“เมื่อ สมเด็จโต เข้าฝันผม” เรื่องราวอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นจริง
ผลบุญอาจส่งผลให้ใครหลายคนพบเจอแต่สิ่งดีๆ หรือความมหัศจรรย์ แต่สำหรับผม สิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทางให้ได้รู้จักการทำบุญเสียมากกว่า ต่อไปนี้เป็นเรื่องราวความอัศจรรย์เกี่ยวกับ สมเด็จโต ที่เกิดขึ้นกับตัวผมเอง
ผมชื่อ ประวิทย์ ศรีกลชีพ อายุ 54 ปี เป็นเจ้าของกิจการอู่ซ่อมรถอยู่ที่โชคชัย 4 ตั้งแต่เป็นวัยรุ่นจนอายุสามสิบ ผมใช้ชีวิตอย่างสุดเหวี่ยง ทั้งดื่มเหล้า เที่ยวผู้หญิง และใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย เวลานั้นผมยังไม่รู้จักธรรมะ พระพุทธรูปที่บ้านผมไม่เคยไหว้ แม่คือที่พึ่งทางใจเพียงอย่างเดียว ทุกเรื่องของแม่เป็นเรื่องสำคัญ ผมดูแลท่านอย่างดีเสมอมา ตลอดเวลาแม่ขอให้ผมเลิกเที่ยวผู้หญิง เลิกกินเหล้า แต่ผมยังดื้อรั้นเพราะคึกคะนอง จนเมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ผมจึงตั้งสติและชีวิตก็เริ่มเปลี่ยนไป
เมื่อผมไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่ชอบสะสมพระเครื่อง และได้เห็นรูปวัดบนปกหลังของนิตยสารฉบับหนึ่ง ผมหยิบมาดูและอุทานว่า “เฮ้ย…ย นี่วัดอะไร สวยมาก ผมอยากไปเที่ยว”
หลังจากนั้นเมื่อทราบว่าคือวัดท่าซุงจังหวัดอุทัยธานี ผมจึงขับรถไปเที่ยวกับลูกน้องในวันที่ 30 ตุลาคม 2536
วันนั้นวัดท่าซุงจัดงานครบรอบ 1 ปี แห่งการมรณภาพของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ลูกน้องผมหลายคนรู้สึกว่าเป็นมงคลกับชีวิตมาก จึงพากันขอบคุณที่ผมพาพวกเขามาเที่ยว ส่วนตัวผมรู้สึกเพียงว่าวัดงดงามมากและดีใจที่ได้มา ผมเดินไหว้พระพุทธรูปจนทั่วบริเวณวัด จากนั้นก็เสี่ยงเซียมซีและได้คำทำนายว่า
“จงหมั่นทำบุญเสียตั้งแต่วันนี้ ยังมีวิบากกรรมรออยู่เบื้องหน้า แล้วผลบุญนี้จะช่วยชีวิตในบั้นปลาย”
แม้บอกตัวเองว่าไม่เชื่อ แต่ผมก็จำคำทำนายจนขึ้นใจ เมื่อเดินทางออกจากวัด ลูกน้องผมหลายคนหาซื้อลอตเตอรี่หมายเลขทะเบียนรถยนต์ที่ผมขับมา แต่ไม่มีลอตเตอรี่เลขดังกล่าว ผมไม่เคยเล่นหวยจึงไม่ได้สนใจ
จนเมื่อกลับมาถึงบ้านแม่จึงให้ผมซื้อลอตเตอรี่เลขทะเบียนรถเก็บไว้ 2 คู่ ครั้งนั้นผมถูกหวยรางวัลเลขท้าย 3 ตัว
2 คู่ นับแต่นั้นเป็นต้นมาผมสงสัยมาตลอดว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงหรือ และจริงหรือที่ทำบุญแล้วจะได้ผลบุญ แล้วผมก็ได้คำตอบเมื่อคืนหนึ่งผมรีบเข้านอนแต่หัวค่ำ เพราะต้องเดินทางไปต่างจังหวัดตั้งแต่เช้ามืด ผมฝันว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) และลูกศิษย์คนหนึ่งยืนอยู่หน้าวัดระฆัง ส่วนผมยืนอยู่ริมถนนไม่ไกลนัก เมื่อผมกำลังจะเปิดประตู ลูกศิษย์ของสมเด็จโตเดินมาบอกผมว่า
“พระอาจารย์ให้มาบอกว่า อย่าขับรถคันนี้ออกไป”
ด้วยความดื้อรั้น ผมจึงเดินไปหาท่านและบอกว่า
“มายุ่งอะไรกับชีวิตผม”
ทันใดนั้นรถของผมก็แล่นออกไปในถนนราวกับมีคนขับ แล้วก็ถูกรถบรรทุกที่ขับสวนมาด้วยความเร็วพุ่งชนจนพังเสียหายยับเยิน ผมทั้งตกใจ เสียใจ ก่อนที่สมเด็จโตและลูกศิษย์จะเดินจากไป ผมจึงกราบขอขมาท่านแทบเท้าทั้งน้ำตา
ผมลืมตาตื่นขึ้นและระลึกรู้สึกตัวในอีกอึดใจต่อมาว่านอนอยู่บนเตียง แต่ผมก็ยังไม่อยากเชื่อ เพราะเหตุการณ์ในความฝันชัดเจนราวกับเกิดขึ้นจริง หูยังได้ยินเสียงรถยนต์ชนกันโครมครามจนแหลกลาญ แล้วที่สำคัญผมร้องไห้จริง ๆ
วันนั้นผมสิ้นสงสัยว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงหรือไม่ ผมไม่สนใจอีกต่อไปว่าทำบุญแล้วจะได้บุญมากหรือน้อยอย่างไร ผมทำบุญตามกำลังเพราะทำให้รู้สึกสบายใจ ทุกครั้งที่ไปต่างจังหวัดผมจะต้องไปไหว้พระทำบุญ ผมเริ่มสวดมนต์ไหว้พระกับแม่ในห้องพระ และมักจะซื้ออาหารและขนมไปมอบให้ผู้ป่วยในโรงพยาบาลและสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่เสมอ
จนเมื่ออายุ 53 ผมป่วยเป็นโรคหัวใจและต้องผ่าตัดซึ่งทุกข์ทรมานมาก แต่ผมก็หายดีและกลับมาใช้ชีวิตได้อีกครั้ง
การเจ็บป่วยครั้งนั้นทำให้ผมนึกถึงคำทำนายจากใบเซียมซีที่วัดท่าซุง ผมรู้สึกโชคดีมากที่ได้รู้จักการทำบุญและศึกษาธรรมะในวันที่ยังไม่สายเกินไป
เรื่อง ประวิทย์ ศรีกลชีพ เรียบเรียง Ametal ภาพ สรยุทธ พุ่มภักดี
บทความน่าสนใจ
วัดระฆัง วัดสมเด็จโต พรหมรังสี วัดที่ใครๆ ก็อยากไป