รวิศ หาญอุตสาหะ

เคล็ดลับพลังใจเปลี่ยนชีวิต “รวิศ หาญอุตสาหะ” ผู้พลิกตำนานแป้งศรีจันทร์

เข้ามารีแบรนดิ้ง “แป้งศรีจันทร์” ได้อย่างไรคะ  

เดิมแบรนด์นี้เรียกว่า “ผงหอมศรีจันทร์”  มีมาตั้งแต่สมัยคุณปู่ของผม  ประมาณ 60 ปีได้  ผมเข้ามาสืบทอดธุรกิจของตระกูลต่อจากคุณอา  ก่อนหน้านั้นเราไม่เคยเปลี่ยนไม่เคยทำประชาสัมพันธ์อะไร  จนกระทั่งผมเข้ามาดูแล  ก็คิดว่าถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้  แบรนด์คงค่อย ๆ หายไป  จึงพยายามขยายตลาด  เริ่มต้นจากไปคุยกับร้านค้าทั่วประเทศเป็นเดือน ๆ เพื่อไปเก็บฟีดแบ็กจากคนขายและคนซื้อ

หลังจากไปคุยกับลูกค้าทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดก็พบว่าหลายคนยังใช้สินค้าของเรา  แต่ถึงขั้นว่าเขาต้องเปลี่ยนเอาแป้งของเราใส่ไว้ในแพ็คเกจของแบรนด์อื่น  เพราะแพ็คเกจเราไม่สวย  ดูโบราณ  ส่วนความรู้สึกของร้านค้าก็เป็นไปในแนวทางเดียวกัน  คือเขารู้สึกว่าแบรนด์เราเก่าและเชย  อาจไปต่อยาก  เขาไม่อยากรับสินค้าเราไปขาย  พอเห็นทั้งคนขายและคนซื้อรู้สึกเหมือนกัน  ผมกลับมาคิดว่าต้องแก้ปมนี้ให้ออก  เพราะไม่ใช่แค่เรื่องแพ็คเกจิ้ง  ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ของสินค้า  แต่เป็นเรื่องทัศนคติของคนที่มองสินค้าเรา  แล้วการแก้ทัศนคติของคนก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

หลายคนบอกให้เปลี่ยนชื่อแบรนด์เถอะ  ไปใช้เป็นแบรนด์ชื่อฝรั่งชื่อญี่ปุ่นดีกว่าไหม  คนไทยไม่ชอบแบรนด์ไทยหรอก  แต่ผมมีแรงฮึดสู้อยู่ค่อนข้างเยอะ  คิดว่าเราต้องสู้ให้ได้ ต้องผ่านจุดนี้ให้ได้  ต้องพลิกความคิดของคนไทยว่าแบรนด์ศรีจันทร์เท่ให้ได้

 

รวิศ หาญอุตสาหะ

 

แก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างไรคะ

ตอนแรกยากหมดเลย  เพราะมองมุมไหนดูจะเป็นทางตันไปหมด  ตอนแรกที่เริ่มรีแบรนดิ้ง  ผมค่อย ๆ ลองเปลี่ยนทีละนิด  นับจากวันที่ผมเข้ามาทำงาน  ผมเปลี่ยนแพ็คเกจเป็น 10 ครั้งได้  แต่ว่าหน้าตาคล้าย ๆ ของเดิมเพราะไม่กล้าเปลี่ยนเยอะ  กลัวลูกค้าจำไม่ได้และคิดว่าเป็นของปลอม แต่พอรูปลักษณ์ไม่ได้ปรับเปลี่ยนไปทั้งหมด  ทำให้คนมองสินค้าเหมือนเดิม  คือดูเชย  ดูโบราณ  ตอนหลังจึงเปลี่ยนชื่อแบรนด์จากผงหอมศรีจันทร์มาเป็น “ศรีจันทร์” และเปลี่ยนแพ็คเกจให้ดูสวยขึ้น

ผมเน้นว่าสินค้าเราต้องดีก่อน  คือผมให้โจทย์กับทีมวิจัยว่าให้ทำแป้งให้ดีที่สุด  โดยไม่ต้องสนใจว่าต้นทุนเท่าไหร่ เพราะถ้าไม่ตั้งโจทย์แบบนี้  ก็ไม่มีทางได้โปรดักต์ออกมาดีจริง ๆ  ส่วนการตามหาพัฟฟ์เป็นอีกเรื่องที่ผมให้ความสำคัญมาก  เราตามหาพัฟฟ์มาจากหลายแหล่งทั่วโลก  จนมาเจอพัฟฟ์ที่มาจากญี่ปุ่น  ซึ่งเป็นพัฟฟ์เกรดดีมาก ๆ  จึงเลือกใช้พัฟฟ์ตัวนี้แม้ราคาแพงกว่าพัฟฟ์ในท้องตลาดมาก  กระทั่งกล่องกระดาษก็เลือกใช้สเป็คกล่องที่สูงมาก นำเข้าจากฟินแลนด์  มีโรงพิมพ์ไม่กี่โรงในเมืองไทยที่พิมพ์กล่องเราได้  ไม่อย่างนั้นจะพิมพ์กล่องอย่างที่เราต้องการไม่ได้  แล้วฝาหมุนเปิดปิดที่กันแป้งหก  ก็เป็นฝาหมุนแบบพิเศษ ไม่มีใครใช้ในตลาด  ทั้งหมดนี้คือคำว่า “คุณภาพ” คือสินค้าต้องดีก่อนอันดับแรก

เมื่อสินค้าดีแล้วก็ต้องมีที่ขายด้วย  ผมไปเจรจากับร้านที่เป็นโมเดิร์นเทรด เช่น  Boots, Watsons, 7-eleven สมัยก่อนเขาไม่คุยกับเราเลย แต่พอเรารีแบรนดิ้งและเปลี่ยนแพ็คเกจให้สวยก็สามารถเอาสินค้าเข้าไปวางขายในร้านเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น  เรียกว่าตอนนี้แป้งศรีจันทร์แพ็คเกจสีม่วงมาแรงมาก

สมัยก่อนแบรนด์ศรีจันทร์เคยถูกเปรียบเทียบกับแบรนด์ที่ดูโบราณ ๆ ราคา 10 - 20 บาท  แต่ปัจจุบันถ้าเข้าไปดูในโซเชียลมีเดียจะเห็นว่า แบรนด์ศรีจันทร์ถูกนำไปเปรียบเทียบกับอินเตอร์เนชั่นแนลแบรนด์ที่ราคาเป็นหลักร้อยหลักพันแล้ว บางคนบอกว่าแบรนด์เราดีกว่า  บางคนบอกว่าแบรนด์เราสู้ไม่ได้  แต่ว่านี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ  ประเด็นสำคัญคือเราได้ถูกย้ายจากแบรนด์ราคาถูกมาก ๆ มาอยู่กับแบรนด์อีกกลุ่มหนึ่งแล้ว  จึงเป็นเรื่องที่ถือว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดก็ว่าได้

จำได้ว่าวันที่เราได้ฟีดแบ็กดีจริง ๆ คือช่วงสัปดาห์แรกที่โฆษณาแป้งศรีจันทร์ตัวล่าสุดออกไป  คนพูดถึงแบรนด์ศรีจันทร์ในโซเชียลมีเดียเยอะมาก  พูดถึงโฆษณา  พูดถึงสินค้า  มีการลองแล้วชอบ  มีการบอกต่อ  ทำให้ยอดขายแป้งตลับสีม่วงถล่มทลาย  เรียกว่ายอดขายเกินความคาดหมายของทุกคน  นี่เป็นสิ่งที่เราก็คาดไม่ถึงว่ามันจะเกิดขึ้น  แต่ผมดีใจว่าความตั้งใจของเราที่ทำมาทั้งหมดได้ออกดอกออกผลแล้ว

 

คลิกเลข 3 ด้านล่าง เพื่ออ่านหน้าถัดไป >>>

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.