นน้อยของเขาเติบใหญ่และยืนต้นด้วยตนเองได้อย่างมีความสุขและเป็นอิสระ เช่นเดียวกับการติดตามการผลิดอกออกผลของเมล็ดพันธุ์แห่งสันติภาพที่เขาเพาะหว่านไว้ในหลายภูมิภาคทั่วโลก

เท่านี้หัวใจของพ่อผู้ให้อย่าง มาร์ตติ อาห์ติซารี ก็รู้สึกอิ่มเอมอย่างที่สุดแล้ว

Secret Box
•• ที่แห่งใดมีความรัก ความเมตตา ปราศจากความเห็นแก่ตัว ที่แห่งนั้นย่อมมีสันติภาพเกิดขึ้น
•• ไม่มีชัยชนะใดจะยิ่งใหญ่เท่ากับการชนะใจคน
•• เสียงที่ทรงอำนาจ แต่สร้างความสุข คือเสียงปรบมือโห่ร้องด้วยความยินดี ไม่ใช่เสียงจากอาวุธยุทโธปกรณ์

 

ที่มา  นิตยสาร Secret

ภาพ  cmi.fi, Kaleva.fi, plus.iltalehti.fi