ผู้ชายคนนี้ไม่เพียงเปลี่ยนโฉม “แป้งโบราณ” ให้กลายเป็นแป้งทันสมัยขวัญใจสาวๆ หากแต่วิธีคิดวิธีใช้ชีวิตของเขาก็น่าสนใจไม่น้อย เขาใช้ “พลังใจ” สร้างนิสัยที่ดีของตนเอง จนกลายเป็นเคล็ดลับที่ทำให้ประสบความสำเร็จในการทำงาน การเป็นพ่อและสามีที่ดี รวมทั้งการทำงานเพื่อสังคม อยากรู้เคล็ดลับดี ๆ ตามเราไปหาคำตอบจาก คุณ รวิศ หาญอุตสาหะ ได้เลย
ชีวิตวัยเด็กเป็นอย่างไรคะ
ครอบครัวผมไม่ได้ร่ำรวยอะไร ตอนผมเกิดบ้านเราค่อนข้างยากจน ผมมีพี่สาว 2 คน เราทั้งหมดอาศัยรวมกันอยู่ในห้องเดียวในบ้านของญาติผู้ใหญ่ฝ่ายคุณพ่อ จำได้ว่าเรานอนเรียงกัน 5 คน พ่อ แม่ ลูก ไม่มีใครมีห้องส่วนตัว อยู่อย่างนี้จนผมอายุ 6 ขวบ คุณพ่อคุณแม่ถึงแยกออกมามีบ้านของตนเอง ตอนนั้นพี่ผมโตเป็นวัยรุ่นแล้ว แต่ก็ยังต้องนอนรวมกับน้อง ๆ แต่ผมไม่ได้รู้สึกว่าชีวิตเราลำบากอะไรมากนัก
คุณแม่ผม (ขนิษฐา หาญอุตสาหะ) เป็นพนักงานบริษัทธรรมดา ส่วนคุณพ่อ (วิรุฬห์ หาญอุตสาหะ) เป็นวิศวกรโยธา จำได้ว่าตอนเด็ก ๆ ผมเป็นคนประหลาดมาก คือต้องทำแบบฝึกหัดภาษาอังกฤษที่เป็นลายมือคุณแม่เท่านั้น หมายความว่าคุณแม่ต้องคัดแบบฝึกหัดทั้งเล่มให้ ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่าคุณแม่เหนื่อยมาก เพิ่งมารู้ตอนหลัง แต่วิชาภาษาอังกฤษนี่เองที่ทำให้เอาตัวรอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ ทำให้ผมเอนทรานซ์ติดวิศวะ จุฬาฯ ได้ไปเรียนเมืองนอก กลับมามีงานมีการทำ ทั้งหมดเกิดมาจากสิ่งที่คุณแม่ทุ่มเทให้
คุณพ่อคุณแม่สอนอะไรบ้างคะ
คุณแม่สอนว่า ชีวิตจะเติมเต็มได้ ต้องรู้จักสังเกตพิจารณา และสร้างแรงบันดาลใจ ตอนเด็ก ๆ คุณแม่เป็นคนช่างสังเกต ชอบเอาวัสดุต่าง ๆ มาทำของเล่นให้ผม เช่น เอาไม้เอาดิน เอาอะไรมาปั้นให้เล่น
ของเล่นอย่างเดียวที่ซื้อให้คือเลโก้ เพราะคุณแม่บอกว่าถึงราคาแพงมาก แต่เป็นของเล่นที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ตอนเด็ก ๆ ผมชอบเลโก้มาก เล่นเลโก้กับคุณแม่และคุณพ่อบ่อยมาก ทุกวันนี้จึงซื้อเลโก้ให้ลูกเล่นเหมือนกัน เพราะเป็นของเล่นที่มีประโยชน์มากโดยเฉพาะเรื่องการฝึกความคิดสร้างสรรค์
คุณพ่อผมเป็นคนค่อนข้างซีเรียสและพูดน้อย แต่ชอบเล่าเรื่องงานให้ฟัง ท่านเป็นวิศวกรโยธา เวลาขับรถผ่านสะพาน มักอธิบายให้ฟังว่า สะลิงขึงเพื่อรับน้ำหนักสะพานได้อย่างไร ทำไมมันถึงต้องอยู่ตรงนี้ ทำไมสะพานถึงไม่ถล่มลงมา
อีกเรื่องที่คุณพ่อสอนคือ พื้นฐานการทำธุรกิจ เพราะคุณพ่อบริหารบริษัทของตัวเอง ท่านเคยบอกว่าบริษัทขาดทุนยังไม่เป็นไร แต่ไม่มีเงินจ่ายสำคัญที่สุด ดังนั้นต้องใส่ใจเรื่องเงินให้ดี ห้ามจ่ายเจ้าหนี้ช้า เพราะชื่อเสียงสำคัญมาก เมื่อเสียไปแล้วเอากลับคืนมาไม่ได้ ผมได้เรียนรู้ตรงนี้จากคุณพ่อเยอะมาก
จบวิศวกรรมไฟฟ้า ทำไมถึงไปทำงานด้านการเงินการธนาคาร
สาเหตุที่ผมเรียนวิศวะเพราะคุณพ่อคุณแม่อยากให้เรียนผมจึงไปเรียน แต่ความจริงผมอยากเรียนด้านการเงินตั้งแต่ตอนอยู่มัธยมแล้ว ดังนั้นหลังเรียนจบผมจึงไปทำงานด้านการเงินที่ธนาคารซิตี้แบงก์หลายปี ก่อนจะลาออกมาสืบทอดธุรกิจแป้งศรีจันทร์ของครอบครัว
ผมคิดว่าการที่เรามีพื้นฐานด้านวิศวกรรมมาก่อนทำให้สามารถนำมาปรับใช้ในการทำงานด้านการเงินได้เหมือนกัน เพราะงานวิศวกรรมและการเงินมีวิธีการคิดคล้าย ๆ กันคือการคิดอย่างมีเหตุผล คล้ายกับการทดลอง จาก 1 ไป 2 ถ้าไม่ได้ก็ต้องย้อนกลับมาทำใหม่
คลิกเลข 2 ด้านล่าง เพื่ออ่านหน้าถัดไป >>>