ในชีวิตคู่อย่าเอาชีวิต...ไปเปรียบกับละคร!! ในชีวิตคู่อย่าเอาชีวิต...ไปเปรียบกับละคร

เมื่อคนสองคนตกลงที่จะใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว เมื่อถึงจุดหนึ่งอาจเกิดปัญหาในเรื่องของความแตกต่างกันบ้างซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของการใช้ชีวิตคู่ เพราะก่อนหน้าที่จะตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกันเราต่างย่อมต้องตกลงที่จะยอมรับความต่างของแต่ละคนได้จริงๆ ไม่เช่นนั้นคงไม่ยอมลงเอยกันอย่างเด็ดขาดใช่มั้ยคะ ไม่มีใครเคยประสบความสำเร็จกับความคิดที่ว่าจะเปลี่ยนแปลงกันและกันได้ เมื่อแต่งงานกันไปก็อย่าเอาชีวิตคู่ของเราไปเปรียบกับละคร นวนิยายที่เคยดูกันมา แล้วชีวิตคู่จะมีความสุขขึ้นค่ะ

วันนี้สิ่งที่อยากบอกคู่รักทุกคู่นะคะว่า เมื่ออยู่ด้วยกันแล้วควรเป็นตัวของตัวเองและยอมรับสิ่งที่เขาหรือเธอเป็น ต้องยอมรับในความแตกต่างนั้น เลิกคาดหวังเรียกร้องให้อีกฝ่ายมาทำแบบที่ตัวเองคิด หลายคนไม่ได้ตั้งใจที่จะเปรียบเทียบชีวิตคู่ของตัวเองกับละครที่ได้ดูมา แต่บังเอิญบางเรื่องราวดันมาตรงกับชีวิตเลยอดไม่ได้ที่จะคิดและนำมาเปรียบเทียบกัน เมื่อเปรียบเทียบก็เกิดอาการนอยส์ เพราะสู้ในละครไม่ได้ ทำให้เห็นชัดเลยว่าการเปรียบเทียบชีวิตกับละครไม่ทำให้เรามีความสุขขึ้น แถมยังทำให้รู้สึกแย่กับชีวิตคู่ของตัวเองมากขึ้นอีก

>> เปรียบเทียบแล้วไม่ได้อะไร มีแต่เสีย กับเสีย <<

ชีวิตจริงไม่ใช่ละคร อันนี้ทุกคนต่างรู้ดี บางทีดูละครมากๆ ก็อินตามเนื้อเรื่องที่ดู คิดว่าชีวิตตนเองทำไมไม่เหมือนนางเอกในนั้น ทำไมคู่รักของเราไม่เป็นเหมือนพระเอกในละคร คิดดูดีๆ นะคะ เราได้อะไรจากการเปรียบเทียบครั้งนี้บ้าง ยิ่งเปรียบคู่ของเราก็ยิ่งด้อยกว่าแทบทุกด้าน ทำอะไรก็ไม่ลงเอยและจบลงแบบสวยงามเหมือนในหนัง ทีนี้ก็จะเสียความมั่นใจ เสียความรู้สึก หากยังเอาความรักตัวเองไปเทียบกับละครที่ลงเอยแบบแฮปปี้ด้วยแล่วงานนี้ก็ยิ่งพังค่ะ!

>> เปรียบเทียบปุ๊บ ความสุขจะหายไปในพริบตา >>

บางครั้งชีวิตคู่ของเราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากมาย อยู่กันแบบปกติไม่หวือหวาอะไร จากที่มีความสุขอยู่ดีๆ พอเอาไปเปรียบกับละครบางที่ได้ดูมา เห็นตัวละครมีชีวิตที่ดีกว่า พร้อมกว่า ก็มานั่งเสียใจ น้อยใจในโชคชะตา ว่าทำไมชีวิตคู่ไม่เหมือนไม่ดีอย่างละคร เช่น โทษว่าตัวเราไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง คนรักของเราไม่ได้เป็นบุคคลชั้นสูงเหมือนในละคร ขอบอกว่าหากคิดแบบนั้นให้หยุดคิดทันทีค่ะ เพราะมันไม่มีทางจะเหมือนกันได้ สู้เอาเวลาที่คิดเปรียบเทียบมาพัฒนาความสัมพันธ์ของคู่ตัวเองดีกว่า ทำแล้วน่าจะมีความสุขขึ้นอีกเยอะ

>> เปรียบเทียบเมื่อใด ก็คาดหวังเมื่อนั้น >>

อยากให้ทุกคู่หยุดการเปรียบเทียบคนรักของเรากับพระเอก นางเอกในละครเสียทีนะคะ เมื่อเห็นพระเอกเป็นแบบนั้นแล้วเอามาคิดว่าทำไมแฟนเราไมเป็นแบบนั้นบ้าง ไม่เป็นแบบที่นางเอกได้รับจากพระเอก เช่น ได้เที่ยวด้วยกัน มีเวลาให้กัน ทำไมคนรักเราไม่มีเวลาให้เหมือนในละคร เดี๋ยวก่อนค่ะ! ความรักมันเป็นเรื่องยูนีคนะคะ แฟนของเราก็ต้องต่างกับพระเอกในละครอยู่แล้ว หยุดเทียบเขากับใคร และหยุดคาดหวังให้เขาเป็นเหมือนผู้ชายในฝัน เพราะถ้าเขาเป็นเหมือนใคร เขาอาจไม่ใช่ของคุณไงล่ะคะ

ควรทำอะไรบ้าง…ในชีวิตคู่?

>> มองที่ข้อดีของคู่รักของเรา ลองเขียนข้อดีสักสามข้อใส่หลังรูปหรือใส่กระดาษเอาไว้ในกระเป๋า หรือบันทึกไว้ในมือถือ แล้วหยิบสิ่งที่เขียนหรือบันทึกไว้ขึ้นมาดูบ่อยๆ เพื่อเตือนใจว่าทำไมเราถึงตัดสินใจใช้ชีวิตคู่กับคนนี้ การมองที่ข้อดีของคู่รักของเราจะช่วยให้คุณอดทนกับข้อแตกต่างหลายอย่างได้ ทั้งยังช่วยให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขโดยไม่ทะเลาะกัน

>> ควรวางแผนที่จะมีเวลาพิเศษๆ ร่วมกัน ลองคิดดูว่าก่อนแต่งงานคุณสองคนมักนัดเจอ นัดใช้เวลาพิเศษๆ ด้วยกันเสมอ แล้วตอนนี้ทำไมไม่ลองทำแบบตอนนั้นดูบ้างล่ะคะ เพราะทำแล้วหัวใจเราจะเต้นแรง บางครั้งการวางแผนที่จะใช้เวลาพิเศษๆ ร่วมกันอาจทำให้คุณสนิทกันมากขึ้น และช่วยคุณกับคู่ของคุณให้จัดการกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นแบบไม่คาดคิดเลยก็ได้

>> หากคุณรู้สึกไม่ดีกับสิ่งที่คู่รักทำหรือพูดกับคุณ อย่าแก้ปัญหาด้วยการมึนตึงไม่พูดจากัน ควรเปิดใจคุยเพื่อให้คู่รักของคุณรู้ทันทีว่าคุณพร้อมที่จะพูดคุยด้วยเหตุผลเมื่อใจเย็นลงแล้ว หากเป็นไปได้อย่าปล่อยให้การโกรธกันเลยไปจนข้ามคืนจะดีที่สุด รีบเคลียร์กันให้ไวค่ะ แล้วรักของคุณจะไปต่อได้แบบสวยๆ แน่นอน

เราเข้าใจดีค่ะว่าในการใช้ชีวิตคู่ที่เริ่มต้นขึ้นไปสักระยะหนึ่ง ความเป็นตัวตน นิสัยที่แท้จริงของแต่ละคนก็จะแสดงออกมา การจะให้เรามีนิสัยที่ถูกใจ ดีพร้อมสำหรับอีกคนนั้นเป็นเรื่องที่ยาก แต่หากเราหยุดเปรียบเทียบกับละครก็ขจัดปัญหาไปได้เยอะเลย และอีกสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คนสองคนที่มาจากต่างครอบครัว ต่างการเลี้ยงดูสามารถมีชีวิตคู่ที่มีความสุข ได้นั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งสองฝ่ายที่จะเรียนรู้และปรับตัวเข้าหากัน เพื่อความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ที่มั่นคงยาวนานนั่นเองค่ะ

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ