EACC The Next Normal ดูแลผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ให้เข้าถึงการรักษาได้สะดวก รวดเร็ว และคุณภาพชีวิตดีขึ้น

EACC The Next Normal ดูแลผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ
ให้เข้าถึงการรักษาได้สะดวก รวดเร็ว และคุณภาพชีวิตดีขึ้น

กระทรวงสาธารณสุข สปสช. และเครือข่ายคลินิกโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบง่าย ร่วมประชุมและกำหนดแนวทางเพื่อก้าวต่อไปของการดูแลผู้ป่วย โรคระบบทางเดินหายใจ กับสถานการณ์ที่ท้าทายด้านการสาธารณสุขระดับโลก และทิศทางการพัฒนาระบบบริการสุขภาพโรคระบบทางเดินหายใจในยุค Next Normal ในการประชุมประจำปีครั้งที่ 17 ของเครือข่ายคลินิกโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นฯ

นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ก้าวต่อไปของการดูแลผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจกับสถานการณ์ที่ท้าทายด้านการสาธารณสุขระดับโลก ทั้งจากวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของโรค COVID-19 ภาวะ Long COVID (ลองโควิด) และสถานการณ์ของฝุ่น PM 2.5 ที่เพิ่มสูงขึ้น กระทรวงสาธารณสุขเล็งเห็นว่า เราต้องให้ความสำคัญในการพัฒนาระบบบริการด้านการรักษาโรค ระบบทางเดินหายใจ รวมถึงโรคหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรัง เพราะได้รับผลกระทบโดยตรงจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป

ดังนั้น เราจึงมีนโยบายในการส่งเสริมระบบบริการสุขภาพด้านโรคระบบทางเดินหายใจ โรคหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรัง ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น และพัฒนาศักยภาพสถานพยาบาลของรัฐให้เข้าถึงได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว ครอบคลุมทุกพื้นที่

นพ.ยงยุทธ พงษ์สุภาพ ผู้ทรงคุณวุฒิ กลุ่มภารกิจสนับสนุนการเข้าถึงบริการปฐมภูมิฯ สปสช. กล่าวว่า สปสช. มีหน้าที่หลักในการจัดทำระบบประกันสุขภาพเพื่อให้คนไทยทุกคนเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพ พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยบริการสุขภาพทุกเขตและยกระดับการบริการสาธารณสุขให้มีคุณภาพรองรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพที่ดีและมีประสิทธิภาพอย่างเท่าเทียม

และ สปสช. ก็ทำงานร่วมกับ EACC มานานมากกว่า 10 ปี ทำให้เข้าใจกลไกของ EACC ที่มุ่งเน้นว่า คุณภาพการบริการ ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน คือ ถ้าทำตามไกด์ไลน์ของ EACC ก็จะทำให้ผู้ป่วยลดจำนวนครั้งในการมาโรงพยาบาลลง ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง มีเวลามากขึ้น คุณภาพชีวิตดีขึ้น ซึ่งถือว่าคุ้มในหลายแง่มุมทั้งตัวผู้ป่วยเองและระบบการให้บริการ

ด้าน รศ.นพ.วัชรา บุญสวัสดิ์ ประธานเครือข่ายคลินิกโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบง่าย (Easy Asthma and COPD Clinic Network: EACC) กล่าวว่า ความสำเร็จของ EACC ที่ผ่านมาที่มีแนวทางการรักษาที่ง่ายและได้มาตรฐาน เน้นการให้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ป่วยสามารถควบคุมอาการได้เป็นอย่างดี รวมถึงการขยายเครือข่ายออกไปให้ครอบคลุมและเข้าถึงทุกพื้นที่

แต่เมื่อสภาพสังคมจำเป็นต้องก้าวเข้าสู่วิถีชีวิตแบบ New Normal การก้าวเดินครั้งต่อไปของ EACC จึงนับเป็นก้าวเดินที่ท้าทาย และนำไปสู่เส้นทาง EACC The Next Normal โดย EACC จะมุ่งเน้นให้ผู้ป่วยสามารถรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะอยู่ที่บ้าน แต่ก็จะได้รับการรักษาที่มีคุณภาพ ไม่แตกต่างจากการเดินทางไปโรงพยาบาล เพราะ Quality of Care เป็นสิ่งสำคัญ โดยผู้ป่วยโรคหืดต้องสามารถควบคุมอาการของโรคได้ แม้ในสภาวการณ์ที่เปลี่ยนไป ทั้งเรื่องสภาพแวดล้อม และสภาพสังคมวิถีใหม่

ขณะที่คุณอดิภัทร ชัยชนะสกุล กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจดิจิทัล เฮลท์บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า Telehealth Together จะมีประโยชน์ช่วยผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ 3 ด้าน ก็คือ

1.โรคระบบทางเดินหายใจเป็นโรคที่คนส่วนใหญ่เป็นแล้วไม่รู้ตัว ทำให้ไม่ได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้อง เสียเงินเสียเวลาแต่รักษาไม่ตรงจุด ซึ่งโครงการนี้จะทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาได้มากขึ้น สามารถปรึกษาแพทย์ออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน True HEALTH ได้จากทุกที่ ทำให้สะดวก รวดเร็ว และรักษาได้ตรงจุด

2.ผู้ป่วยที่เป็นโรคระบบทางเดินหายใจอยู่แล้ว ก็จะได้รับประโยชน์ตรงที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาโรงพยาบาล เพราะสามารถเข้ารับการรักษารับคำแนะนำจากแพทย์ผ่านทางแอปพลิเคชั่นได้ จากเดิมที่ต้องเข้าโรงพยาบาล 4 ครั้ง/ปี ก็อาจจะลดเวลาลงเหลือแค่ 2 ครั้ง/ปี

3.เมื่อผู้ป่วยลดโอกาสการมาโรงพยาบาลก็จะทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น เพราะว่าจะลดค่าใช้จ่าย ลดเวลาที่เสียไป โรงพยาบาลเองก็จะลดค่าใช้จ่าย ลดทรัพยากรในการที่จะต้องมาดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้ด้วย ทำให้มีทรัพยากรไปดูแลผู้ป่วยกลุ่มอื่นๆ ได้

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม 

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.