มิตรภาพหลังสงครามรวันดา เมื่อหญิงชาวทุตซี่ ให้อภัยชาวฮูตูผู้เข่นฆ่าครอบครัวของเธอ
“ทุกครั้งที่มองแขนตัวเอง ฉันไม่เคยลืมว่าเกิดอะไรขึ้น”
มือขวาที่กุดด้วนของ อลิซ มูคารูรินดา ( Mukarurinda) ยื่นไปจนใกล้พอที่จะสัมผัสมือซ้ายของ เอมมานูเอล นายีซาบา (Emmanuel Ndayisaba) มือข้างเดียวกันกับที่จับอาวุธฟันแขนเธอ ซ้ำร้ายยังฆ่าลูกน้อยของเธอเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนด้วย
ทั้งสองต่างเป็นชาวรวันดาที่มีหน้าตาละม้ายคล้ายกันอย่างแยกไม่ออก หากแต่มิตรภาพกลับถูกกางกั้นด้วยชื่อเรียกชนเผ่า อลิซเป็นชาวทุตซี่ ส่วนเอมมานูเอลเป็นชาวฮูตู
รวันดาแม้จะเป็นประเทศยากจน แต่ครั้งหนึ่งก็เคยเป็นเมืองที่สงบสุข ชนเผ่าทุตซี่และฮูตูต่างเป็นเพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมโรงเรียน เจ้านายลูกน้อง และสามีภรรยา ทว่าปัญหาการเมืองที่ร้อนระอุได้ทำลายความสงบสุขนั้นลง ชาวฮูตูเสียเปรียบจากการแบ่งปันทรัพยากรอย่างไม่เป็นธรรม และถูกรัฐบาลทุตซี่กดขี่ข่มเหงมาโดยตลอด…ขยะที่เก็บซุกอยู่ใต้พรมนี้จึงทำให้ความขัดแย้งรอวันปะทุ
ในที่สุดมิตรภาพก็จบสิ้นลง เมื่อข่าวลือโหมกระพือผ่านวิทยุว่า ชนเผ่าทุตซี่ลอบสังหารประธานาธิบดี ซึ่งเป็นชาวฮูตู ถูกผิดไม่มีใครรู้…รู้แต่เพียงว่า “ทุตซี่คือกบฏ คือแมลงสาบ และสมควรต้องตาย!” การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จึงเปิดฉากขึ้น…ทุกซอกทุกมุมของรวันดาเต็มไปด้วยรอยเลือดและคราบน้ำตา
เอมมานูเอลในเวลานั้นเพิ่งอายุได้เพียง 23 ปี เขาคือชายหนุ่มผู้มีจิตใจอันบริสุทธิ์ไม่เคยคิดจะเข่นฆ่าใคร หากแต่ต้องทำตามคำสั่งของพวกเดียวกัน
“ผมรู้สึกแย่มาก แต่จำเป็นต้องทำ พวกเขาปลุกปั่นเราและบอกเราว่า ทุตซี่คือปีศาจร้าย หลังจากฆ่าครอบครัวแรก ผมก็รู้สึกเหมือนกำลังฆ่าศัตรู”
เหล่าฮูตูกวาดล้างทุตซี่ทุกคนไม่ให้เหลือรอด บ้านชาวทุตซี่ถูกเผาจนเกลี้ยง รถถูกขโมยไปหมด พวกเขาเริ่มไล่ล่าเหล่าแกนนำ คนที่มีชื่อเสียง และพวกที่มีการศึกษาก่อน
เวลานั้นครอบครัวของอลิซลี้ภัยไปอยู่ในโบสถ์ แต่ความโหดร้ายก็ตามไปเยือนถึงที่ เหล่าฮูตูปาระเบิดเข้าไปในโบสถ์ ใครวิ่งหนีออกมาจากข้างในก็ต้องโดนฟันตายอยู่ข้างนอก อลิซรีบพาตัวเองพร้อมลูกสาวและหลานสาววัยเก้าขวบที่ยังรอดชีวิตวิ่งหนีตายเข้าไปในป่า
เธอซ่อนตัวอยู่ในบึงเป็นวัน ๆ โผล่เฉพาะหัวขึ้นมาหายใจ แต่โชคชะตาไม่เข้าข้าง ในที่สุดพวกฮูตูก็ตามมาเจอ พวกเขาฆ่าหลานสาวและลูกสาวตัวน้อยของเธอต่อหน้าต่อตา…จากนั้นจึงหันมาที่เธอ
อลิซสัมผัสได้ถึงความตายที่รออยู่ตรงหน้า สัญชาตญาณทำให้เธอยกแขนขวาขึ้นเพื่อป้องกันตัวเอง…เอมมานูเอลจำหน้าอลิซได้ เพราะทั้งสองคนเป็นเพื่อนร่วมโรงเรียนกัน แต่เขาจำชื่อเธอไม่ได้ เขาใช้มีดสปาร์ต้าฟันแขนขวาของเธออย่างบ้าระห่ำ จากนั้นก็กรีดใบหน้าเธอ เพื่อนชาวฮูตูที่ตามมาสมทบใช้หอกแทงเข้าที่ไหล่ซ้าย…แล้วพวกเขาก็จากไป ทิ้งให้เธอนอนจมกองเลือดอยู่ตรงนั้น
คลิกเลข 2 ด้านล่าง เพื่ออ่านหน้าถัดไป
อลิซหวาดกลัวไม่ได้สติ เลือดไหลนองอาบตัวเธอ จนสามวันผ่านไปจึงมีคนมาพบ เคราะห์ดีที่เธอยังไม่ตาย แต่เรื่องจริงอันน่าเศร้าคือ เธอสูญเสียมือขวาไปแล้ว และที่ร้ายยิ่งกว่านั้นก็คือ เธอได้เสียลูกน้อยไปอย่างไม่มีวันกลับ
ความรู้สึกบาปเกาะกินใจเอมมานูเอล เหยื่อทุกคนที่เขาฆ่าตามมาหลอกหลอนแม้ในความฝัน ในที่สุดเขาจึงตัดสินใจมอบตัวหลังสงครามสิ้นสุดลงไปได้สองปี เขาถูกจองจำในคุก 6 ปีก่อนจะได้รับอภัยโทษ
“ผมถามตัวเองมาตลอดว่า ทำไมผมต้องทำตัวเหมือนคนโง่เง่า ที่หลงเชื่อคำพูดคนอื่นเพียงไม่กี่คำว่า คนนั้นชั่ว คนนี้เลว”
เอมมานูเอลพยายามตามหาครอบครัวของเหยื่อทุกคน เพื่อจะกล่าวคำขอโทษต่อเหตุการณ์เลวร้ายในครั้งนั้น เขาเข้าร่วมกลุ่มกิจกรรมเพื่อพูดคุยไกล่เกลี่ยกันระหว่างนักฆ่าและผู้รอดชีวิตจากสงคราม และที่นั่นเองที่ทำให้เขาได้พบกับอลิซ
เขาคิดว่าเธอตายไปแล้วด้วยซ้ำ เมื่อเจอหน้ากันครั้งแรก เขาทั้งรู้สึกตกใจและเศร้าเสียใจในเวลาเดียวกัน จนต้องคอยหลบหน้าเธอ แต่สำนึกแห่งความผิดบาปในใจ ทำให้ในที่สุดเขาตัดสินใจคุกเข่าลงตรงหน้าเธอ และอ้อนวอนเธอเพื่อขออภัย
เขาฆ่าลูก ฆ่าหลาน ฆ่าคนในครอบครัวเธอกว่า 30 ชีวิต รอยแผลลึกที่ข้อมือทำให้ภาพความโหดเหี้ยมในวันนั้นยังคงติดแน่นอยู่ในความทรงจำ เธอใช้เวลาครุ่นคิดถึงเรื่องนี้อยู่สองสัปดาห์…แล้วในที่สุดเธอก็ตัดสินใจวางความโกรธแค้นที่สั่งสมมายี่สิบปีเต็มนั้นลง เมื่อคิดได้ว่า ไม่รู้จะเก็บความแค้นไว้ต่อไปเพื่ออะไร
“ฉันไม่ได้ติดใจอะไรอีกแล้ว ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่า การให้อภัยเป็นเรื่องที่แสนง่ายดาย”
แม้พวกเขาจะเคยเป็นศัตรูกัน แต่วันนี้ทั้งสองกลับมาอยู่อาศัยในละแวกเดียวกัน ช็อปปิ้งห้างเดียวกัน และกลายมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เอมมานูเอลเข้าร่วมกลุ่มกิจกรรมช่วยสร้างบ้านให้ผู้รอดชีวิตจากสงคราม และได้รับเลือกให้เป็นรองประธานกลุ่ม ส่วนอลิซนั้นแน่นอนว่า เธอได้รับการยกย่องอย่างมากสำหรับการให้อภัยที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้
แม้เรื่องหนักหนาสาหัสถึงขั้นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ชาวรวันดาเขายังให้อภัยกันได้…ก็ได้แต่หวังว่า ความโกรธแค้นในใจคนไทยจะจางหาย และยอมให้อภัยกันในเร็ววัน โดยไม่ต้องรอให้มีการเสียเลือดเนื้อเสียก่อนเหมือนในรวันดา
ภาพ AP
Secret คือแรงบันดาลใจ
สั่งซื้อนิตยสารหรือสมัครสมาชิก Secret ได้ที่ 0-2423-9889
ทาง Naiin.com : https://www.naiin.com/magazines/title/SC/