ลองถามตัวเองอีกครั้งว่าคุณ “สูญเสียจริงหรือ” – พระราชญาณกวี (ท่านปิยโสภณ)
เมื่อครั้งที่เกิดกรณีค่าเงินบาทลอยตัว สถาบันการเงินถูกปิดทั้งหมด เงินเฟ้อ เกิดปัญหากระทบเศรษฐกิจไทยอย่างรุนแรงลามไปทั่วโลก เศรษฐีทั้งหลายต่างบ่นว่าตัวเองจนลง เพราะ สูญเสีย ทรัพย์ไปนับพันล้านบาท หลายคนทำร้ายตัวเอง บางคนป่วยหนักถึงชีวิต มีไม่น้อยที่เศร้าโศกเสียใจกับทรัพย์ที่สูญเสียไป
เศรษฐีคนหนึ่งไปที่วัด เข้าไปคุยว่าโยมไม่เหลืออะไรแล้วท่าน เงินที่มีอยู่หายไปหมดเกลี้ยงเลย โยมเสียใจมาก ไม่อยากอยู่ในโลกนี้อีกต่อไป ข้าพเจ้าบอกว่า อย่าเพิ่งจากกันไปง่าย ๆ เลยโยม ก่อนจากไปควรจะได้มีโอกาสเดินทางไปทำบุญไหว้พระที่ประเทศอินเดียสักครั้งในชีวิต บางทีอาจได้ข้อคิดอะไรดี ๆ
ข้าพเจ้าดำเนินการซื้อตั๋วเครื่องบินให้ พอไปถึงอินเดีย ก็พาไปไหว้พระ อธิษฐานจิตที่ต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้ เดินเวียนรอบต้นโพธิ์และพระมหาเจดีย์ 3 รอบ ข้าพเจ้านำไหว้พระ สวดมนต์ ทำสมาธิอยู่นาน
เวลาผ่านไปนานนับหลายชั่วโมง โยมก็ยังคงนั่งนิ่งสงบอยู่ สักพักข้าพเจ้าได้ยินเสียงโยมร้องไห้ สะอื้นอยู่ใต้ผ้าห่ม แต่ข้าพเจ้าไม่ทักท้วงอะไร ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ เพราะเคยเห็นอาการนี้เกิดขึ้นกับคนจำนวนมากมาแล้ว
เมื่อได้เวลาอันสมควร พวกเราก็ออกจากสมาธิ กราบพระแล้วเข้าที่พัก ภายหลังข้าพเจ้าได้มีโอกาสคุยกับโยม โยมบอกว่าขณะที่ทำสมาธิแล้วร้องไห้นั้น เพราะเกิดปีติ เห็นความทุกข์ยากลำบากของการเกิดมาเป็นคน เห็นความกรุณาของพระพุทธเจ้าที่สอนว่า ความเกิดเป็นทุกข์ และเกิดความสงสารคนยากคนจนจำนวนมากที่วิ่งขอทานระหว่างทางเดินเข้ามาพระมหาเจดีย์ คนเหล่านั้นทั้งพิการ ทั้งแก่ ทั้งไม่มีผ้าห่ม ขาดอาหาร ขาดที่อยู่อาศัย
โยมเล่าต่อว่า ในขณะที่ตนเองคิดว่าสูญเสียมาก หมดตัวแล้ว แต่ก็ยังมีมากกว่าคนจนเหล่านั้น อย่างน้อยก็ยังมีชีวิต มีบ้านอยู่ มีรถขับ มีคนรัก มีอาหารรับประทานทุกมื้อ มีสวัสดิการมีชีวิตที่สมบูรณ์ เขาเหล่านี้ต่างหากคือคนที่จนจริง ท่านผู้อ่านคงทายได้ว่า เศรษฐีคนนี้ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตอย่างไร เขาบอกว่าเขาไม่ได้สูญเสีย เขาไม่ได้ยากจน เขายังร่ำรวย เมื่อเขามีกำลังใจต่อมาเขาก็ก้าวเดินต่อไปได้อย่างงดงาม
ความสำเร็จทุกอย่าง เกิดจากใจ เสียกำลังใจเมื่อใด ก็สูญเสียทุกอย่าง อาจรวมทั้งเสียชีวิต ได้กำลังใจ ก็ได้กำไรชีวิต
ที่มา นิตยสาร Secret
เรื่อง พระราชญาณกวี (ท่านปิยโสภณ)