ใครที่พอถึงวันหยุด ก็นึกไม่ออกสักทีว่าจะไปเที่ยวไหนดี อยู่บ้านนอนเล่นเฉยๆ ดีกว่า อย่าเพิ่งถอดใจค่ะ ในกรุงเทพฯ ใกล้ๆ ยังมีสถานที่น่าเที่ยวให้เราได้ไปเดินเล่นหย่อนใจ แถมยังแฝงกลิ่นอายประวัติศาสตร์ให้ได้ซึมซับ ที่อยากจะแนะนำและพาเที่ยววันนี้ ก็คือ ล้ง1919 และ อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ค่ะ
รอบนี้ goodlifeupdate ได้มีโอกาสตามติด คณะของ KTC มาเปิดหูเปิดตาแถวย่านเก่าในเมืองกรุง ที่แรกที่เรามาถึงก็คือ อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ค่ะ ก้าวแรกก็สัมผัสได้ถึงความร่มรื่นของสีเขียวที่แสนจะสดชื่น เดินเข้ามาด้านในเราจะเจอกับ พระราชานุสาวรีย์ของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ประดิษฐานอยู่ท่ามกลางเงาไม้สีเขียวขจี
:: อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ::
ดินใต้ฐาน พระราชานุสาวรีย์ นั้นนำมาจากสถานที่ต่างๆ ที่พระองค์เคยเสด็จพระราชดำเนินประกอบพระราชกรณียกิจค่ะ
:: อุทยานที่คงไว้ซึ่งวิถีเก่าในย่านนิวาสสถานเดิมของ ‘แม่’ ::
ที่มาของอุทยานแห่งนี้ เกิดจากความสนพระทัยของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (ร.9) ในความเป็นอยู่ของแม่ และทรงโปรดให้อนุรักษ์ อาคารเก่าในย่านนิวาสสถานเดิม ครั้งทรงพระเยาว์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ให้เป็นพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติ สมัยที่ยังทรงเป็นสามัญชน สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเคยประทับอยู่ในซอยช่างทอง ซึ่งลักษณะของบ้าน สร้างขึ้นตามพระนิพนธ์ ‘แม่เล่าให้ฟัง’ ของสมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
:: บ้านจำลอง ที่แค่มองก็พอเพียง ::
บ้านจำลองหลังนี้เป็นเรือนแถว ที่จำลองมาเพียงห้องเดียว มีห้องพระและห้องทำทองเล็กๆของพระชนกชู ห้องนอนและมุ้งชุดเดียว อีกห้องคือห้องครัวที่มีกำแพงกั้น ระเบียงด้านหน้าและด้านข้างปูด้วยไม้ และตั้งอยู่ห่างจาก วัดอนงคาราม ประมาณ 200 เมตร ตัวบ้านทำให้เข้าใจถึงวิถีชีวิตของผู้คนในซอยช่างทอง ช่วงปลายรัชกาลที่ 5 – 6 ซึ่งดูสมถะ บ่งบอกที่มาของพระอัธยาศัยอันเรียบง่าย และ ไม่โปรดความหรูหราของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ห้องนอนและหมอน มุ้ง
ห้องครัวซึ่งมีผนังไม้กั้นไว้
นอกจากบ้านจำลองแล้ว ยังมีการจำลองแผงขายของของ ป้าซ้วย พี่สาวของพระชนนีคำ ผู้อุปการะเลี้ยงดูพระองค์ต่อจากพระชนกชู และ พระชนนีคำ ซึ่งถึงแก่กรรมตั้งแต่พระองค์ยังทรงพระเยาว์ โดยป้าซ้วยมีอาชีพมวนบุหรี่ขาย และยังมีการจำลอง ตู้หนังสือ ของร้านเช่าหนังสือที่เมื่อยังทรงพระเยาว์ มักเสด็จยืมหนังสือที่ร้านบ่อยจนเจ้าของร้านให้ยืมฟรีไม่คิดสตางค์ แสดงถึงพระอัธยาศัยรักการอ่านของพระองค์ได้เป็นอย่างดี
แผงขายบุหรี่ของป้าซ้วย และ ตู้หนังสือเช่า
บอกเลยว่าภาพที่เราเก็บมายังไม่ได้ครึ่งความสวยงามและความร่มรื่นของจริง ภายในอุทยานยังมี อาคารพิพิธภัณฑ์ และ ศูนย์ศิลป์ศรีพิพัฒน์ (แพ บุนนาค) ที่ใช้จัดแสดงพระราชประวัติ และ พระราชกรณียกิจที่ผ่านมา ของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ด้วย
นอกจากจะได้มาเห็นข้าวของเครื่องใช้ และวิถีชีวิตของคนในชุมชนบ้านช่างทองสมัยปลายรัชกาลที่ 5 และ รัชกาลที่ 6 แล้ว อุทยานแห่งนี้ยังร่มรื่นมากๆ แถมต้นไม้หลายต้นยังเป็นต้นที่เขาอนุรักษ์ไว้ตั้งแต่อดีต เหมาะแก่การมาเดินเล่นชมประวัติศาสตร์ และพักผ่นหย่อนใจจริงๆ สำหรับใครที่สนใจจะมาเที่ยวชมที่นี่บ้าง สามารถเดินทางมาได้ทั้งทางรถ และทางเรือ ดังนี้ค่ะ
ซอยสมเด็จเจ้าพระยา 3 เขตคลองสาน กรุงเทพฯ โทร : 0-2437-7799, 0-2439-0902
รถประจำทาง : สาย 6, 42, 43
ทางเรือ (เฉพาะเรือท่องเที่ยว) : ขึ้นที่ท่าเรือศาลาทรงจีน (ศาลเจ้าพ่อกวนอู)
:: ล้ง 1919 ::
ไปกันต่อยังสถานที่ท่องเที่ยว เปี่ยมกลิ่นอายประวัติศาสตร์ไม่แพ้กัน ที่ ล้ง 1919 กันค่ะ แต่ก่อนที่นี่เป็นท่าเรือกลไฟ เรียกกันว่า ฮวยจู่ล้ง หรือฮวยจู่ล่ง ทุกวันนี้เราเรียกว่า ล้ง หมายถึงจุดพักสินค้า หรือที่เก็บของ ส่วนเลข 1919 มาจากปี (ค.ศ.) ที่นายตัน ลิบ บ๊วย ต้นตระกูลหวั่งหลีเข้ามารับช่วงท่าเรือแห่งนี้ และปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นสำนักงานและโกดังเก็บสินค้า
โคมไฟเรียงราย ถ้าใส่ชุดจีนมาถ่ายรูปน่าจะเข้ากั๊นเข้ากัน
เมื่อผ่านกำแพงเข้ามา เราจะพบกับแท่นบูชา เจ้าแม่หม่าโจ้ว ที่ตั้งตะหง่านอยู่กลางลาน เจ้าแม่หม่าโจ้ว คือเทพธิดาผู้รักษามหาสมุทร และผู้พิทักษ์พระพุทธองค์ มีบางคนตีความว่าพระองค์เป็นองค์เดียวกับ พระโพธิ์สัตว์กวนอิม ด้วย เป็นเพราะบริเวณนี้ในอดีต คือท่าเรือที่ชาวจีนมักจอดเทียบท่าเพื่ออพยพมาตั้งรกราก และ ทำการค้า ที่นี่จึงมีการตั้งศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว ไว้ให้ได้กราบไหว้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลกันค่ะ
แท่นบูชา เจ้าแม่หม่าโจ้ว
มาถึงที่แล้วต้องจุดธูปสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลให้ชีวิตสักหน่อย ^^
รูปเคารพจำลองของเจ้าแม่หม่าโจ้ว
รูปปั้นเจ้าแม่ของจริง ซึ่งตั้งอยู่บนชั้นที่ 2
วิวที่มองลงมาจากชั้นสอง สวยสดงดงามมาก !
หลังจากไหว้เจ้าแม่หม่าโจ้วกันเสร็จ ก็ได้ฤกษ์เดินดูบรรยากาศภายในล้ง 1919 กันแล้ว ความสวยของลวดลายศิลปะจีนบนกำแพง และอาคารสำนักงานไม้แบบโบราณ ยั่วให้เรากดชัตเตอร์รัวๆ ไปหลายแชะ แน่นอนว่าเราไม่พลาดเดินขึ้นไปชื่นชมห้องต่างๆ บนชั้นสอง และแวะไหว้รูปปั้นเจ้าแม่หม่าโจ้วที่ชั้นบน ซึ่งเป็นองค์ที่เก่าแก่ที่สุดด้วย
ห้องเรียนอักษรที่ให้ฟิลลิ่งเหมือนนั่งอยู่ในเมืองจีนจริงๆ
ลายจีนสวยๆ บนกำแพงไม่ได้มีแต่รูปนี้เท่านั้นนะ แอบงุบงิบไว้ให้ลองมาเที่ยวมาเห็นเอง อิอิ
นอกจากวิวสวยๆ ที่น่าถ่ายเก็บไว้เป็นอีกหนึ่งความทรงจำแล้ว ที่ล้ง 1919 ยังมีร้านอาหารให้ได้อิ่มท้อง หย่อนใจกันด้วยค่ะ ใครที่สนใจอยากมาเที่ยว ล้ง1919 สามารถเดินทางมาได้ตามนี้เลยค่ะ
รถประจำทาง : สาย 6 – 43 – 88 – 167 – 120 – 57
ขอบคุณกิจกรรม “ย้อนกาลเก่า เล่ารัตนโกสินทร์ ยินผ่านวรรณกรรม” KTC