“ทุกลมหายใจนี้ก็เพื่อลูก” หมู พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ (จบ)
การตัดสินใจแต่งงานของ หมู พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ โดยไม่ฟังเสียงทัดทานของใคร โดยเฉพาะ “ป๊า” ทำให้ชีวิตประสบกับความทุกข์ครั้งใหญ่
ช่วงอายุ 25 ปี หมู พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ กำลังดัง มีชื่อเสียง มีงานเข้ามาตลอด ทำแต่งาน มีเงินในบัญชีเงินฝากเพิ่มมากขึ้นๆ แต่กลับรู้สึกโดดเดี่ยว แฟนก็ไม่มี ไม่รู้ว่าตัวเองทำทุกอย่างนี้ไปเพื่ออะไร ด้วยความรู้สึกนี้ทำให้หมูพยายามไขว่คว้าอยากมีแฟน มีครอบครัวของตัวเอง
จนกระทั่งวันหนึ่งมีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในชีวิต เขาอายุมากกว่าหมู 9 ปี เขาดูแลเอาใจใส่หมูเป็นอย่างดี และสามารถตอบโจทย์ที่หมูต้องการได้ทุกอย่าง แต่ทุกคนรอบข้างกลับเตือนให้ระวังไม่อยากให้ยุ่งเกี่ยวกับเขา เพราะประวัติของเขาในหลายๆ เรื่อง
ไม่ได้เป็นไปในด้านบวก แต่ด้วยความดื้อรั้น หมูตัดสินใจแต่งงานกับเขาในขณะที่ตั้งครรภ์ได้ 4 เดือนแล้ว หมูฝันว่าจะมีชีวิตครอบครัวที่สวยงาม พร้อมหน้า-พร้อมตา พ่อ แม่ ลูก อยากให้ครอบครัวอบอุ่นชดเชยความรู้สึกโหยหาแม่ในวัยเด็กของตัวเอง
แต่หมูคิดผิดถนัด เพราะผ่านไปแค่ 3 เดือนหมูก็ได้ตระหนักแล้วว่า ชีวิตตัวเองกำลังตกนรก หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ความมั่นใจในตัวเองเริ่มหดหาย งานการก็ไม่มี เพราะตั้งแต่แต่งงานก็คิดว่าจะเป็นแม่บ้านเต็มตัว จึงทิ้งงานในวงการบันเทิงโดยสิ้นเชิง
แต่เมื่อตัดสินใจว่าจะจบชีวิตคู่ลงแต่เพียงเท่านี้ เรื่องราวหลังจากนั้นก็ไม่ได้จบลงง่ายๆ เพราะหมูต้องเผชิญกับการฟ้องร้องเพื่อให้ได้รับสิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูกอยู่ประมาณ 7 เดือน เป็น 7 เดือนของความทรหดอดทน เป็นช่วงเวลาที่ต้องสู้สุดใจก็ว่าได้
สู้เพื่อลูก
ช่วงนั้นเรื่องราวของหมูถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์หน้า 1 อยู่ระยะหนึ่ง แม้จิตใจจะบอบช้ำมาก แต่หมูก็ไม่ยอมแพ้ต่อการขอสิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูก แม้หมูกับพ่อของน้องนาย (ณภัทร เสียงสมบุญ)จะไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่หมูก็ไม่ต้องการให้เด็กคนหนึ่ง เกิดมาแล้วไม่มีแม่ และต้องรู้สึกเหมือนเราตอนเด็กๆ เมื่อเราสร้างให้เขาเกิดมาแล้ว เราต้องดูแลเขาให้ดีที่สุด
หลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดในช่วงนั้น หมูไม่อยากรื้อฟื้นรายละเอียดอะไรมากนัก เพราะไม่อยากให้กระทบกระเทือนใจลูก และยังอยากให้ลูกมองว่าพ่อของเขาคือคนดี หมูเดินออกจากชีวิตคู่ในแบบที่บ้าน รถเงินไม่มี มีแต่ตัวเปล่าๆ ที่ต้องไปตั้งหลักใหม่ พร้อมๆ กับการเรียกร้องเพื่อให้ได้ลูกกลับคืนมา เพราะหลังจากคลอดลูกแล้ว ลูกก็ไปอยู่ในความดูแลของพ่อ
ถึงไม่มีเงินหมูก็สู้ นอกจากฟ้องร้องในชั้นศาลแล้ว ก็มีการขอความช่วยเหลือจากผู้มีอิทธิพลในการเป็นตัวกลางเจรจา เรียกว่าสู้ทั้งทางกฎหมายและนอกกฎหมาย โดยหมูมีพยานหลักฐานหลายอย่างที่เก็บไว้ ที่สุดเรื่องก็ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว แล้วจากนั้นศาลก็ตัดสินให้หมูมีสิทธิ์ในการดูแลลูก หมูจำคำพูดที่พูดกับศาลในวันนั้นได้ว่า “ชีวิตหมูไม่เหลืออะไรแล้ว เหลือแต่ความเป็นแม่ในตัวเรา ขอให้หมูได้ทำหน้าที่แม่เถอะ”
หมูพยายามเลี้ยงลูกอย่างดีที่สุด ให้เขาเรียนในโรงเรียน Bromsgrove Inter-national School Thailand เป็นโรงเรียนอินเตอร์ที่เปิดมาแล้ว 400 กว่าปีที่ประเทศอังกฤษ มีความเคร่งครัดเรื่องระเบียบวินัย หมูตั้งใจให้ลูกเรียนโรงเรียนนี้ เพราะอยากให้เขาเก่งภาษาอังกฤษและรู้จักดูแลตัวเองได้ ซึ่งนอกจากลูกชายจะไม่ทำให้หมูผิดหวังในเรื่องนี้แล้ว เขายังชอบเล่นกีฬา โดยเฉพาะกอล์ฟที่เล่นจนได้รางวัลมากมาย ด้วยความที่กอล์ฟเป็นกีฬาที่ค่อนข้างแพง ทุกแมทช์ที่แข่งต้องใช้เงินถึง 20,000 กว่าบาท ทั้งค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่าแคดดี้ทุกวันนี้นอกจากงานในวงการบันเทิง หมูจึงเริ่มทำธุรกิจของตัวเองเพราะมองว่าการเป็นดาราเราต้องรอโอกาสจากคนอื่น แต่การทำธุรกิจด้านความงาม “Born to be” ขึ้นอยู่กับตัวเรา และสิ่งนี้ก็ทำให้หมูสามารถมีเงินไปสนับสนุนลูกได้ดีกว่าเดิม
“ไปโง่ที่ไหนมาตั้ง 30 ปี”
แม้หมูจะใช้ชีวิตคุณแม่ลูกหนึ่งอย่างเข้มแข็ง แต่บางครั้งก็รู้สึกอ่อนล้าจนน้ำตาไหล จึงคิดหาวิธีทางให้ใจตัวเองสงบนิ่งด้วยการบวชชีพราหมณ์ วันหนึ่งเพื่อนที่เป็นดาราชวนหมูไปปฏิบัติธรรมในหลักสูตรของคุณแม่ ดร.สิริ กรินชัย แห่งยุวพุทธฯ 7 คืน 8 วัน
ที่นั่น หมูน้ำตาร่วง อุทานกับตัวเองอยู่ในใจว่า “ไปโง่ที่ไหนมาตั้ง 30 กว่าปี ก่อนหน้านี้ถ้าเราได้พบเจอกับธรรมะของพระพุทธเจ้า ชีวิตของเราคงไม่ต้องประสบกับความทุกข์ขนาดนี้”
ที่บ้านหมูมีพระ แต่ไม่เคยไหว้ ฝุ่นเกรอะ ห้องพระกลายเป็นห้องเก็บของ แต่หลังจากไปปฏิบัติธรรมครั้งนั้น ห้องพระกลายเป็นห้องสวรรค์ หลังจากนั้นนอกจากจะสอนวิชาภาษาไทยให้ลูกแล้ว หมูยังสอนให้เขาสวดมนต์ อาราธนาศีล รู้จักกราบพระ สอนให้ลูกรู้จักทุกขัง อนิจจัง อนัตตา
การปฏิบัติธรรมครั้งนั้นทำให้ “ปิ๊ง” เลยว่าธรรมะของพระพุทธเจ้าคืออะไร จิตเกิดความสุข ความสงบมาก ได้พิจารณาร่างกายตัวเองอย่างละเอียด เวลาได้ยินเสียงอะไรก็รู้ว่าได้ยินหนอเวลากินข้าวก็รู้ว่าข้าวเม็ดที่หนึ่งเคี้ยวอยู่ตรงฟันซี่นี้ ไปตรงนี้แล้วสามารถกำหนดรู้ เหมือนยิ่งทำอะไรช้าๆ จิตก็จะยิ่งไว
นาทีที่สัมผัสถึงธรรมะของพระพุทธเจ้า หัวใจหมูเต้นแรงและร้องไห้ออกมา อยากเขียนอยากเล่าถึงสิ่งที่ตัวเองสัมผัสให้คนอื่นฟัง จากวันนั้นถึงวันนี้ หมูเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น ใจเย็นขึ้น รู้เหตุรู้ผลของสิ่งต่างๆที่เกิดเร็วขึ้น สามารถตอบคำถามนักข่าวอย่างคนที่เข้าใจชีวิต นอกจากนั้นหมูก็ชอบอ่านหนังสือแนวธรรมะ โดยเฉพาะของคุณหมอสม สุจีรา เพราะอ่านแล้วทำให้เข้าใจเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตได้ดีขึ้น ปล่อยวางได้ง่ายขึ้น
ชีวิตหมูเริ่มต้นจากการที่ไม่มีแม่ เมื่อมีลูกก็อยากให้ลูกมีแม่คอยอุ้มชูเลี้ยงดู เพราะเชื่อว่ารักของแม่นั้นสร้างคนคนหนึ่งให้เป็นคนดีได้ ยิ่งเมื่อได้พบพระธรรม หมูเชื่อว่าทั้งลูกและหมูได้มองเห็นแสงสว่างในการดำเนินชีวิตแล้ว รู้ว่าต่อไปนี้ทั้งแม่และลูกคงไม่เดินหลงทาง วันข้างหน้า ไม่ว่าจะมีสิ่งใดเกิดขึ้นเพื่อมาทดสอบชีวิตของเราอีก เรารู้ว่าเรามีที่พึ่งทางใจที่หนักแน่น มั่นคง ให้เราสองคนแม่ลูกได้ยึดเหนี่ยวต่อไปค่ะ
บทความน่าสนใจ
รวม 3 ห้องสมุดธรรมะ แหล่งคลังความรู้พุทธศาสนา กลางกรุง Secret Thailand
สารพัด ” ทุกข์ของคนเป็นแม่ ” แก้ไขได้ด้วยธรรมะ
“ธรรม” ที่พึ่งพิงของชีวิต บทความให้แง่คิด จาก พระไพศาล วิสาโล
ต้นบุญธรรมสถาน สัปปายสถานของทุกเพศทุกวัย