เสริมดวงให้สดใสด้วยกำไลหินนำโชค

GoodlifeUpdate ชวนสาวๆ มาอัพเดตเทรนด์แฟชั่นกำไลหินเสริมดวง หลังจากที่เคยได้รับความนิยมจากสาวๆ อย่างแพร่หลายเมื่อ 5 – 6 ปีก่อน และในปัจจุบันเทรนด์เสริมดวงเสริมโชคในรูปแบบกำไลหินได้กลับมาอีกครั้ง วันนี้ทีมงานจึงได้ชวนอาจารย์เอ้ – ศศิพร จันทร์ศิริ หมอดูชื่อดังจาก a ดวง ชุมชนออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุด และเจ้าของเพจ ดูดวง by หมอเอ้ Angel Kiss Tarot ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูดวงโดยไพ่ทาโรต์ พร้อมให้คำแนะนำในการแก้ปัญหา เสริมดวง เสริมโชค ด้วยหินนำโชคต่างๆ มาพูดคุยกันในหัวข้อการเลือกหินนำโชคเสริมดวงตามราศี

สาวๆ ที่กำลังสนใจกำไลหิน แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง หรือใครที่ใส่อยู่แล้วอยากหามาใส่เพิ่มเสริมดวงให้ปังๆ ตลอดปี รีบหากระดาษมาจดลิสต์ไว้ แล้วไปฟังคำแนะนำจากหมอเอ้กันเลยค่ะ

 

ความเชื่อเรื่องหินนำโชค

คำว่า หินนำโชค ในทางตะวันตกจะเรียกว่า  คริสตัล (Crystal) เจมส์ สโตน (Gemstone) หรือ มิเนรัล (Mineral) แต่สำหรับคนไทยเรา หากพูดว่า “คริสตัล” ก็อาจจะทำให้นึกถึงคริสตัลราคาแพง หรือสิ่งสังเคราะห์ขึ้นที่ไม่ได้เกิดตามธรรมชาติ เราก็เลยมีคำเรียกหินเหล่านี้ว่า “หินนำโชค” “หินเสริมดวง” “หินแก้ชง” โดยจะนำหินมาร้อยใส่เป็นเครื่องประดับเพียงอย่างเดียว หรือนำวัตถุมงคลต่างๆ มาร้อยเพิ่มอย่างที่กำลังนิยมอยู่ในปัจจุบันก็ได้

สำหรับความเชื่อเรื่องหินนำโชคนั้น จริงๆ แล้วมีความเชื่อมานาน ก่อนจะมาเป็นเทรนด์แฟชั่นแบบปัจจุบันนี้ เช่น คนจีนที่นิยมใส่หยก หรือนำหินหยกมาเจียระไนเป็นรูปปั้นเทพต่างๆ อย่างพระสังกัจจายน์ หรือปี่เซียะ พกติดตัวไว้ ส่วนคนไทยนั้นนิยมใส่กันก็คือ พลอยนพเก้า ที่มีความเชื่อเรื่องการใส่ตามเดือนเกิดกันมานานแล้ว ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็คือ หินแร่ธรรมชาติ หรือหินงอก หินย้อยที่เราพบเห็นทั่วไป ไม่ต่างจากหินแกรนิตที่ใช้ทำโต๊ะอาหาร หรือเฟอร์นิเจอร์ แต่มีการรวมตัวกับแร่ธาตุในบริเวณนั้นจนกลายเป็นสีสัน

หินที่เกิดตามธรรมชาติเหล่านี้ ก็จะมีชื่อตามวิทยาศาสตร์อยู่ และมีมีพลังงานทางวิทยาศาสตร์เหมือนหินทั่วๆ ไป หากเราลองมองในแง่ของถ่านหิน เมื่อนำมาแปรรูปก็เกิดพลังงาน แสดงว่าต้องมีประจุพลังงานอะไรบางอย่างอยู่ นั่นหมายความว่า หินอื่นๆ ก็ต้องมีพลังงานอยู่เช่นเดียวกัน เช่น ในโลกของเรามีหินควอตซ์อยู่ประมาณ 60-70% อยู่ข้างใต้แผ่นดิน ซึ่งควอตซ์ก็คือหินใสๆ แต่การเกิดสีของเขาขึ้นอยู่กับ ตำแหน่งการเกิด ตรงนั้นมีแร่สีอะไร หินก็จะรวมตัวกันเป็นสีสันธรรมชาติ เช่น มีแร่สีชมพู ก็จะออกมาเป็นสีชมพูใส ที่เราเรียกกันว่า โรสควอตซ์ ที่ช่วยเสริมดวงความรัก หรือถ้าผสมสีดำ ก็จะออกมาเป็นสีดำๆ เรียกว่า สโมคกี้ควอตซ์ ที่มีความเชื่อว่าช่วยปกป้องอันตรายให้แก่ผู้สวมใส่

เคล็ดลับการเลือกหินนำโชค

หมอเอ้เล่าต่อว่า เราไม่จำเป็นต้องใส่หินทุกชนิด เลือกที่เราพอใจและมุ่งไปที่ปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนดีกว่า “หินเป็นสิ่งที่มาจากธรรมชาติอยู่แล้ว เราสามารถนำมาสวมใส่ได้เลยไม่ได้มีข้อห้ามอะไร เหมาะกับทุกๆ คนอยู่แล้ว และไม่จำเป็นต้องมีทุกอย่างทุกชนิด เลือกที่ตัวเราชอบดีกว่า เราสนใจเรื่องบางเรื่องก็พอ เช่น เรื่องที่เรากำลังมีปัญหา แต่บางคนบอกว่ามีปัญหาทุกอย่างเลย งั้นขอกำไลที่เสริมทุกอย่างเลย แบบนี้เราก็จะแนะนำว่า ใจเย็นก่อนนะ (หัวเราะ) เลือกมาอย่างเดียวก่อน แล้วก็ใส่แค่หินชนิดเดียวดูก่อน เพื่อโฟกัสกับสิ่งที่เป็นปัญหาของคุณ  ปัญหาของคุณคืออะไรก็เลือกหินไปชนิดเดียว แล้วคุณลองไปอยู่กับเขาลองสัก 3 เดือน ดูว่ามันค่อยๆ ดีขึ้นไหม ซึ่งระหว่างใส่ก็ต้องประพฤติปฏิบัติตัวดีๆ คิดดีทำดี ส่งเสริมพลังหิน  ลองคิดดูว่าถ้าคุณไปบูชาวัตถุมงคลมา แต่ไม่ทำมาหากิน แบบนี้มันก็ไม่ได้เกิดผลอะไร ขอให้เชื่อประมาณ 10%  ถือว่าคุณมาพกไว้ติดตัวเพื่อเสริมดวง แล้วที่เหลือขอให้เกิดจากตัวเรา สติปัญญาของเราดีกว่า”

 

ก่อนสวมใส่กำไลหินทำอะไรบ้าง

อีกหนึ่งคำถามที่หมอเอ้มักได้รับบ่อยๆ คือ ก่อนใส่หินนำโชคต้องบูชาปลุกเสกอะไรก่อนไหม แล้วต้องใส่ตลอดเวลาไหม กลัวว่าจะไม่ได้ผล  โดยหมอเอ้บอกกับเราว่า  “ไม่จำเป็นต้องใส่ตลอดก็ได้ อาจจะเป็นเครื่องประดับที่ใส่บ่อยๆ หรือเป็นของที่เราพกติดตัวได้ง่ายๆ เช่น พวงกุญแจ หรือนำใส่ถุงพกไว้ในกระเป๋าก็ได้ หรือซื้อก้อนหินเป็นก้อนๆ มาตั้งโต๊ะ อาจจะตั้งไว้ในห้องทำงานหรือห้องนอน ที่เราใช้ชีวิตอยู่เป็นประจำ อยู่กับเขาประมาณ 3 เดือน แล้วลองดูว่า มันเกิดผลอะไรบ้าง และก่อนการสวมใส่กำไลหินอาจไม่จำเป็นต้องปลุกเสกใดๆ เพียงแต่อาจจะต้อง คลีนซิ่ง  (Cleansing) ก่อน ก็คือการล้างพลังงานหิน  เพราะหินจากธรรมชาติเราก็ไม่รู้ว่าเป็นของเก่ามีอะไรติดมาบ้าง อาจจะมีพลังงานด้านลบติดมา เพื่อความสบายใจก็อยากให้ล้างก่อนสวมใส่ โดยทำได้ 4 วิธีง่ายๆ ดังนี้

 

• ล้างด้วยแสงจันทร์ คือ การนำไปตากแสงพระจันทร์ในคืนพระจันทร์เต็มดวง 1 คืนก่อนใส่
• ล้างด้วยน้ำเปล่า ปล่อยให้น้ำไหลผ่านประมาณ 2 -3 นาที
• ล้างด้วยหินอเมทิสต์ (Amethyst) หรือเซเลไนต์ (Selenite) ที่มีความเชื่อว่าสะท้อนพลังงานด้านลบได้  โดยการนำกำไลหินวางบนอเมทิสต์หรือเซเลไนต์  1 คืน
• ใช้เสียงสวดมนต์

นอกจากนี้ หากอยากให้กำไลหินนำโชคอยู่กับเราไปนานๆ ไม่หมดสวย ควรหลีกเลี่ยงน้ำหอม แอลกอฮอลล์ หรือครีมทาผิวต่างๆ ในบริเวณที่สวมใส่ด้วย และหากมีโอกาสก็ไปไหว้พระทำบุญก็นำกำไลหินหรือหินก้อนที่เรามีติดตัวไปด้วย เพื่อเป็นการเสริมพลังให้หินของเราค่ะ

 

เลือกหินนำโชคตามราศี

 

ธาตุไฟ ตามความหมายของหน้าไพ่ทาโรต์ จะเป็นไพ่คฑาไม้ ซึ่งคฑาไม้เป็นเชื้อเพลิงที่ดีของไฟ จึงหมายถึง แพสชั่น  (Passion) ความหลงใหล ซึ่งจะหมายถึงเรื่องงาน หมายถึงอุปสรรค หมายถึงสิ่งที่เราจะต้องฝ่าฝันให้ได้มา

ราศีเมษ 13 เม.ย.-13 พ.ค.

สำหรับราศีเมษที่แนะนำคือ “ซิทริน” (Citrine) จะเป็นหินสีเหลือง เป็นหินกลุ่มควอตซ์ โดยซิทรินเป็นหินเน้นเรื่องการเงินด้วย เรียกว่าเป็น Money Stone จริงๆ ทุกราศีก็ใช้ได้ แต่แนะนำสำหรับคนราศีเมษเพราะคนราศีเมษหน้าไพ่คือ ราชินีไม้ ราชินีไม้หมายถึงคนที่จะต้องเป็นหัวหน้าคน เป็นคนที่มีความสามารถที่จะเป็นผู้นำในเรื่องการงาน จึงเหมาะกับหินชนิดนี้ที่สุด

 

ราศีสิงห์  17 ส.ค.-16 ก.ย.

ชาวราศีสิงห์เป็นคนที่มีไฟในการทำงาน เป็นคนที่มีความอดทน ไม่ย่อท้อ บางครั้งดูเป็นคนหัวแข็ง จึงควรเสริมด้วยหิน โรโดโครไซต์ (Rhodochrosite) หินสีชมพู ที่อาจมีลายหินอ่อนพาดขาวนิดๆ เป็นหินที่ใช้ในเรื่องของความรัก เสริมความรักความเมตตาเวลาไปคุยไปติดต่ออะไรกับใครจะได้มีคนรักคนเอ็นดู

 

ราศีธนู  16 ธ.ค.-15 ม.ค.

ราศีธนูเป็นคนที่ไม่ค่อยอยู่นิ่ง เป็นคนที่ให้ความรู้สึกว่า เป็นกระต่ายตื่นตูมตลอดเวลา เป็นคนลุยๆ มัก ทำงานสายลุย ๆ ดังนั้น หินที่แนะนำคือ “ลาพิส ลาซูรี” (Lapis Lazuli) หินสีน้ำเงินเข้มแบบ Indigo “เป็นหินที่หมายถึง ดวงตาที่สาม จึงช่วยในเรื่องสัญชาตญาณ ให้สามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

 

 

 

ราศีพฤษภ 14 พ.ค.-13 มิ.ย.

คนธาตุดินส่วนใหญ่ จะเป็นคนลักษณะไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงอะไรง่ายๆ รักแรงเกลียดแรง เป็นคนทำอะไรมีแบบแผน หัวโบราณไม่ค่อยเปลี่ยนอะไร  โดยเฉพาะชาวพฤษภ มีความดื้อเพราะราศีพฤษภ คือ วัวกระทิง แล้วเวลาดื้อจะขาดความอ่อนโยน ขาดความอ่อนหวาน พูดอะไรแข็งๆ พูดไรตรงๆ บางครั้งก็ตรงเกินไปจนอีกฝ่ายรู้สึกไม่ดี ดังนั้น จึงควรเสริมความอ่อนหวานอ่อนโยนให้ตัวเองด้วย หิน “โรสควอตซ์” (Rose Quartz) สีชมพูหวานๆ

 

ราศีกันย์ 17 ก.ย.-16 ต.ค.

คนราศีกันย์มักเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง ชอบการอยู่เงียบๆ คนเดียว หรืออาจเป็นคนร่าเริงก็ได้ แต่ก็จะมีพื้นที่ส่วนตัวเป็นของตัวเองไม่ให้ใครรุกล้ำ จึงอาจเข้ากับคนอื่นยากในบางครั้ง หากอยากเข้าสังคมแบบไม่รู้สึกอึดอัด โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับงาน อาจจะเสริมด้วยหิน อเมทิสต์ (Amethyst) เป็นหินที่ช่วยสร้างความสมดุลในชีวิตได้ดีในทุกๆ เรื่อง

 

ราศรีมังกร  16 ม.ค.-12 ก.พ.

ราศีมังกรมักจะเป็นราศีของคนที่ทุ่มทุนสร้าง เป็นสายเปย์ จะทำอะไรห้ามเสียหน้า เหมะกับคนที่ทำธุรกิจสายอสังหาริมทรัพย์ หรือทำงานโปรเจกต์ใหญ่ๆ ซึ่งจำเป็นต้องใช้ความกล้าหาญเยอะๆ ดังนั้น ราศีมังกรจึงเหมาะกับหิน ไทเกอร์อาย (Tiger Eye) เป็นหินที่มีหลายเฉดสี เช่น สีน้ำเงิน สีน้ำตาล โดยไทเกอร์อายจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของจิตใจ ความแน่วแน่ในการตัดสินใจ

 

คนธาตุน้ำส่วนใหญ่เป็นคนที่มีความประนีประนอมในตัวสูง แต่มักจะหวั่นไหวง่าย มีความหวั่นไหวในแง่ของการตัดสินใจ เป็นคนเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเหมือนสายน้ำไหล ทำอะไรตามอารมณ์

 

ราศีกรกฏ 15 ก.ค.-16 ส.ค.

ราศีนี้มักเป็นคนทำงานสายบริการหรือให้คำปรึกษา พบปะผู้คนมากมาย หรือทำอาชีพสายงานบริการลูกค้า ฝ่ายบุคคล ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นคนที่คอยรับฟัง คอยเทคแคร์คนอื่น ดังนั้น แนะนำเป็น “ไข่มุก” (Pearl) ซึ่งมาจากใต้ท้องทะเล ช่วยให้ภาพลักษณ์ของผู้สวมใส่ดูมีบารมี น่าเกรงขาม สง่างาม เหมาะกับการทำงานบริการที่ต้องการเสริมพลังในด้านนี้ให้ดูเป็นคนน่าเชื่อถือเพราะคนราศีกรกฏจะเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนไหว เป็นคนที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา การใส่เครื่องประดับลักษณะนี้ทำให้เราดูภูมิฐานมากขึ้นด้วย

 

ราศีพิจิก 16 พ.ย.-15 ธ.ค.

ชาวราศีพิจิกเป็นคนที่จาหว่านล้อมเก่ง เป็นคนมีเสน่ห์ หากได้เสริมดวงด้วยหิน  “มาลาไคต์”  (Malachite)  ซึ่งเป็นหินสีเขียวก็จะช่วยในเรื่องของการงานที่เกียวกับการเจรจาได้ดียิ่งขึ้น พูดอะไรก็ทำให้คนอื่นเคลิบเคลิ้มได้ง่าย เพิ่มความละมุนอบอุ่นในการพูดจากับคนรอบข้าง เรียกได้ว่าเป็นหินที่เหมาะกับทักษะเจรจาของราศิพิจิกที่สุด

 

ราศีมีน 14 มี.ค.-12 เม.ย.

ราศีมีนต้องเลือก บลูเลส อาเกด  (Blue Lace Agate) เป็นหินสีม่วงอมฟ้า อาจมีลายหินอ่อนสีขาวพาดนิดๆ เป็นหินที่ช่วยส่งเสริมทักษะการเจรจาเช่นเดียวกัน เพราะชาวราศีมีนมักเป็นคนชิวๆ สบายๆ อาจดูเป็นคนเฉื่อยๆ พูดอะไรไม่คิด ดังนั้น หากเลือกหินชนิดนี้สวมใส่ จะช่วยปรับทักษะการพูดจาให้เหมาะสมกับคนราศีมีนได้

 

 

 

ราศีเมถุน 14 มิ.ย.-14 ก.ค.

คนราศีนี้ควรใช้หินที่ชื่อว่า  “ฮาวไลท์”  (Howlite)  เป็นหินสีขาว เป็นลายหินอ่อนหินสีทึบ ช่วยส่งเสริมสมาธิ บรรเทาอาการนอนไม่หลับ ช่วยผ่อนคลายคลายเครียดได้ เพราะชาวราศีเมถุนมักเป็นคนทำอะไรเร็ว ใจร้อน แปรปรวนง่าย เหมือนรีบตลอดเวลา อาจเป็นคนที่ไม่ได้วางแผนอะไร ทำอะไรตายเอาดาบหน้าเลย การใช้หินนี้จะช่วยลดทอนความใจร้อนลง เรียกว่า ช่วยปรับการตัดสินใจของเขาให้ช้าลงได้ มีสติมากขึ้น

 

ราศีตุลย์ 17 ต.ค.-15 พ.ย.

ราศีตุลย์เป็นราศีที่มักมีปัญหาเรื่องความรัก แล้วยังเป็นคนที่ทำอะไรกระโชกโฮกฮาก คิดถึงความถูกต้องเป๊ะๆ จึงมักพูดจาตรงๆ รุนแรง พูดแบบมะนาวไม่มีน้ำ แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นคนดีเป็นคนจริงใจ  ดังนั้น ต้องเสริมด้านความรัก ด้านเมตตามหานิยม เพิ่มความน่ารักอ่อนโยนให้ตัวเอง ด้วย “สตรอเบอร์รี่ควอตซ์” (Strawberry Quartz) หินสีแดงใสๆ

 

ราศีกุมภ์  13 ก.พ.-13 มี.ค.

คนราศีนี้เหมาะกับโทนสีเทาๆ ต้องเลือก “ลาบราดอไรต์” (Labradorite) หินดวงตาที่สาม เป็นหินสีเทามีเหลือบๆ ช่วยในเรื่องของการหยั่งรู้ เพราะคนราศีกุมภ์เป็นคนทำงานที่ต้องใช้การตัดสินใจในเรื่องยากๆ  มักมีปัญหาความเครียด ถ้าเสริมด้วยหินชนิดนี้จะช่วยให้ตกผลึกทางความคิดได้ดี

 

 

 

การดูหินจริง หินปลอม

นอกจากการเลือกหินให้เหมาะสมกับราศีแล้ว จะเลือกซื้อหินทั้งทีก็ต้องมีเทคนิคการดูหินแท้ หินปลอมด้วย ซึ่งอาจารย์เอ้มีคำแนะนำมาฝากสาวๆ ดังนี้ค่ะ

• หินแท้ต้องเย็น สัมผัสผิวหนังแล้วรู้สึกเย็น แม้จะไม่ได้อยู่ในห้องแอร์
• ต้องมีน้ำหนักระดับหนึ่ง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดด้วย แต่ถ้าจับแล้วเบาๆ อาจจะน่าสงสัยว่าอาจไม่ใช่หินแท้ ยกเว้นอำพันจะน้ำหนักเบา เนื่องจากเป็นยางไม้ แต่ก็มีราคาค่อนข้างสูงมาก
• หินแท้ต้องมีตำหนิ ทั้งรูปทรง สีที่อาจจะไม่สม่ำเสมอกัน รูที่ร้อยเชือกก็อาจไม่เท่ากันได้
• หินกลุ่มไหมต่างๆ จะมีเส้นไหมเรียงไม่สม่ำเสมอตามธรรมชาติ แต่ถ้าเรียงเส้นสวยก็จะมีราคาสูงลิบตามความหายากในตลาดเลยทีเดียว
• หากไม่แน่ใจเรื่องสีของหิน สามารถนำมาแช่น้ำยาล้างเล็บได้ หากสีหลุดก็แปลว่าถูกย้อมสีมา ในเคสแบบนี้บ้างก็เป็นหินแท้แต่เพิ่มสีเพื่อเรียกราคาได้เช่นกัน