“จิตดี ศรีดี” ที่สุดของผู้หญิงแห่งปี เธอคือผู้ที่…เบรคความร้อนแรงของ “พุทธ อภิวรรณ”

การจะทำให้มีความสุขในการทำงานได้นั้นต้อง “มีทัศนคติในเชิงบวก” เพราะคนที่มีความสุข มีความคิดที่ดีจะมองสิ่งต่างๆ ในด้านบวก มองเห็นโอกาส มองถึงความเป็นไปได้ และมองถึงความสำเร็จ  นอกจากการมองถึงโอกาสและความสำเร็จในอนาคตแล้ว ผู้ที่มีความสุข เมื่อมองย้อนกลับไปในสิ่งที่ได้ทำผ่านมาก็มักจะเห็นแต่สิ่งดีๆ ดังนั้น การที่จะมีความสุขได้ก็ควรเริ่มต้นจากการมีพฤติกรรมและทัศนคติในการมองสิ่งต่าง ในเชิงบวกนั่นเอง

วันนี้ขอขึ้นต้นเนื้อหาด้วยเรื่องราวของการมีทัศนคติเชิงบวกทางด้านความคิด โดยเฉพาะการทำงานสักนิดนะคะ เนื่องจาก Goodlifeupdate ได้มีโอกาสไปพูดคุย แลกเปลี่ยนมุมมองกับผู้หญิงที่มีทัศนคติเชิงบวกทั้งความคิด และการปฏิบัติตัวต่อหน้าสาธารณะชนทุกสิ่งที่เธอแสดงออกมาได้อย่างงดงามและชัดเจน เป็นตัวของตัวเองแบบสุดๆ ในการทำงานที่ท้าทายอารมณ์แบบสุดขั้ว แต่เธอก็ปรับให้มันเป็นเชิงบวกแบบสุดๆ ได้ สาวคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นไกลค่ะ เธอคือ “คุณเจี๊ยบ-จิตดี ศรีดี” ผู้ประกาศข่าวหญิงคู่หูของ “คุณพุทธ อภิวรรณ” ผู้ประกาศข่าวทางช่องอมรินทร์ทีวี ที่เรียกได้ว่ามาแรงที่สุดในตอนนี้ก็น่าจะไม่ผิด

ด้วยสไตล์การเล่าข่าวที่เป็นเอกลักษณ์ ครบเครื่อง ดุ เด็ด เผ็ด ชัดเจนตรงประเด็น ฉับไวอย่างมากของคุณพุทธ ทำให้เป็นที่จับตามองของประชาชนผู้เสพสื่อในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะกระแสสังคมที่มักจะพูดในเชิงตลก แบบหยอกล้อกันว่า “คนดูมักจะคอยลุ้นกันตลอดว่าเมื่อไหร่คุณจิตดี ผู้ประกาศหญิงที่นั่งข้างๆ คุณพุทธจะได้พูดสักที” และแน่นอนว่า คนดูมักจะมองว่า ถ้าผู้ประกาศข่าวที่นั่งคู่กัน ไม่เป็นคนที่มีลักษณะคล้ายกัน จะทำงานร่วมกันได้ดีขนาดนี้ได้อย่างไร เพราะถือเป็นเรื่องยาก ที่จะต้องตามคุณพุทธให้ทัน

แต่ภาพที่ทุกคนเห็นคือ หญิงสาวที่ดูใจเย็น ยิ้มแย้ม ท่าทางอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ และที่ใครๆ ต่างบอกว่าเธอดูน่าสงสารนั้น จริงๆ แล้วเป็นอย่างที่ทุกคนมองกันหรือเปล่า? หลายคนจึงอยากรู้จัก และอยากรู้ว่า คุณจิตดี เธอมีดี หรือมีแนวคิดอย่างไร  ถึงได้ยืนหยัดนั่งเคียงข้างกับคุณพุทธ อภิวรรณ มาได้เป็นระยะเวลานานขนาดนี้ เธอมีจิตที่คิดดี ตามชื่อของเธอใช่หรือไม่ เธออดทนมาได้อย่างไร เธออึดอัดใจ หรือมีความสุขดีในการทำงานแต่ละวัน และที่คนอื่นมักพูดถึงกันมากว่า “สงสารจิตดี” มันมีที่มาอย่างไร แล้วตัวเธอนั้น น่าสงสาร น่าเห็นใจอย่างที่หลายคนพูดถึงกันรึป่าว ไปเปิดทุกมุมของเธอกันค่ะ

>> ใครจะรู้ว่าจิตดี…ก็เคย “ถอดใจ” <<

คุณเจี๊ยบ จิตดี เริ่มต้นการพูดคุยกัยเราถึงสิ่งที่หลายๆ คนเคยสงสัยว่า เคยท้อ เคยเบื่อ หรือเคยอยากเลิกทำงานในฐานะผู้ประกาศที่นั่งเคียงข้างผู้ชายที่ดูจริงจัง ดุเด็ด ดุเดือด อย่างคุณพุทธ อภิวรรณ บ้างหรือไม่?… คุณจิตดีบอกว่า “ตนเคยถอดใจไปแล้วกับหน้าที่ผู้ประกาศข่าวตรงนี้ เพราะตอนนั้นยังไม่เข้าใจระบบการทำงานร่วมกัน อาจเป็นเพราะเรายังไม่รู้จักตัวตนกันและกันดีพอ ยังไม่รู้ใจกัน จนวันหนึ่งเราตัดสินใจเดินไปบอกคุณพุทธว่าเราจะไม่ทำแล้วนะ เราจะลาออก คุณพุทธตอบมาคำเดียวว่า “ฉันไม่ให้เธอไป” แล้วเดินหนีเราไปเลย (หัวเราะ) จากนั้นเราก็เดินหน้าศึกษา ทำการบ้าน และทำทุกอย่างให้เต็มที่ รวมถึงได้กำลังใจจากทีมงาน และผู้ชม ทุกๆ คน รวมถึงคุณพุทธด้วยที่ถือเป็นเพื่อนร่วมงาน เป็นหัวหน้า เป็นพี่ชายที่ดีจนวันนี้เราสามารถพิสูจน์ตัวเองได้แล้วว่าเราทำได้ ตรงนี้ก็ภูมิใจมากๆ เลยค่ะ”

>> การทำงานเป็นผู้ประกาศถือเป็นความใฝ่ฝันของจิตดี <<

“อาชีพผู้ประกาศเป็นความใฝ่ฝันมาตั้งแต่สมัยเรียนเลยล่ะค่ะ ตอนอยู่มหาวิทยาลัยเราก็ทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับการประกาศ การใช้เสียงอย่างการจัดเสียงตามสายของมหาวิทยาลัย ทุกๆ เที่ยงจนถึงบ่ายโมง ก็จะมีเสียงของจิตดีให้ฟังกันทุกวัน

จากนั้นเราก็ได้มีโอกาสไปฝึกงานที่วิทยุชุมชนแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งสำนักงานอยู่ในวัดก็มีพระอาจารย์ท่านแนะนำว่าถ้าเราชอบทางด้านนี้เรียนจบก็ควรไปสอบใบผู้ประกาศ เรียนจบเราก็ไปสอบตามที่ท่านบอก จนได้ใบผู้ประกาศจากกรมประชาสัมพันธ์มา แต่ก็ยังไม่ได้ทำงานในสายงานที่ตั้งใจ จนมีเพื่อนมาชักชวนให้ไปอ่านข่าวต้นชั่วโมงของวิทยุชุมชนก่อนที่คุณพุทธ จะชวนให้มาทำงานด้วยกันที่ช่อง อมรินทร์ TV ในช่วงที่ทีวีดิจิตอลกำลังเฟื่องฟู ก็เลยได้มาทำงานตรงนี้จนถึงตอนนี้ค่ะ เรียกว่าได้ทำตามฝันได้จริง”

>> ดูจิตดีแล้วเย็นตาเย็นใจ เบรคความร้อนแรงของคุณพุทธได้ดี <<     

“เอาจริงๆ ถ้าใครได้มาทำงานกับคุณพุทธแล้วจะรู้ว่า เค้าเป็นคนที่จริงจัง และเก่งมากเท่านั้นเองค่ะ ความดุดันอะไรน่าจะมาจากอินเนอร์ที่จริงจังไปตามเนื้อข่าว บางครั้งคนมองว่าจิตดีโดนคุณพุทธพูดแซวแรงๆ ถามว่าโกรธมั้ย บางครั้งก็โกรธนะ แต่แป๊บเดียวก็หาย แต่ถ้ามีโอกาส มีช่องให้เราก็เอาคืนนะ (หัวเราะ) เราก็โต้กลับบ้าง ซึ่งตรงนี้ผู้ชมหลายๆ คนก็ชอบนะ แล้วถ้าคนที่ติดตามกันจริงๆ จะรู้ว่าเราก็แซวกลับคุณพุทธบ้าง เบรคความร้อนแรงของคุณพุทธไว้บ้าง บางคนบอกด้วยว่าชอบเราตอนที่พูด หรือไม่ทันคุณพุทธนี่ล่ะ แล้วบางทีเรารับมือได้ด้วยความซื่อๆ คนก็จะมองว่าน่ารักดี ถือเป็นการทำงานที่เข้าขากันมากที่สุดแล้วล่ะค่ะ กับคนคนนี้ ถ้ารู้ใจรู้ทางก็สบายใจหายห่วงค่ะ

ถามว่าการทำงานกับคุณพุทธเครียดมั้ย ก็เครียดค่ะ กดดันมั้ยก็กดดันค่ะ แต่ทำไปทำมาพอเห็นความสำเร็จของงานที่ออกมาทุกอย่างมันก็หายหมดเลย เห็นความสำเร็จ คนดูชอบ แล้วมันมีความสุขมันหายเหนื่อย เรื่องการเล่าข่าวนี่ก็ต้องยกให้ทางคุณพุทธเค้าเลย เราจะไปเล่าแทรกเพื่ออะไรในเมื่อเค้าเล่าดีอยู่แล้ว เราก็แค่คอยเสริม คอยเติมเต็มซึ่งกันและกันดีกว่า การทำงานถึงจะไปคู่กันได้ดีค่ะ”

>> ความสำเร็จจากการคว้ารางวัล ผู้ประกาศข่าวหญิงที่สุดแห่งปี <<

“เราดีใจมากๆ นะที่ได้รับเกียรติให้ได้รับรางวัลผู้ประกาศหญิงยอดเยี่ยม จากงานประกาศรางวัลสุดยิ่งใหญ่แห่งปี Daradaily Awards ครั้งที่ 7 ซึ่งรางวัลนี้เป็นการโหวตมาจากประชาชนคนดูที่เทคะแนนมาให้ ก็ภูมิใจมากๆ ค่ะ ว่าสิ่งที่เราตั้งใจทำให้ดีที่สุด ผู้ชมเค้าชอบและพอใจ ถือเป็นอีกหนึ่งรางวัลที่ทำให้เรามีกำลังใจในการทำงาน เพื่อที่จะได้สร้างสรรค์ผลงานดีๆ ให้กับพี่น้องประชาชน และก็คุณผู้ชมได้ติดตามต่อๆ ไป อีกทั้งการทำงานแบบนี้ยังเป็นการสะท้อนสังคมต่างๆ ได้อีกด้วย เพราะสื่อมวลชนก็เหมือนเป็นกระจกของสังคมสะท้อนสิ่งทั้งดีเพื่อเป็นตัวอย่าง และสิ่งที่ไม่ดีเพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเตือน และมีการแก้ไข นี่คือหน้าที่ของเรา และก็จะมุ่งมั่นทำสิ่งตรงนี้ให้ดีที่สุดต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ ก็อยากให้ทุกคนชอบและติดตามกันไปเรื่อยๆ นะคะ จะรู้ว่าจิตดีไม่ได้น่าสงสาร เพราะมีโอกาสเราก็สู้น๊า (หัวเราะ) “

เห็นมั้ยคะทุกคน ว่ายิ่งฟังเธอเล่าเรื่องราวการทำงานที่ทำอยู่นี้ ก็ไม่ได้ดูกดดัน ดูเครียด ดูน่าสงสาร แบบที่เราๆ เข้าใจกัน แถมในทางกลับกันกลับได้มุมมองที่ดีว่า อะไรที่เรากลัว ถ้าผ่านมันไปได้ ทุกอย่างก็จะง่ายไปเองค่ะ และอะไรที่คนอื่นคิดว่ายาก ถ้าเราทำได้ เราก็คือคนที่เหนือกว่า เหนือในเรื่องของความอดทนยังไงล่ะคะ

เรียกว่าไม่ผิดหวังเลยจริงๆ ล่ะค่ะที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับหญิงสาวคนเก่ง ที่มีทัศนคติบวกๆ อย่างคุณจิตดีในวันนี้ ทำให้เห็นว่า หัวใจสำคัญอีกเรื่องหนึ่งต่อการทำงานเป็นทีมคือการถอดบทเรียนที่คนอื่นคิดว่ายาก ซึ่งเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่จำเป็นต้องมี เพื่อให้การทำงานระหว่างคนในทีมเป็นไปในทิศทางเดียวกันได้ เมื่อมีความเข้าใจในตัวตนของกันและกัน ทำให้เกิดความเข้าใจและมีความเชื่อมโยงระหว่างกัน ไม่ใช่พอใจเฉพาะเมื่อทำงานจบเป็นครั้งๆ ไป แต่ต้องทำทุกวันทุกครั้ง ทุกขณะเวลาให้ดีและเต็มที่แก่กันมากที่สุด เพราะที่สุดของการทำงานเป็นทีม หรือทำงานคู่กันคือการได้เรียนรู้ร่วมกัน เกิดความเข้าใจเพิ่มเติม ตลอดจนเก็บเกี่ยวสิ่งดีๆ ที่ผ่านเข้ามาในกระบวนการทำงาน โดยไม่ต้องรอผลลัพธ์สุดท้ายเพียงอย่างเดียว  ซึ่งจะช่วยให้ทุกคนมีความเข้าใจบทบาทและเจตจำนงของกันและกันมากขึ้นนั่นเองค่ะ

ใครที่รักและชื่นชมสาวเก่ง คิดดี อย่าง “จิตดี ศรีดี” สามารถติดตามได้ในรายการทุบโต๊ะข่าว ทาง อมรินทร์ TV  ช่อง 34 นะคะ http://www.amarintv.com

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

“แพท นวลพรรณ” กับการทำงานที่เรารัก แล้วจะอยากทำให้ดีโดยไม่ต้องบังคับ

รสชาติของความสุขขนาดกะทัดรัด ของ นรี บุณยเกียรติ

มุมมองความรัก…ที่ฟังแล้วต้อง “ใจเต้น” หมอเจี๊ยบ ลลนา

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.