นางร้าย หัวใจนางเอก กิ๊ก – มยุริญ ผ่องผุดพันธ์
กิ๊ก – มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ คือหนึ่งในดาราที่โด่งดังจากการเล่นบทนางร้าย แต่ตัวจริงของเธอนั้นสุดแสนจะนางเอก Secret จึงขอพาคุณผู้อ่านไปเจาะชีวิตรสพระธรรมของเธอกัน
มักจะได้เล่นแต่บทนางร้าย ไม่ทราบว่าขัดกับบุคลิกจริง ๆ มากไหม และอยากเปลี่ยนไปรับบทอื่นเพื่อเปลี่ยนภาพลักษณ์บ้างหรือไม่
คุณกิ๊ก : กิ๊กแฮ็ปปี้กับการที่ผู้จัดและผู้ใหญ่ให้โอกาสเล่นบทร้ายนะคะ เพราะกิ๊กรู้สึกว่าเล่นเป็นนางเอกเล่นยาก (หัวเราะ) อย่างในซิตคอม เป็นต่อ เราเล่นเป็นแฟนเก่าพระเอก ซึ่งบทบาทคล้าย ๆ นางเอก แล้วมีบทที่ต้องอยู่กับพระเอก กิ๊กรู้สึกว่ายากค่ะ บทร้ายง่ายกว่า เพราะได้แสดงออกให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย ไม่ต้องเหนียม ๆ เก็บ ๆ ไว้เหมือนบทนางเอก
มีคนกล่าวว่า การแสดงหนังแสดงละครจะทำให้คนยิ่งเกิดกิเลส รัก โลภ โกรธ หลง (คนที่ถือศีล 8 จึงห้ามดูละคร) โดยเฉพาะนางร้ายที่ต้องแสดงกิริยาก้าวร้าวรุนแรง เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี มีความเห็นอย่างไรกับคำพูดนี้คะ
คุณกิ๊ก : สำหรับกิ๊กคิดว่าไม่ใช่แต่อาชีพนักแสดงเท่านั้น ตราบใดที่เรายังเป็นฆราวาสอยู่ ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร ทหาร ตำรวจ ผู้พิพากษา หรืออาชีพอื่น ๆ ล้วนมีผลกระทบกับคนอื่นด้วยกันทั้งนั้น มีอาชีพอยู่ 5 อย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าไม่ให้ทำ เพราะทำแล้วไม่ดีกับตัวของเราเอง คือ 1. ไม่ขายสัตว์ให้เขาเอาไปฆ่า 2. ไม่ขายมนุษย์ 3. ไม่ขายอาวุธ 4. ไม่ขายยาพิษ 5. ไม่ขายและไม่ดื่มสุรา กิ๊กจึงถือว่าอาชีพนักแสดงเป็นสัมมาอาชีพ เพราะไม่ได้อยู่ในข้อห้ามเหล่านั้น ยอมรับค่ะว่าเป็นอาชีพที่ทำให้เกิดอกุศลจริง แต่เราสามารถเปลี่ยนให้เป็นกุศลได้ด้วยการใช้อาชีพของเราชวนคนไปทำความดี สูงสุดก็คือชวนไปเจริญภาวนา รักษาศีล กิ๊กว่าทุกอาชีพมีทั้งบวกและลบ เพียงแต่ว่าเราจะมองมุมไหนเท่านั้น และนำอาชีพนั้นมาทำประโยชน์ในการช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป
ในชีวิตจริงสนใจพุทธศาสนาไม่น้อย ขอถามว่า ธรรมะมีส่วนช่วยในการทำงานและการดำรงชีวิตอย่างไรบ้าง
คุณกิ๊ก : ด้วยความที่กิ๊กรับบทร้ายมานาน อยู่วงการมาเกือบ 20 ปี ทุกวันนี้กิ๊กต้องจัดโหมดของตัวเองให้ได้ว่าตอนนี้ฉันอยู่ทางธรรม กำลังปฏิบัติธรรม หรืออยู่ทางโลก คือเล่นละคร เราต้องใช้ชีวิตให้กลมกลืนเป็นธรรมชาติ กิ๊กว่าธรรมะช่วยสนับสนุนการทำงานแบบโลก ๆ นะคะ เมื่อปฏิบัติธรรมแล้วกิ๊กทำงานได้ดีขึ้น มีสมาธิมากขึ้น และเข้าถึงบทบาทตัวละครได้ดีขึ้น การปฏิบัติธรรมช่วยให้จิตใจเราอ่อนโยน ไม่แข็งกระด้าง พร้อมที่จะเข้าอกเข้าใจเห็นใจผู้อื่น กิ๊กต้องขอบคุณ พี่ป้อน (นิพนธ์ ผิวเณร – ผู้กำกับฯ) ที่บอกว่า เวลาเล่นละครให้ทำเหมือนเวลาปฏิบัติธรรม คืออยู่กับปัจจุบันขณะ และเล่นออกมาจากใจ จากความรู้สึกที่เป็นตัวละครตัวนั้น พี่ป้อนทำให้กิ๊กได้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างการปฏิบัติธรรมกับการแสดง ซึ่งทำให้เล่นได้อารมณ์ความรู้สึกที่สมจริงในทุก ๆ ฉากที่เราแสดง ซึ่งคนดูก็จะรับได้ว่าเราไม่ได้เฟค
การปฏิบัติธรรมช่วยให้กิ๊กมองเห็นทุกข์ในชีวิตชัดขึ้น เพราะทุกข์จริง ๆ มันอยู่ในชีวิตประจำวันของเรานี่เอง ซึ่งเราสามารถเช็กตัวเองได้ว่าการปฏิบัติของเราก้าวหน้าขึ้นหรือไม่จากการเผชิญความจริงในชีวิต เช่น พอเวลามีทุกข์ ชอบใจ ไม่ชอบใจ เรารู้เท่าทันอารมณ์ต่าง ๆ นั้นหรือไม่ หรือเวลามีปัญหาให้แก้ ตัวเราลงไปเล่นกับมัน หรือใช้สติที่เพียรฝึกมาในการแก้ปัญหาเหล่านั้น กิ๊กรู้สึกว่าตั้งแต่ปฏิบัติวิปัสสนามา กิ๊กมีความสุขในชีวิตมากขึ้น คือพอรู้ว่าเป็นทุกข์ เป็นปัญหา กิ๊กจะไม่โอบอุ้มปัญหานั้นเอาไว้ คือใจจะปล่อยวางไปเองค่ะ
อีกอย่างหนึ่ง ตัวกิ๊กเองก็ถือศีล 5 กิ๊กคิดว่า ถ้าคนเรามีศีล ศีลก็จะนำความสุขมาให้ ศีล แปลว่า ปกติ ส่วนมนุษย์แปลว่า ผู้มีใจสูง คน แปลว่า ยุ่ง ฉะนั้น เรื่องของศีล แม้ว่าพระพุทธเจ้าจะไม่ได้บังคับให้เราต้องถือ แต่ท่านก็ทรงบอกว่าการรักษาศีลจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง เรื่องศีลไม่ใช่เรื่องไกลตัว ถ้าใครประพฤติปฏิบัติจะได้อานิสงส์ได้บุญมาก ซึ่งสูงกว่าการให้ทานใด ๆ เพราะฉะนั้นเรื่องของศีล 5 ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ แต่เป็นเรื่องใหญ่ คนที่รักษาได้ทุกวัน ก็ได้เก็บอริยทรัพย์ให้กับตัวเองมากมายมหาศาล เพราะศีลนำมาซึ่งโภคทรัพย์และพาไปถึงพระนิพพานได้ค่ะ
เข้าใจธรรมะและเห็นสัจธรรมของความทุกข์ขนาดนี้ ไม่ทราบว่ามีความคิดเห็นอย่างไรกับการไปนิพพานคะ
คุณกิ๊ก : เมื่อก่อนเราก็ฟังผ่าน ๆ นะคะคำว่า “นิพพาน” พระพุทธเจ้าสอนว่านิพพานเป็นบรมสุข แต่พอมาปฏิบัติธรรมทำให้รู้ว่าไม่ง่ายเลยสำหรับการจะไปถึงที่สุดแห่งสุขคือพระนิพพาน หากเราต้องการพ้นทุกข์หรือไปถึงพระนิพพานจริง ๆ หน้าที่ของเราคือการปฏิบัติค่ะ ไม่ว่าจะภพไหนชาติไหน ทำไปเรื่อย ๆ เมื่อวันหนึ่งที่บุญบารมีของเราถึงเหมือนกับน้ำเต็มตุ่ม เต็มเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น กิ๊กมีความศรัทธาพระพุทธเจ้า มีพระพุทธเจ้าเป็นไอดอล กิ๊กเชื่อว่าพระนิพพานมีอยู่จริงและกิ๊กก็กำลังเดินหนทางนั้นอยู่
ได้อ่านหนังสือท่านพุทธทาส ท่านบอกว่า หมดตัวกูของกูเมื่อไหร่ เมื่อนั้นก็นิพพาน ซึ่งถ้าเราลองน้อมนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน เราจะรู้ว่า หากเราไม่ยึดมั่นถือมั่น ไม่มีคำว่าตัวกูของกู มันก็ไม่ทุกข์ ท่านพุทธทาสเขียนไว้ในหนังสือว่า นิพพานไม่ยากเกินที่เราจะเข้าใจ ถ้าลองได้ลงมือปฏิบัติจะรู้ว่า เราสามารถนิพพานได้ทุกขณะค่ะ
ในฐานะที่เป็นคนของประชาชนและเป็นพุทธศาสนิกชนคนหนึ่ง ได้อุทิศตนเพื่อช่วยเหลือสังคมและพระพุทธศาสนาอย่างไรบ้างคะ
คุณกิ๊ก : ตอนนี้กิ๊กมีโอกาสได้จัดคอร์สวิปัสสนาและไปบรรยายตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน กิ๊กอยากเพิ่มศรัทธาให้คนเข้าใจว่าธรรมะไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นเรื่องธรรมดาที่เป็นจริงและถูกต้องสำหรับทุกคน อยากแสดงให้ทุกคนเห็นว่าถ้าคุณปฏิเสธธรรมะก็คือปฏิเสธความจริง กิ๊กตั้งใจอยากเผยแผ่งานวิปัสสนากรรมฐาน อยากให้คนได้ปฏิบัติธรรมกันมาก ๆ เพราะกิ๊กรู้สึกว่านี่คือหนทางที่ใช่ที่จะทำให้ค้นพบความสุขที่แท้จริง แต่ประเด็นคือเวลาจัดคอร์สเราไม่ได้มีสปอนเซอร์ แต่ต้องควักสตางค์จ่ายเองทั้งหมด ซึ่งกิ๊กรู้สึกว่ารายได้ที่ได้จากการแสดงอย่างเดียวไม่พอทำบุญ ตอนนี้กิ๊กเลยทำธุรกิจขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเกี่ยวกับการดูแลรูปร่างและควบคุมน้ำหนักด้วยเพราะกิ๊กต้องการเอารายได้และผลกำไรทั้งหมดมอบให้พระศาสนา ซึ่งที่ทำทุกวันนี้มีแต่ได้กับได้ เพราะมีแต่คนมีความสุข
สุดท้าย อยากทราบว่าความสุขและเป้าหมายในชีวิตคืออะไร
คุณกิ๊ก : กิ๊กมีความสุขจากการทำดี คิดดี พูดดี ได้เห็นกิเลส ความไม่ดีที่นอนเนื่องอยู่ในตัวเอง และได้เพียรที่จะลดละมันในทุก ๆ วัน มีความสุขที่ได้เจริญสติทุกครั้ง ๆ ที่เราระลึกได้ ที่ต้องพูดอย่างนี้ เพราะทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเราไม่มีอะไรยึดมั่น ถือมั่นได้ ทุกอย่างล้วนเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ฉะนั้นถ้าเราอยากมีความสุข เราต้องปฏิบัติตัวตามแนวทางที่พระพุทธเจ้าสอน คือการมีสติอยู่กับปัจจุบันขณะ กิ๊กอยากจะมีเงินเยอะ ๆ เอาไว้ทำบุญ อยากจะทำงานทางโลกให้ประสบความสำเร็จ เพื่อที่จะได้นำปัจจัยเหล่านั้นมาช่วยงานพระศาสนาได้อย่างเต็มที่ โดยจะตั้งใจทำหน้าที่ของเรา ณ ปัจจุบันให้ดีที่สุด
อย่าตัดสินคนอื่นเพียงแค่ตาเห็น
แต่จงตัดสินด้วยการกระทำจะดีกว่า
พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต
ส่วนหนึ่งจากบทสัมภาษณ์เจาะใจ 3 นางร้าย เจ้าของหัวใจนางเอ๊ก นางเอก
บทความน่าสนใจ
“ภรรยาใหม่หาไม่ยาก” บทความสำหรับใครที่กำลัง เบื่อคนรัก โดย แม่ชีศันสนีย์
“เปลี่ยนชื่อ” หรือจะสู้ “เปลี่ยนกรรม” บทความดีๆ จากแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต
ยอม “เจาะ” แม้ “เจ็บ”เพื่อให้ “จบ” บทความสำหรับคน แอบรักคนมีเจ้าของ โดยแม่ชีศันสนีย์
พ่อแม่ให้ชีวิตลูก แต่ไม่ใช่เจ้าของชีวิตลูก บทความข้อคิดดีๆ จาก แม่ชีศันสนีย์