มีคนเคยพูดเอาไว้ว่าการที่เราจะเป็นเพื่อนที่ดีสำหรับใครสักคนนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ต้องมีอะไรมากขอแค่มีความ “จริงใจ” ให้กัน ก็เป็นเพื่อนแท้กันได้แล้ว แต่ในชีวิตจริง เราไม่ได้มีเวลามานั่งวัดกันได้หรอกค่ะ ว่าความจริงใจนั้นอยู่ตรงไหน ใครจริงใจ ใครไม่จริงใจ เพราะสิ่งเหล่านี้มันแสดงใส่กันได้ แต่ก็เคยมีคนสอนเรามาว่า ให้ดูยามที่เราทุกข์ คนที่อยู่ข้างๆ ตอนนั้นแหละคือ เพื่อนที่ดี หรือเพื่อนแท้ เมื่ออ่านถึงตรงนี้หลายคนเริ่มหันไปมองรอบตัวแล้วใช่มั้ยคะ ว่า คนที่อยู่ข้างๆ เราตอนนี้ ใช่เพื่อนที่ดีหรือไม่ เอาเป็นว่า ถ้าเราอยากมีเพื่อนที่ดี ทางที่ดีที่สุดเราต้องเป็น “เพื่อนที่ดี” กับคนอื่นก่อนด้วยเช่นกัน
และเชื่อว่าใครๆ ก็อยากเป็นคนที่มีแต่เพื่อนๆ รักกันทั้งนั้น แต่การจะเป็นคนคนนั้นได้ เราต้องเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ปรับทัศนคติที่จะไปสู่การเป็นเพื่อนที่ดีของใครสักคนได้ก่อนค่ะ ฟังดูเหมือนไม่ยาก เพราะที่เคยรู้มาก็แค่ มีน้ำใจให้กัน ตักเตือนกัน รักษาน้ำใจกัน แบ่งปันกัน ไม่โกหกกัน และอีกหลายๆ ข้อที่เป็นคุณสมบัติของเพื่อนที่ดี แต่เราอยากบอกว่าในความเป็นจริงแล้วมันมีมากกว่านั้นค่ะ การที่จะเป็นคนทีมีเพื่อนดี เราต้องดีกับเพื่อนก่อน และวันนี้เราจะไปเจาะลึกเรื่องนี้กัน
รู้จักการปรับปรุงตัว ไม่ชอบอะไรก็อย่าทำใส่คนอื่น
เราทุกคนต่างอยากได้สิ่งที่ดีอยู่กับตัว คุณลองคิดดูดีๆ สิว่าคุณอยากมีคนให้รัก ตัวคุณทำตัวให้เป็นที่รักแล้วหรือยัง เหมือนกับการทำงานถ้าคุณอยากได้เงินเดือนขึ้น คุณทำตัวให้สมควรแก่การขึ้นเงินเดือนหรือเปล่า และหากคุณอยากมีเพื่อนดี ก็ควรรู้ว่าทำตัวอย่างไรที่จะทำให้เพื่อนอยากมีเราถ้าคุณเป็นเพื่อนที่ใครก็อยากได้ ทำไมคุณจะไม่มีเพื่อน ถ้าอยากให้เพื่อนเชื่อใจ เราก็ไม่ควรทำตัวราวกับว่าตนเองนั้นไม่เคยทำอะไรผิด ถ้ารู้ตัวว่าทำผิด ให้ยอมรับผิดแทนที่จะปฏิเสธ ถึงแม้เพื่อนจะไม่มีความสุขที่เราทำผิดพลาด แต่พวกเขาก็ยังดีใจที่เห็นว่าเรามีความรับผิดชอบและซื่อสัตย์พอที่จะยอมรับผิดแทนที่จะเสแสร้งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือทำตัวแย่กว่านั้นคือโยนความผิดให้ผู้อื่น เมื่อพูดว่าขอโทษ ก็ควรขอโทษออกมาจากใจจริง ให้เพื่อนได้รับรู้ถึงความจริงใจจากน้ำเสียงของเราแทนที่จะคิดว่าเราไม่ใส่ใจความรู้สึกของเพื่อนเลย
อะไรที่เราไม่อยากให้เพื่อนทำกับเรา เราก็อย่าไปทำใส่คนอื่น เช่น ถ้ามีเพื่อนของเราคนหนึ่งสงสัยว่าเราแค่ต้องการหลอกใช้เขา เราก็อาจโดนเพื่อนทิ้งได้ทันทีเหมือนทิ้งของร้อน มิตรภาพที่ดีไม่ได้เกิดจากการหวังใช้ความเป็นที่นิยมชื่นชอบหรือเครือข่ายของใครสักคนให้เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ถ้าอยากเป็นเพื่อนกับผู้อื่นเพียงเพราะแค่อยากได้รับการยอมรับให้เข้าไปอยู่ในกลุ่ม นั้นไม่ใช่มิตรภาพ แต่เป็นการฉวยโอกาส และสุดท้ายความสัมพันธ์อันผิวเผินนี้ก็จะจบลง ถ้าเราเป็นคนที่ชอบหลอกใช้ผู้อื่น สักวันเพื่อนใหม่ของเราก็อาจรู้เรื่องนี้ และคบเราได้อย่างไม่สนิทใจนัก มิตรภาพคือการให้และการรับ การอาศัยรถเพื่อนไปมหาวิทยาลัยทุกวันอาจจะสะดวกมากก็จริง แต่อย่าลืมทำอะไรเพื่อตอบแทนเพื่อนของเราบ้าง
ต้องเป็นคนที่รู้จักให้ ไม่ใช่แค่อยากได้เพียงอย่างเดียว
โดยธรรมชาติใครๆ ก็อยากได้ แต่ถ้าอยากมากจนไม่เห็นแก่หน้าใคร คุณจะกลายเป็นคนที่ไร้เพื่อน ต้องเห็นแก่ตัวอย่างมีศิลปะ อยากได้ต้องให้คนอื่นได้ด้วย ไม่มีใครอยากเสียเปรียบใคร จะให้ดีต้องจบท้ายด้วย วิน วิน ด้วยกันทุกฝ่าย ต้องรู้จักคิดถึงผู้อื่น ถึงแม้เราอาจไม่สามารถเห็นแก่ผู้อื่นได้ตลอดเวลา แต่การไม่เห็นแก่ตัวก็เป็นส่วนสำคัญของการเป็นเพื่อนที่ดี ทำตามความต้องการของผู้อื่นบ้าง เมื่อไรก็ตามที่ทำได้และเห็นสมควร ตอบแทนความโอบอ้อมอารีของผู้อื่นด้วยการดูแลเอาใจใส่พวกเขาบ้าง มิตรภาพระหว่างกันก็จะแน่นแฟ้นขึ้น ถ้าเราเป็นคนเห็นแก่ตัว เข้ามาหาเพื่อนตอนที่ตนเองเดือดร้อนเท่านั้น เพื่อนของเราก็จะรู้ว่าเรานั้นไม่มีความจริงใจต่อพวกเขาเลย
จงช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความจริงใจ อย่าช่วยเพราะหวังผลตอบแทนการคำนึงถึงผู้อื่นอย่างเหมาะสมและการยอมให้ผู้อื่นเอารัดเอาเปรียบนั้นต่างกัน ถ้าเรารู้สึกว่าตนเองนั้นช่วยเหลือผู้อื่นตลอด แต่ไม่ได้อะไรกลับมาเลย แสดงว่าเรากำลังถูกเอารัดเอาเปรียบอยู่ อย่ามุ่งแต่หาประโยชน์จากความใจดีหรือรบกวนเพื่อนมากเกินไป เมื่อเพื่อนทำอะไรดีๆ ให้เรา จงรีบหาทางตอบแทนเขาโดยไว ถ้ายืมเงินเพื่อนมา ให้รีบหาทางใช้คืน เมื่อไปเยี่ยมเยียนเพื่อนที่บ้านของเขา ก็อย่าอยู่รบกวนเขานานนัก
ต้องหัดเป็นนักฟังที่เก่ง และเป็นนักพูดที่พูดเป็น
เสน่ห์แห่งบทสนทนาไม่ใช่อยู่ที่การพูดเก่ง แอยู่ที่การฟังเก่งหรือไม่ ถ้าผูกขาดการพูดอยู่คนเดียว ไม่ฟังใคร จะเหลือเพื่อนได้ไม่กี่คน เพราะทุกคนก็มีควาคิดความเห็น ที่อยากแสดงออกด้วยกันทั้งนั้น ฉะนั้นถ้าฟังเก่งเข้าไว้จะมีแต่ใครๆ ที่อยากเป็นเพื่อน ยิ่งเป็นคนพูดเป็น รู้ว่าอะไรควรพูด อะไรไม่ควรพูด ควรหยุดตรงไหน หรือพูดอะไรต่อ ก็ยิ่งทำให้มีแต่คนชอบพอรักใคร่ เมื่อพบหน้ากัน อย่าเอาแต่พูดอยู่ฝ่ายเดียว ถ้าเล่าเรื่องตนเองจบแล้ว ให้โอกาสเพื่อนพูดบ้าง ตั้งใจฟังสิ่งที่เขาพูด จะได้ทราบสารทุกข์สุกดิบและรู้หากเพื่อนต้องการความช่วยเหลือ