ไม่มี โรค เป็นลาภอันประเสริฐ โดย พระอาจารย์ชาญชัย อธิปญฺโญ
กาลเวลาล่าต้อนสรรพชีวิตไปสู่ความแก่ ความเจ็บ และความตาย ไม่มีใครหลีกเลี่ยงความจริงข้อนี้ได้ (โรค)
ระยะหลังโยมที่มาพบผู้เขียนหลายคนมีอาการเจ็บป่วย บางคนปวดไหล่ยกแขนไม่ขึ้นเพราะเส้นยึด บางคนนั่งพับเพียบไม่ได้ (อย่าว่าแต่นั่งพับเพียบเลย แม้นั่งกับพื้นหรือคุกเข่ากราบพระก็ยังไม่ได้) เพราะเจ็บหัวเข่า โยมบอกว่าโยมเป็นโรคหยิ่ง ไม่ยอมคุกเข่าให้ใคร
เมื่อสิบกว่าปีก่อนที่ผู้เขียนจะบวชก็เป็นโรคหยิ่ง เพราะปวดสะบ้าหัวเข่า หมอบอกว่า น้ำเลี้ยงสะบ้าหัวเข่าแห้ง ทำให้กระดูกบริเวณนั้นเสียดสีกัน รู้สึกเจ็บ โดยเฉพาะเวลาเดินขึ้นบันได ลงบันได หรือที่ต่างระดับกัน จะรู้สึกเจ็บแปล๊บๆ หมอใช้วิธีรักษาด้วยการฉีดยาให้ แต่ก็ไม่หาย เพียงทุเลาขึ้น
เมื่อผู้เขียนบวช เลือกจำพรรษาที่วัดตาดน้ำพุ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี วัดที่อยู่นั้นเป็นวัดบ้านนอก มีธรรมชาติร่มรื่นสวยงามมีลานหินกว้างใหญ่อยู่หลายแห่ง ทุก ๆ เช้าพระเณรจะพากันลงจากเขาเพื่อบิณฑบาตที่หมู่บ้าน ขาลงไม่ค่อยจะเท่าไร แต่ขาขึ้นนี่สิ ไหนจะหนักบาตร ไหนจะหนักที่ต้องออกแรงพยุงสังขารขึ้นสูงต้านกับแรงดึงดูดของโลก กว่าจะขึ้นมาถึงศาลาจีวรก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อผู้เขียนเป็นคนเมือง ทำงานนั่งโต๊ะเป็นประจำ แถมไว้พุงหน่อยๆเพื่อเสริมหุ่นให้ภูมิฐาน เพียง 3 เดือนแรกน้ำหนักลดลงไป 13 กิโลกรัมเรียกว่าผอมแห้งไปเลย แต่ก็เบาเนื้อเบาตัว
ช่วงเดือนแรกที่ขึ้น – ลงเขาผู้เขียนจะเจ็บที่สะบ้าหัวเข่าจนกังวลว่าสังขารเราจะไหวไหมนี่ จะต้องย้ายวัดไหม เรื่องสึกนั้นคงไม่สึกแน่ ๆ เพราะกว่าจะมาบวชได้ก็รอคอยมานานนับสิบปี ความปวดที่สะบ้าหัวเข่ารบกวนอยู่ร่วมเดือน เมื่อมันไม่สามารถเอาชนะผู้เขียนได้ มันก็หายไปไม่กลับมาอีกเลย ทำให้เราได้ความรู้ว่า การออกกำลังกายเป็นยาที่ดีที่สุดในการรักษาโรค
มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผู้เขียนปวดหัวไหล่ข้างขวา อยู่ๆ ก็เป็นขึ้นมาเองโดยไม่ทราบสาเหตุ ความปวดนั้นถึงขนาดชูมือหรือยกแขนขึ้นตรงไม่ได้เอามือ (รวมทั้งแขน) ขวาไขว้หลังก็ไม่ได้ เวลาสรง (อาบ) น้ำ ใช้มือขวาถูหลังก็ไม่ได้ หลวงพ่อเจ้าอาวาสท่านเมตตาให้ลูกกอล์ฟมานวดหลังก็ไม่หาย แถมช่วงที่อากาศเย็นจะปวดลึกเข้าไปข้างใน
ช่วงนั้นพอดีมีพระอาคันตุกะจากวัดอื่น ท่านเดินทางมาพักที่วัด พระรูปนี้ยังหนุ่มแน่น เป็นชาวไต้หวัน มีศรัทธาในพระศาสนาจึงมาบวชและจำพรรษาที่เมืองไทย ท่านมีวิชานวดคลายจุด ธรรมดาพระก็มีโรคประจำตัวกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะโรคปวดเมื่อยเส้นเอ็นยึด เป็นกันครึ่งค่อนวัด พวกเราต่างให้พระอาคันตุกะรักษาให้ ในจำนวนนี้มีผู้เขียนรวมอยู่ด้วย ท่านคงเห็นว่าผู้เขียนสูงอายุ ไม่ได้ล่ำสันบึกบึนเหมือนพระหนุ่ม จึงนวดอย่างละมุนละม่อม ถึงขนาดนั้นยังเล่นเอาเส้นเลือดฝอยของผู้เขียนแตก ช้ำเลือดอยู่เป็นเดือนๆ แต่ก็ไม่หาย จึงไปฝังเข็มกับพระอีกรูปหนึ่งซึ่งท่านมีความรู้ด้านนี้ เคยใช้วิชาฝังเข็มมาตั้งแต่ท่านยังเป็นฆราวาส ท่านบอกว่า ถ้าจะให้ได้ผล ต้องฝังอย่างต่อเนื่อง 1 สัปดาห์ ผู้เขียนก็ลองให้ท่านรักษาอยู่ 7 วัน แต่ก็ไม่หาย เพียงทุเลาขึ้นเล็กน้อย หลังจากนั้นก็กลับมาเหมือนเดิม
ผู้เขียนนึกถึงวิบากกรรมที่ทำไว้ สมัยเป็นเด็กชอบยิงนก มีคราวหนึ่งใช้หนังสติ๊กยิงนกพิราบที่กำลังหาอาหารกินอยู่บนพื้นดิน ปรากฏว่ายิงถูกซอกคอของนกพิราบตัวนั้น ทำให้มันเจ็บหมุนคว้างอยู่กลางลานดิน วิบากกรรมนี้กระมังที่ทำให้ผู้เขียนต้องทนเจ็บที่หัวไหล่มาเป็นเวลานาน
ต่อมาผู้เขียนได้ไปปลีกวิเวกในป่าบนเขาตามลำพัง เช้ามืดหลังจากนั่งสมาธิแล้ว ก็บริหารกายโดยใช้ท่า แกว่งแขน ปรกติก็ทำอยู่เสมอวันละ 200 ครั้งโดยประมาณ ช่วงปลีกวิเวกมีเวลามากขึ้นจึงเพิ่มเป็นวันละ 300, 400, 500, 600, 700, 800 ครั้งตามลำดับ พอมาถึงรอบละ 700, 800 ครั้ง ปรากฏว่าเส้นเอ็นที่ยึดกันแน่นอันเป็นเหตุให้เจ็บไหล่คลายตัวออก ทำให้ โรค ดังกล่าวหายไป สามารถใช้มือและแขนขวาได้ดังเดิม
จากประสบการณ์ที่ได้รับทำให้ผู้เขียนเชื่อว่า การออกกำลังกายเป็นวิธีป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บที่ดีมากๆ เรื่องนี้ใครๆ ก็รู้ แต่ไม่ค่อยจะทำกัน สาเหตุของ โรค ภัยไข้เจ็บส่วนใหญ่จะมาจากอาหารและอารมณ์ เรื่องนี้ใครๆ ก็รู้ แต่ก็ยังทำกัน
คนส่วนใหญ่จะใช้อารมณ์นำหน้าเหตุผลอยู่เสมอ สิ่งใดเป็นคุณก็รู้สิ่งใดเป็นโทษก็รู้ แต่ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเป็นโทษก็ยังทำกันอยู่ ไม่ทำในสิ่งที่เป็นคุณ เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น
ในใจของทุกๆ คนจะมีทั้งฝ่ายดีและฝ่ายชั่วอยู่ ดีกับชั่วจะสู้กันอยู่เสมอ คราวใดที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีกำลังมากกว่าก็จะเอาชนะอีกฝ่ายหนึ่ง หากฝ่ายนั้นชนะบ่อยๆ มันก็จะมีกำลังมากขึ้นและมีแนวโน้มที่จะเอาชนะอีกฝ่ายหนึ่งได้แทบทุกครั้ง
ฝ่ายดีก็คือบุญกุศล ฝ่ายชั่วก็คือกิเลสตัณหา หากเราปล่อยให้ฝ่ายกิเลสตัณหาชักนำจิต ให้คิด พูด ทำ ไปในแนวทางของมันกิเลสตัณหาก็จะเป็นใหญ่เหนือพฤติกรรมของเรา ทำให้เราใช้อารมณ์ความรู้สึกมากกว่าใช้เหตุผลอย่างมีสติปัญญา
ธรรมะเป็นอาวุธชนิดเดียวที่จะต่อกรกับกิเลสตัณหาได้ เพราะธรรมะให้แสงสว่างทางปัญญา เปิดโลกทัศน์ให้เราได้เห็นความเป็นจริงอีกด้านหนึ่งของชีวิต เป็นความจริงตามกฎธรรมชาติที่ครอบงำทุกสรรพสิ่งเอาไว้ นอกจากนี้ธรรมะยังช่วยเพิ่มพลังของสติและสมาธิเพื่อให้จิตมีความเข้มแข็งที่จะต่อสู้กับกิเลสตัณหาได้อย่างรู้เท่าทัน
ทุกชีวิตจึงต้องการธรรมะ เพราะทุกชีวิตต่างปรารถนาความสุข และปรารถนาที่จะให้ชีวิตของตนอยู่ในครรลองที่งดงาม
แต่น่าเสียดายที่มีคนจำนวนมากไม่รู้ว่าธรรมะคืออะไรและจะหาได้จากที่ไหน
น่าเสียดาย…น่าเสียดาย
เรื่อง พระอาจารย์ชาญชัย อธิปญฺโญ
บทความน่าสนใจ
ทุกคนมี คุณค่า ในมุมมองของพระพุทธศาสนา บทความธรรมะโดย พระไพศาล วิสาโล