กาญจนบุรี

ลุยเที่ยว เมืองมัลลิกา – พิพิธภัณฑ์ทหารผ่านศึกเวียดนามใน กาญจนบุรี แบบวันเดียวจบ !

ตะเวนเที่ยว วันเดียวจบ รอบนี้ goodlifeupdate ขอพาทุกคนไปเที่ยวจังหวัดใกล้ๆ ไม่ต้องค้างก็เที่ยวได้ อย่าง กาญจนบุรี กันบ้างค่ะ สถานที่ขึ้นชื่อของจังหวัดนี้ก็มีมากมาย ครั้งนี้ เราขอพาทุกคนมาเปิดหูเปิดตากันที่พิพิธภัณฑ์ทหารผ่านศึกเวียดนาม ชิมอาหารรสจัดจ้านจาก ร้านอาหารน้องเอ และปิดท้ายสวยๆ ที่ เมืองมัลลิกา กันค่ะ ขอบอกเลยว่าถึงจะเที่ยววันเดียว แต่ก็เที่ยวคุ้มเเน่นอน เพราะแต่ละที่เด็ดๆ ทั้งนั้น !

 

ลุยเที่ยว เมืองมัลลิกา – พิพิธภัณฑ์ทหารผ่านศึกเวียดนามใน กาญจนบุรี แบบวันเดียวจบ !

 

มาเริ่มกันที่ พิพิธภัณฑ์ทหารผ่านศึกเวียดนาม กันดีกว่าค่ะ เเดดกำลังร้อน ตอนที่รถของเรามาจอดถึงหน้า พิพิธภัณฑ์ รอบด้านมีการตั้ง ยานพาหนะ ที่ใช้ในสงครามเมื่อครั้งอดีตเอาไว้ อย่าง เฮลิคอปเปอร์ รถถังหุ้มเกราะ แน่นอนว่าพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ยังได้รวบรวมทุกกลิ่นอาย และความทรงจำ ของสงครามในครั้งนั้น เก็บรักษาเอาไว้อย่างดีในอาคาร อันเป็นอนุสรณ์สถานแห่งนี้ เพื่อระลึกว่า ครั้งหนึ่ง ไทยเราก็เคยมีทหารกล้าที่ได้เข้าร่วมรบในสงครามครั้งนี้ด้วยค่ะ

รถถัง

ยานพาหนะทั้งหลาย เราสามารถขึ้นไปเซลฟี่สวยๆ ได้ด้วยนะเออ

 

บรรยากาศได้ฟิลสนามรบมั่กๆ ด้านในอาคาร มีแบบจำลองพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ขนาดย่อส่วน และมีของที่ระลึก – เครื่องแต่งกายทหารขายค่ะ

 

พิพิธภัณฑ์ทหารผ่านศึกเวียดนาม

มีพี่เจ้าหน้าที่แต่งตัวเป็นทหารเวียดนามด้วยละ แน่นอนว่าเราเข้าไปขอถ่ายรูปด้วยเรียบร้อย ^^

 

เข้ามาด้านใน มีพี่ทหาร คอยพูดบรรยายประวัติศาสตร์คร่าวๆ ที่มาที่ไปของสงคราม ภารกิจของทหารไทย แล้วเล่าถึงที่มาของกองพลเสือดำ (Black Tiger Unit) ให้พวกเราฟังกันแบบจัดเต็ม จดเเทบไม่ทัน (ฮา) พี่เขาเล่าว่า ตราเสือดำนี้ ได้ความคิดริเริ่มาจาก พลตรี ทวี ดำรงหัด ผู้บัญชาการกองพลทหารอาสาสมัคร ในสมัยนั้น และได้รับการอนุมัติให้ใช้เป็น ตราประจำหน่วย อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2511 รู้จักกันในชื่อ กองพลเสือดำ ค่ะ

 

โล่เกียรติยศ ที่กองพลทหารอาสาสมัคร มอบให้ เสนาธิการทหารบก ในขณะนั้น

 

ข้าวของเก่าๆ ที่ยังแฝงกลิ่นอายของเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา

 

ตู้จัดแสดง เครื่องแต่งกายและอาวุธยุโธปกรณ์ ของกองทหารอาสา และรวมภาพถ่ายเหตุการณ์เมื่อวันวาน

 

อนุสรณ์สถาน เพื่อระลึกถึงเหล่าทหารกล้า ผู้เสียสละ ในสงครามครั้งนั้น

 

ภายในพิพิธภัณฑ์ มีการจัดแสดงหุ่นจำลอง และนิทรรศการที่บรรยายถึงเหตุการณ์ใน ประวัติศาสตร์สงครามเวียดนาม ที่ผ่านมา เพื่อระลึกถึงทหารผ่านศึกทุกคน ที่เคยผ่านสมรภูมิครั้งนั้นมา

นอกจากนี้ ยังมีปะติมากรรมจำลองเหตุการณ์สำคัญต่างๆ เช่น การรบที่บิณห์สัน ภารกิจหน่วยเรือซีฮอร์ส วีรกรรมหน่วยบินวิคตอรี่ รวมถึง ตู้จัดเเสดง ที่เก็บภาพถ่าย เหรียญตรา และของใช้ในสงครามยุคนั้น จัดแสดงไว้ให้คนที่สนใจ ได้เข้ามาเดินชมกันด้วยค่ะ เหมาะสำหรับคนที่อยากมาศึกษา หรือระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญครั้งนี้มากๆ

 

ร้านอาหารน้องเอ

เดินดูพิพิธภัณฑ์จนเริ่มหิวแล้ว มาหาอะไรอร่อยๆ เติมเต็มกันบ้าง รถบัสมาจอดที่หน้า ร้านน้องเอ ร้านอร่อยอีกในกาญจนบุรี นักเที่ยวที่กำลังหิวโหยอย่างเรา เลยรีบเดินลงมาสำรวจเมนูทันที แต่ก่อนจะได้ลิ้มรสอาหารไทย สายตาก็ไปสะดุดกับบรรยากาศสวยๆ ภายในร้านซะก่อน สไตล์การจัดร้านของที่นี่ สวยดึงดูดสวยตา ด้วยบรรดาภาพประดับกำแพง สไตล์วินเทจ ชวนให้เราเข้าไปเก็บภาพกันอย่างสนุกสนาน

คือมุมถ่ายสวยๆ มันเยอะจริงๆ นะ

 

อาหารในร้านอร่อยมากค่ะ เมนูไทยๆ ที่พวกเราไปชิมมา คือ ปลาทับทิมทอด คั่วกลิ้งกระดูกอ่อน ทอดมันปลากราย แกงเขียวหวานปลากราย หมูแดดเดียว ผัดวุ้นเส้นปลาหมึก และต้มยำทะเล ใครชอบอาหารรสจัด รับรองว่าต้องถูกใจเป็นพิเศษแน่ๆ

 

จัดร้านน่านั่งมากจ้า เที่ยวเหนื่อยๆ ได้มานั่งทานของอร่อย ในร้านสวยๆ แบบนี้ มันถูกใจใช่เลย > <

 

หลังทานกันอิ่มแล้ว ก็มาถ่ายภาพเก็บความประทับใจไว้สักหน่อยจ้า

 

ใครผ่านมาแถวนี้ อยากชิมอาหารรสชาติดี บรรยากาศก็ดี แวะมา ร้านน้องเอ กันได้ค่า

 

เมืองมัลลิกา

หลังเติมพลังงานกันจนเต็มถังแล้ว ก็มาลุยกันต่อที่ เมืองมัลลิกา ค่า พวกเรา goodlifeupdate ต้องรีบเที่ยว เดี๋ยวไม่คุ้ม แต่ใครจะเดินชิลๆ ก็ได้เหมือนกันนะ บอกเลยว่าที่นี่ สวยวิวดี น่าเซลฟี่กันตั้งแต่ด้านหน้าเมืองแล้ว

ที่นี่ มีค่าเข้าชม ราคาผู้ใหญ่อยู่ที่ 250 บาท ส่วนเด็ก และคนชราอยู่ที่ 120 บาทค่า สำหรับใครที่อยากจะให้เข้ากับบรรยากาศย้อนยุคไปอีก ที่นี่ มีให้เช่าชุดไทย สมัย รศ.๑๒๔ ใส่กันด้วยหนา

 

ต้อนรับนักเที่ยวอย่างเราด้วยรถลากโบราณกันแบบนี้ จะพลาดได้ยังไง

 

ว่าแล้วก็ขึ้นมานั่งซะเลย พี่ๆ คนลากรถมีบริการถ่ายรูปให้ด้วยค่ะ ได้รูปสวยๆ กลับบ้านแล้วเรา

 

ผังเมืองมัลลิกา จุดเเรกที่เราเข้ามาคือ จุดที่ 13 เรียกว่าสะพานหันค่ะ บริเวณเกาะกลางคือร้านค้า และบ้านเรือนทรงโบราณ มีขายของกินอร่อยๆ เยอะเเยะเลยละ

 

จุดนี้เรียกว่า สะพานหัน เป็นสะพานไม้โค้งกว้าง สองข้างทาง เป็นห้องแถวขนาดเล็กเรียงรายอยู่รอบๆ เขาเล่าว่าเป็นสะพานที่ รัชกาลที่ 5 ชอบเสด็จประพาส เพื่อซื้อผลไม้แห้ง ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ล่ะค่ะ

 

ในเมืองมัลลิกา เขาใช้เงินรู เพื่อซื้อของกันค่ะ พวกเราเข้าเมืองมาแล้ว ก็ต้องหลิ่วตาตาม ไปเเลกเงินรูมาใช้กันบ้าง ของทานเล่นในนี้ก็อร่อยถูกใจสุดๆ จ่ายม่วนขนาด เกือบหมดตัวกลับบ้านแน่ะ

 

สินค้าที่วางขายในห้องเล็กๆ บนสะพานหัน

 

มีคุณแม่ค้า นั่งคุยภาษาโบราณกันอยู่ทุกที่เลย เกือบอินว่าย้อนเวลากลับมาแล้วนะเนี่ย

 

ในบรรดาสินค้า เราชอบหมวกสานยักษ์ใบนี้มากที่สุดแล้วค่ะ บังแดดได้ทั้งตัวจริงๆ ประทับใจจ

 

บรรยากาศในร้านไอศรีมโบราณ เกือบทุกที่ในเมืองนี้ เป็นวิวถ่ายรูปสวยๆ ที่น่าชวนเพื่อนๆ มาเดินเล่นด้วยกันมากๆ

 

จ่ามงกุฎกระทงนี้ สวยจนอดใจไม่ไหว สุดท้ายก็ใช้เงินรูซื้อมาจนได้ โดนล่อลวงไง สวยขนาดนี้ ยอมม

 

รายละเอียดสถานที่ :

เมืองมัลลิกา ตั้งอยู่ที่ ตำบลสิงห์ อ.ไทรโยค กาญจนบุรี

สถานที่เปิดให้เข้าใช้บริหารตั้งแต่ 9.00 – 19.00น. แต่เปิดจำหน่ายตั๋วถึง 17.30น.

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถโทรติดต่อสอบถาม ที่เบอร์ 034-540-884-6 ได้เลยค่า

 

ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภาคกลาง และ สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก

 

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

One day trip : พาเที่ยว ล้ง1919 และ อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

ชวน ล่องเจ้าพระยา กินลมชมเรือพระที่นั่ง สักการะสองอารามหลวง แบบ One day trip !

ผ่อนกายคลายใจ ไหว้พระ ชมธรรมชาติที่บ้านทองเอน จ.สิงห์บุรี

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.