รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสำหรับผู้ป่วยภาวะไขมันพอกตับ และผู้ที่ต้องการป้องกันตนเอง ลดความเสี่ยงของภาวะไขมันพอกตับ ซึ่งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร โดยการรับประทานอาหารให้เหมาะสม ถูกสัดส่วน คือ เน้นการรับประทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น รับประทานอาหารจำพวกแป้ง ไขมัน และน้ำตาลให้น้อยลง
การลดน้ำหนักโดยการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ในผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก การลดน้ำหนักเป็นสิ่งที่ได้ประโยชน์มากสำหรับการรักษาภาวะไขมันพอกตับ พบว่า ถ้าลดน้ำหนักลงได้ 5-10% จะทำให้ภาวะไขมันในตับลดลง และถ้าน้ำหนักลดลงมากกว่า 10% จะทำให้การอักเสบของตับซึ่งเกิดจากภาวะไขมันพอกตับดีขึ้นได้ อย่างไรก็ดี ไม่ควรลดน้ำหนักเร็วเกินไป การลดน้ำหนักที่เหมาะสมจะต้องค่อยๆ ลด โดยมีเป้าหมายคือ 0.5-1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์
สำหรับการตรวจหาภูมิคุ้มกันต่อไวรัสตับอักเสบ ในกรณีของผู้ที่เป็นโรคตับอยู่แล้ว ควรตรวจดูว่าตนเองมีภูมิคุ้มกันป้องกันไวรัสตับอักเสบหรือไม่ หากไม่มีควรเข้ารับการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันการเกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมา หรือควรตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อตรวจดูค่าการทำงานของตับและปัจจัยอื่นๆ ที่อาจมีผลต่อการเกิดภาวะไขมันพอกตับค่ะ
แม้ว่าโรคไขมันพอกตับเป็นโรคที่อันตรายและเป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่าง ๆ ตามมาอีกมากมาย แต่เราสามารถป้องกัน และลดความเสี่ยงของการเกิดได้ เพียงแค่รับประทานอาหารที่ถูกต้อง มีคุณประโยชน์ ให้ตรงกับความต้องการของร่างกายใน 1 วัน กินให้ครบ 5 หมู่ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ง่ายๆ เพียงแค่นี้คุณก็จะมีร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ไม่ถูกความอ้วนคุกคาม และเจ้าไขมันร้ายก็จะไม่มายุ่งเกี่ยวกับตับของเราได้อีกต่อไป
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ