“ โยคะสมาธิ ” ศาสตร์แห่งการฝึกสติให้อยู่กับลมหายใจ
การฝึก โยคะสมาธิ เป็นเสมือนพื้นฐานของการฝึกปฏิบัติโยคะประเภทอื่น ๆ มีจุดประสงค์เพื่อเตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อมกับการนั่งสมาธิโดยการฝึกหายใจอย่างถูกวิธี
เดิมเชื่อว่าโยคะสมาธิเป็นวิถีหลักแห่งการปฏิบัติตนของเหล่าโยคีทั้งหลายที่บำเพ็ญตนอยู่ ณ เทือกเขาหิมาลัยมาแต่ครั้งบรรพกาล อาจารย์ธนิยะ เกวลี ผู้นำกลุ่มหิมาลายันโยคะสมาธิในประเทศไทยกล่าวว่า
“โยคะสมาธิมีมาตั้งแต่ก่อนยุคพระเวทและถ่ายทอดให้แก่ผู้ที่สนใจปฏิบัติ โดยหิมาลายันบูรพาจารย์ หรือท่าน สวามี รามา โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ผู้ปฏิบัติเข้าใจตนเองอย่างถ่องแท้ ทั้งในด้านร่างกายจิตใจ ลมหายใจ และอารมณ์ ส่วนเป้าหมายสูงสุดของการปฏิบัติโยคะสมาธิคือ การช่วยคนให้เกิดปัญญาในการหลุดพ้นจากวงจรการเกิด แก่ เจ็บ ตาย”
การฝึกโยคะสมาธิมีลักษณะคล้ายกับท่าบริหารร่างกาย แต่ผู้ปฏิบัติต้องมีสติ ตื่นรู้ในทุกอิริยาบถ สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นสามารถฝึกท่าง่าย ๆ ดังนี้
ท่ายืน ยืนแยกขาระดับหัวไหล่มีสติอยู่ที่ฝ่าเท้าเพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างขาทั้งสองข้างหายใจเข้า ค่อย ๆ กางแขนออก ยกแขนขึ้นเหนือศีรษะ หายใจออกและผ่อนคลายอยู่ในท่านี้ จากนั้นค่อย ๆวางแขนลงที่เดิม
ท่าบริหารสะโพก หายใจเข้า จากนั้นค่อย ๆ หมุนสะโพกตามเข็มนาฬิกา ปฏิบัติอย่างช้า ๆ ไปตามลมหายใจ หลังจากหมุนตามเข็มนาฬิกา 3 รอบแล้ว ให้ทำเช่นเดียวกันในทิศทางทวนเข็มนาฬิกาอีก 3 รอบ
ท่าบริหารหัวเข่า ยืนให้ขาชิดกัน จากนั้นย่อตัวลง แล้วนำมือมาวางไว้ตรงหน้าขา เริ่มหมุนหัวเข่าตามเข็มนาฬิกาอย่างช้า ๆ 3 รอบจากนั้นหมุนหัวเข่าในทิศทางทวนเข็มนาฬิกาอีก 3 รอบ
คลิกเลข 2 ด้านล่าง เพื่ออ่านหน้าถัดไป
ท่าบริหารข้อเท้า ยืนทิ้งน้ำหนักไปที่ขาข้างขวา และยกขาข้างซ้ายขึ้น เริ่มหมุนข้อเท้าซ้ายตามเข็มนาฬิกา 3 รอบอย่างช้า ๆ และหมุนทวนเข็มนาฬิกาอีก 3 รอบ แล้วกลับมายืนในท่าเดิม ทำสลับข้างโดยทิ้งน้ำหนักไปที่ขาซ้ายและยกขาข้างขวาขึ้นเริ่มหมุนข้อเท้าขวาตามเข็มนาฬิกา 3 รอบอย่างช้า ๆ และหมุนทวนเข็มนาฬิกาอีก 3 รอบ
ท่าศพ นอนหงายพร้อมกับกางแขนและขาออกในระยะที่ร่างกายรู้สึกสบาย จากนั้นค่อย ๆ หลับตาและทิ้งน้ำหนักตัวลงบนพื้นให้ช่วยพยุง ปล่อยวางความคิด ตั้งสติให้ระลึกรู้อยู่ที่ร่างกายของเราตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า หายใจด้วยกะบังลม เมื่อหายใจเข้า ท้องจะพอง และเมื่อหายใจออก ท้องจะยุบ ผ่อนคลายทุกส่วนของร่างกาย
การปฏิบัติโยคะสมาธิในท่านั่ง คือการนั่งบนอาสนะหรือเบาะนั่งซึ่งยกระดับสูงกว่าพื้นเล็กน้อย เพื่อยกระดับสะโพกให้สูงขึ้น วิธีนี้จะทำให้หลังของเราตั้งตรงได้ง่ายขึ้นเพราะโดยปกติถ้าหากเรานั่งสมาธิกับพื้นเราจะต้องเกร็งช่วงหลังเพื่อตั้งลำตัวให้ตรงทำให้เกิดอาการปวดหลังได้
เทคนิคการหายใจอย่างถูกวิธี ได้แก่ การหายใจด้วยกะบังลม เราสามารถดูลมหายใจของตนเองได้โดยการวางมือขวาทาบไว้ที่หน้าอก และวางมือซ้ายไว้บนท้อง ขณะที่หายใจเข้า ท้องจะพอง แต่หน้าอกจะอยู่นิ่งและเมื่อหายใจออก ท้องจะยุบ
ขณะปฏิบัติ หากเรามีสติอยู่กับร่างกายจะพบว่ามีความร้อนเกิดขึ้น ซึ่งก็คือลมปราณในร่างกายของเรานั่นเอง ดังนั้นเมื่อฝึกเป็นประจำจะมีผลทำให้สุขภาพกายและสุขภาพจิตดีขึ้นด้วย
การฝึกโยคะสมาธิมีประโยชน์คือ หนึ่ง ช่วยให้ผู้ฝึกมีบุคลิกภาพดีขึ้น เพราะเราได้ฝึกเคลื่อนไหวอย่างมีสติ สอง ช่วยให้จิตใจสงบความเครียดลดลง ส่งผลให้หลับง่าย สาม ช่วยให้จิตใจผ่องใส เปี่ยมไปด้วยความกระตือรือร้น และมีพลังในการดำเนินชีวิต
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่
Email Address : ahymsinthailand
@gmail.com Facebook : Ahymsinthai-
land Himalayanyoga โทร. 08-1932-5413