ไอนสไตน์มองเกี่ยวกับความผิดพลาดว่า คนที่ไม่เคยผิดพลาด แสดงว่าไม่เคยได้ลองสิ่งใหม่ๆ หมายความว่า คนเราอย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต หากมีใจมุ่งมั่นแน่วแน่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้ว คงต้องมีสักวันที่จะผิดพลาดบ้างซึ่งนั่นเป็นเรื่องธรรมดา
การทำใจกล้าเผชิญความล้มเหลวเป็นเรื่องที่ยาก แต่สิ่งที่ยากกว่านั้นคือ การยอมรับความล้มเหลวนั้นแล้วรีบลุกขึ้นมาใหม่ หากใครที่กำลังเจอกับปัญหาที่หาทางออกไม่ได้ หรือรู้สึกท้อแท้จนไม่อยากทำอะไร ลองมาดู 8 วิธีสร้างความกล้าหาญให้ตัวเองหลังเผชิญหน้าความล้มเหลวไม่ได้ดั่งใจ ให้ก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคง เป็นคำแนะนำง่ายๆ ที่ทีมงานได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสือเรื่อง How To be An Imperfectionist (ชื่อภาษาไทย, สำเร็จได้ไม่ต้องรอให้สมบูรณ์แบบ) เขียนโดย สตีเฟน ไกส์
ยอมรับอดีต
ก่อนจะก้าวต่อไปสิ่งที่ควรทำเป็นอย่างแรก คือ ยอมรับมันซะ สตีเฟนกล่าวว่า ให้ใช้เวลาวันละ 1 นาที คิดถึงอดีตที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างถาวร มันเกิดขึ้นไปแล้ว เราจำเป็นต้องยอมรับผลที่เกิดขึ้นอจากอดีตให้ได้ เมื่อยอมรับอดีตได้แล้ว ก่อนที่จะก้าวต่อไป ก็ควรที่จะ ยอมรับว่ามันอาจจะล้มเหลวได้อีกครั้ง โดยสตีเฟนกล่าวว่า ถ้าคุณกังวลว่าจะล้มเหลวผิดพลาดอีกครั้ง ให้ใช้เวลาสัก 1 นาทีเพื่อพิจารณาว่ามันเกิดขึ้นจากความเสี่ยงหรือความล้มเหลวจริงๆ กันแน่ ถ้าเป็นความล้มเหลวเพียงอย่างเดียว ให้คิดหาวิธีการอื่นๆ แล้วลองใหม่ แต่ถ้าเกิดจากความเสี่ยงล้วนๆ ให้ใช้วิธีการเดิมอีกครั้งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ คราวนี้อาจจะไม่ล้มเหลวก็ได้
ลงมือทำแทนการนั่งคิดมาก
หลังจากมองโลกตามความเป็นจริงแล้ว สตีเฟนแนะนำว่า อย่ามั่วแต่นั่งคิดฟุ้งซ่าน เปลี่ยนความคิดเหล่านั้นเป็นการลงมือทำเลยดีกว่า “ให้คุณลงมือทำในทิศทางตรงข้ามกับสิ่งที่กำลังหมกมุ่นอยู่ เช่น ถ้าคุณกังวลว่าจะเสียลูกค้าในมือคนหนึ่ง ให้คุนเรื่มต้นหาลูกค้าใหม่เลย ถ้าเครียดเรื่องการทะเลาะกัน ก็ให้ไปขอโทษและพูดจานุ่มนวลกับเขาดีกว่า (หรือหาเพื่อนใหม่ไปเลยก็ยังได้ หากคนๆ นั้นไม่ไหวจริงๆ) หรือถ้าเสียใจกับเรื่องเศร้าที่แก้ไขไม่ได้ ให้หาวิธีปลอบใจตัวเองให้ลืมมันไปในเวลานั้นให้ได้ดีกว่า”
ถ้ามัวแต่คิดว่า ฉันน่าจะทำอย่างนั้น ฉันน่าจะทำอย่างนี้ คงไม่มีวันหลุดพ้นไปจากวังวนความล้มเหลวไปได้ ดังนั้น ลงมือทำเสียเลยดีกว่า นอกจากจะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น ยังช่วยหยุดยั้งความคิดที่เป็นพลังงานลบต่อตัวเราและคนรอบข้างด้วย
วิธีที่ดีที่สุดเพื่อเปลี่ยนใจคุณสักเรือ่ง คือ การปฏิบัติตามความเปลี่ยนแปลงที่คุณหวังจะเปลี่ยน ถ้าคุณเอาแต่ครุ่นคิดเรื่องราวในอดีต การลงมือทำซะตอนนี้ โดยเฉพาะเรื่องที่กำหลังครุ่นคิดอยู่ คือวิธีที่ดีที่สุดเพื่อหยุดยั้งมัน
เช่น ถ้าคุณกังวลเรื่องสัมภาษณ์งานไม่ดี ให้ลองหาวิธีแก้ไขเพื่อให้การสัมภาษณ์งานในครั้งต่อไปไม่แย่เหมือนเดิม ถ้าเครียดเรื่องความรักความสัมพันธ์ ก็ลองออกไปพบปะผู้คนใหม่ๆ ดู เพียงแคเริ่มไปทีละขั้นจนกว่าเราจะสบายใจลืมความผิดพลาด เมื่อจิตใจเราแข็งแรงขึ้น เราก็จะก้าวต่อไปไม่ได้อย่างมั่นใจ
บันทึกความสำเร็จ
ขั้นตอนต่อไปของการลุกอย่างมั่นใจ คือ สร้างความภาคภูมิใจในตัวเราให้เพิ่มขึ้น โดยสตีเฟนกล่าวว่า การกลัวที่จะล้มเหลวผิดพลาดคือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เราไม่กล้าก้าวต่อไปและทำให้เราไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่หวัง
“ให้ตัดสินใจว่าคุณจะจดบันทึกความสำเร็จของคุณไว้ที่ไหน สมุดจด หน้าจอมือถือ หรือหน้าจอคอมพิวเตอร์ แล้วเขียนสิ่งที่คุณทำสำเร็จไว้อย่างน้อยวันละหนึ่งอย่าง จนกว่าคุณจะคิดไม่ออก”
การได้มองเห็นความสำเร็จในแง่อื่นๆ ของเราดูจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่ตัวเราได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เน้นความสำเร็จที่ง่ายๆ
หลายคนอาจท้อแท้ใจ ที่เราแนะนำให้เขียนบันทึกความสำเร็จของตัวเอง เพราะไม่คิดว่าตัวเองไม่มีอะไรที่ทำได้ดีจนเรียกว่าประสบความสำเร็จ ปัญหานีแก้ไม่ยาก สตีเฟนสรุกไว้ว่า เพียงแค่เราสร้างกิจกรรมที่ท้าทายตัวเองขึ้นมาเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน แล้วทำให้มันสำเร็จ เพียงแค่นี้ก็สามารถเรียกมันว่า ความสำเร็จได้แล้ว เน้นความง่าย ใกล้ตัว และทำได้จริงไว้ก่อน เช่น วันนี้จะเดินให้ได้วันละ 5,000 ก้าว, วันนี้จะกินผักให้ได้ 2 มื้อ, วันนี้จะดื่มน้ำให้ได้ 8 แก้ว เห็นไหมว่า ความสำเร็จรออยู่ไม่ไกลแล้ว
แยกความสำเร็จเป็นข้อย่อย
“เมื่อคุณเริ่มต้นแต่ละวัน อย่าตั้งเป้าหมายที่ความสำเร็จ ให้ตั้งเป้าหมายที่ความก้าวหน้า และยอมรับมันว่าไม่ว่าจะเล็กแค่ไนก็ตามให้ทำมันให้ได้” – สตีเฟน ไกส์
หลังจากสร้างความสำเร็จแบบเล็กๆ น้อยๆ แล้ว ก็ถึงเวลาที่จะตั้งเป้าหมายให้ใหญ่ขึ้น แต่ก่อนจะไปถึงเป้าหมายใหญ่นั้น ให้สร้างเป้าหมายระหว่างทางไว้ด้วย แล้วค่อยๆ ทำให้มันสำเร็จทีละขั้น แบบนี้จะทำให้เราก้าวไปได้ง่ายกว่า หลังจากก้าวมาระยะหนึ่ง ก็จะถึงเป้าหมายหลักของเรา ซึ่งนั่นก็คือความสำเร็จที่เรารอคอยนั่นเอง