แพนเค้ก เขมนิจ กับ การเรียนรู้บนโลกที่ไม่หยุดนิ่ง
แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์ ไม่เพียงเป็นนักแสดงสาวชั้นแนวหน้าของเมืองไทย แต่เธอยังมีอีกหลายบทบาทในชีวิต ทั้งลูกสาวคนโตของครอบครัว นักศึกษาปริญญาเอกรวมไปถึงงานสาธารณกุศล จนสื่อมักตั้งฉายาว่า “นางฟ้า” สำหรับเธอแล้ว ทุกสิ่งที่ได้ทำคือการเรียนรู้ ซึ่งเปลี่ยนแปลงได้เสมอตามกาลเวลา
ชีวิตในวัยเด็กเป็นอย่างไรคะ
แพนเติบโตมาเหมือนเด็กทั่วไป เป็นเด็กเรียบ ๆ ง่าย ๆ คุณแม่พยายามสนับสนุนให้ทำกิจกรรมเพื่อสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง และเป็นพื้นฐานในการหาสิ่งที่ชอบจริง ๆ เช่นเล่นกีฬา เทนนิส กอล์ฟ เรียนร้องเพลงเรียนเต้น ขณะเดียว กันคุณแม่ก็รู้ว่าเราแอบชอบเรื่องความสวยความงาม เพราะชอบอยู่ในห้อง เล่นแต่งตัวใส่เสื้อผ้า เล่นละครหน้ากระจกคนเดียว แต่ยังขี้อาย ไม่ชอบออกมาเล่นให้คนอื่นดู จึงไม่เคยคิดจะเข้าวงการ
จนมาถึงจุดเปลี่ยนตอน ม. 5 แพนชนะการประกวดไทยซุปเปอร์โมเดลปี 2004 ชีวิตเปลี่ยนภายในคืนเดียว แพนและคุณแม่ต้องตัดสินใจร่วมกันว่าจะเริ่มต้นทำอะไรก่อนดี ต้องเตรียมตัวและดูแลตัวเองอย่างไร ตอนนั้นรู้สึกตื่นเต้นกับเรื่องใหม่ที่จะได้ทำ แพนปรึกษาคุณแม่ ท่านบอกว่า ถ้าตัดสินใจเลือกมาเส้นทางนี้แล้วก็ต้องเดินหน้า เพราะคุณแม่จะตัดสินใจออกจากงานเพื่อมาดูแลแพนโดยเฉพาะ เราจึงเดินมาพร้อมกันตั้งแต่นั้นจนถึงทุกวันนี้
คุณแม่สอนอะไรบ้างคะ
คุณแม่ยื่นโอกาสให้เราไปเรียนรู้เองและให้สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกเสมอ แม้บางอย่างจะเกินกำลัง แต่คุณแม่ไม่เคยปิดกั้นโอกาส เวลาที่แม่ให้ทำนู่นทำนี่ มีบ้างที่รู้สึกขี้เกียจ ไม่อยากทำ แต่พอเราโตขึ้น ได้ทำงานตรงนี้ จึงได้รู้ว่าทุกอย่างที่แม่พยายามให้ทำตั้งแต่เด็กนั้น ทุกวันนี้ได้ใช้หมดเลย แม้ไม่ได้ถึงขั้นมืออาชีพ แต่เราก็ได้นำมาใช้
เห็นความเปลี่ยนแปลงของตัวเองไหมคะ
แพน มองว่าเวลา ทำให้ทุกคนต่างมีบทบาทของตัวเอง เพิ่มมากขึ้น เช่น เคยเป็นลูก วันหนึ่งก็ต้องเป็นพ่อเป็นแม่ เคยเป็นนักเรียนหรือลูกศิษย์ โตขึ้นมาก็เป็นอาจารย์เป็นผู้บริหาร เราต้องปรับตัวตามโลกให้ทันในแต่ละวัน ตอนนี้โลกของแพนคือการทำงาน ความคิดความอ่าน หรือคำพูดของเราอาจซึมซับมาจากผู้ใหญ่ตั้งแต่เด็ก ๆ เมื่อก่อนแพนไม่ได้พูดเยอะขนาดนี้ เรียกได้ว่าไม่พูดเลย ชอบอยู่เงียบ ๆ เพราะไม่อยากคิดหรือรู้สึกว่าพูดไปแล้วถูกหรือผิดไหม เลยไม่พูดดีกว่า เมื่อเข้ามาอยู่ในวงการก็เหมือนกับฝึกเราไปในตัว ทั้งการพูด การตอบคำถามการคิดในเรื่องต่าง ๆ ทั้งมีสาระและไม่มีสาระเป็นแบบฝึกหัดที่ดีสำหรับแพนเหมือนกัน
สนใจงานบุญ โดยเฉพาะด้านพุทธศาสนาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ
แพนกับครอบครัวชอบทำกิจกรรมแบบนี้กันมาตลอด เราทำกันเองอยู่แล้ว ทั้งเข้าวัดทำบุญ บริจาค หรือไปสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าและผู้สูงอายุ อย่างวิ่งการกุศลแพนก็วิ่งมานานมากแล้ว งานตรงนี้ทำให้รู้สึกว่า อย่างน้อยเราได้เป็นส่วนเล็ก ๆ ในการช่วยเหลือผู้อื่น ได้ทำบุญและร่วมกิจกรรมในครอบครัวด้วย เป็นช่องทางที่ทำให้เราสามารถบอกต่อให้คนสนใจทำบุญมากขึ้น การทำบุญทำได้หลายอย่าง ไม่ใช่แค่เข้าวัดอย่างเดียว ยังมีอะไรในสังคมเยอะมากที่ต้องการความช่วยเหลือ ที่ต้องการกระบอกเสียง ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือหมาแมว สิ่งแวดล้อม หรืออะไรก็ตาม สำหรับแพน การทำบุญคือการให้ด้วยความตั้งใจ
วันนี้คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จในชีวิตหรือยังคะ
แพนไม่ได้มองว่าจุดสูงสุดในชีวิตหรือการประสบความสำเร็จที่สุดคือตรงไหนหรือต้องเมื่อไหร่ รู้สึกแค่ว่าแต่ละวันที่เรามีโอกาสได้ทำก็ทำให้เต็มที่ และประเมินตนเองในใจว่าเราทำได้ดีอย่างที่ตั้งใจหรือยังบางวันกลับบ้านมาอาจรู้สึกไม่ดี หรือคิดว่าตัดสินใจผิดพลาดก็ได้
เพราะฉะนั้นจึงไม่ได้วางเป้าหมายอะไรเพียงแค่ทำทุกวันให้ดี มีความสุข ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ ชีวิตเราจะต้องการอะไรไปมากกว่านี้ ถ้าวันข้างหน้ามีโอกาสได้ทำอะไรมากกว่านี้ก็นับเป็นกำไรในชีวิต เรายังคงต้องเดินหน้าทำงานต่อไป มีคนถามว่าจะหยุดทำงานเมื่อไหร่หรือแค่ไหนจึงจะพอ แพนว่าตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่ เราก็ต้องทำงานและมีความสุขในสิ่งที่เราทำต่อไป
โลกหมุนไป เราเองก็เลือกใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้เช่นกัน
เรื่องโดย : อุราณี ทับทอง
ภาพโดย : สุเมธ วิวัฒน์วิชา, วรวุฒิ วิชาธร
บทความที่น่าสนใจ
เด็กดื้อได้ดีมีอยู่จริง อุ๋ย บุดด้าเบลส
นาย ณภัทร เสียงสมบุญดวงใจของซิงเกิ้ลมัม กับวิธีสอนลูกที่ใช้ธรรมนำทาง
3 สุขที่สุดในชีวิตของพระเอกตลอดกาล – เคน ธีรเดช